ชาวสวนปาล์มโอดราคาปาล์มดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 2.50-2.60 บาทต่อกก. วอนรัฐดูแลหวั่นลดไม่หยุด สมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลแจงเหตุ สต็อกน้ำมันปาล์มดิบพุ่งกว่า 3 แสนตัน ชี้ผลิตล้น ส่งออกไม่ได้หลังราคาโลกดิ่ง

นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาปาล์มทะลายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วง1-2เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 3.60-3.80 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ปรับตัวลดลงมาอยู่เฉลี่ยระดับ 2.50-2.60 บาทต่อกก.ซึ่งถือเป็นอัตราเฉลี่ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสิ่งที่น่ากังวลคือระดับราคาดังกล่าวอาจมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเมื่อผลผลิตปาล์มยังคงมีผลผลิตอยู่อีกระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

" ขณะนี้เพิ่งเริ่มฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตราคายังระดับนี้เรากังวลว่าจะลดลงไปอีกซึ่งแค่นี้เกษตรกรก็ประสบกับภาวะขาดทุนแล้วเพราะหากจะให้คุ้มต้นทุนจริงควรจะอยู่ระดับไม่น้อยกว่า 3 บาทต่อกก."นายชโยดมกล่าว

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระทรวงพลังงานจะมีนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษหรือบี 20 เพื่อช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) แต่ก็พบว่าดูดซับได้ไม่มากนักเพราะถูกจำกัดการใช้เฉพาะกลุ่มรถบรรทุกเท่านั้นเนื่องจากจุดจำหน่ายบี 20 จะอยู่ตามจุดจอดรถ(ฟลีต)รถบรรทุกเป็นหลัก ขณะที่ผู้ใช้อื่นๆ เช่นกลุ่มเกษตรกร ที่สามารถนำไปใช้กับเครื่องจักรการเกษตรได้แต่การรวมตัวกันเพื่อที่จะขอให้รัฐมาทำจุดเติมไม่ง่ายเพราะเกษตรกรกระจายอยู่ทั่วไปซึ่งก่อนหน้าได้เสนอให้เปิดจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม)ทั่วไปแต่กระทรวงพลังงานไม่สามารถทำได้เพราะบี 20 มีราคาต่ำกว่าดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตรหากเปิดให้ใช้จะส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้ผิดประเภทเพราะบี 20 ไม่สามารถใช้กับรถทั่วไป

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าราคาปาล์มค่อนข้างตกต่ำซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากซีพีโอ ที่อยู่ระดับสูงกว่า 300,000 ตันเพราะผลผลิตปาล์มของไทยยังคงทยอยออกมาต่อเนื่อง ประกอบการกับใช้ดีเซลในช่วงไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่ไม่ได้ขยายตัวนักเพราะเป็นช่วงฤดูฝนทำให้การใช้ บี 100 ต่ำไปด้วย นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 17 บาทต่อกก.เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังต่างประเทศได้เลยในขณะนี้