ศึกษาธิการจังหวัดสั่งตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง ผอ.ฉาว แต่ทอดเวลายาวตามระเบียบถึง 4 เดือน เจ้าตัวส่งใบแพทย์ลาป่วยปอดอักเสบ เตรียมส่งทีมสหวิชาชีพสอบปากคำ นร.ม.2 เตือนแม่ถ้ายังกีดกันจะใช้อำนาจตามกฎหมาย

    นายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มกราคมนี้ ว่า ภายในวันเดียวกันจะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมกับมีคำสั่งให้พักราชการนายณฐาภพ บุญทองโท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพฤติกรรมชู้สาวกับนักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี โดยคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีทั้งหมดไม่เกิน 5 คน ประกอบด้วย ระดับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และเจ้าหน้าที่นิติกรชำนาญการ ซึ่งรายชื่อของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนั้นไม่ขอเปิดเผย เพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการเป็นไปอย่างอิสระและไม่มีความกดดันใดๆ

    รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า ในส่วนของนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ก็ต้องเข้าให้ปากคำในฐานะผู้เสียหายกับคณะกรรมการ โดยมีสหวิชาชีพเข้าร่วมรับฟังด้วย ทั้งนี้ การสอบสวนวินัยร้ายแรง ผอ.โรงเรียนรายนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 120 วัน ซึ่งหากผิดจริงมีโทษปลดออกและไล่ออกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายณฐาภพยังคงขาดราชการติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เพียงแต่โทรศัพท์มาลางานอ้างว่าป่วย ซึ่งหากนายณฐาภพขาดราชการติดต่อเกิน 15 วันโดยไม่มีเหตุผลสมควร ก็จะถูกลงโทษฐานความผิดวินัยร้ายแรงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 (สพป.เขต 6) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งมีข่าวว่าได้กลับบ้านพักในอำเภอบัวใหญ่แล้ว แต่ยังถูกผู้ปกครองไม่ยอมให้เข้าพบ โดยอ้างว่าเด็กยังมีสภาพจิตใจไม่พร้อม ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ยังคงถูกผู้ปกครองกีดกัน ไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะพิจารณาใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เข้าไปช่วยเหลือดูแลเด็กต่อไป

    นายสุวิทย์กล่าวด้วยว่า ตามที่นายณฐาภพติดต่อตำรวจจะขอเข้ามอบตัวในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ตนจะได้ประสานไปยัง ผอ.สพป.เขต 6 และรักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านป่าตอง ให้เข้าแจ้งข้อหาต่อนายณฐาภพตามผลการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วย

    "ผมทราบว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่โดนล่วงละเมิดจาก ผอ.คนนี้ แต่เขายังไม่ออกมา ซึ่งขณะนี้โผล่มา 3-4 คน และทราบข่าวว่ายังมีโรงเรียนเอกชนด้วย ผมเรียนว่าประเด็น ผอ.คนนี้ ถ้าจะไม่ผิดเลยน่าจะเป็นไปไม่ได้ และมาตรฐานโทษอย่างนี้ถือว่าร้ายแรง"

    นายสนอง สุดสะอาด ผู้อำนวยการ สพป.นครราชสีมา เขต 6 กล่าวว่า หลังมีคำสั่งให้นายณฐาภพมาช่วยราชการที่ สพป.เขต 6 ล่าสุดได้รับการติดต่อจากเจ้าตัวโทรศัพท์มาขอลาป่วย 28-30 ม.ค.นี้ พร้อมส่งเอกสารใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลในจังหวัดชัยภูมิระบุเป็นโรคปอดอักเสบ โดยรับปากที่จะมาปฏิบัติงานในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ส่วนกรณีข่าวนายณฐาภพอยู่ที่ผาตรอมใจหรือที่ใดๆ นั้น ไม่รู้ว่าภาพเก่าหรือภาพใหม่ และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่จะยึดเอกสารหลักฐานที่ ผอ.คนดังกล่าวยื่นมาให้ คือใบรับรองแพทย์ ส่วนผลการสอบข้อเท็จจริงของ สพป.เขต 6 ได้สรุปให้ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาไปเรียบร้อยแล้ว

    นายสนองกล่าวด้วยว่า การดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนนั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดส่งเสริมความประพฤติ สพป.เขต 6 พร้อมครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนไปพูดคุยกับเด็กนักเรียนรายนี้ หากเด็กต้องการย้ายที่เรียนก็จะประสานให้ แต่วันนี้เด็กยังไม่มาเรียนหนังสือ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวงการครู เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก ได้สั่งกำชับผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 181 แห่งในสังกัดดูแลอย่างเข้มงวด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในโรงเรียนป่าตองท่าเนินสามัคคี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 เรียนอยู่ พบว่าเด็กหญิงผู้นี้ยังไม่ได้ไปเรียน โดยขาดเรียนเป็นวันที่ 6 แล้ว ขณะที่ช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาได้เดินทางไปที่บ้านพักของเด็กนักเรียน และได้รับตัวเด็กพร้อมด้วยมารดาไปอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจของเด็ก เนื่องจากในช่วงนี้หากเด็กยังคงอยู่ในพื้นที่ ก็จะส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก  

    ด้านคดีอาญา พ.ต.ท.สุกรี ปลั่งกลาง รอง ผกก.สส.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 20 ปาก คดีมีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 50% เหลือเพียงการสอบปากคำ ผอ.โรงเรียนผู้ถูกกล่าวหา และเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ผู้เสียหาย โดยทางพนักงานสอบสวนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เพื่อเข้าไปสอบปากคำเด็กนักเรียนหญิงร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพต่อไป
    พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวของเด็กถูกสังคมตั้งคำถามและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างมาก จึงอยากจะขอวิงวอนไปยังสื่อเช่นกันในเรื่องการนำเสนอข่าว ให้มีความระมัดระวังถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยตนได้สั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นตำรวจหญิงลงไปร่วมทำคดีดังกล่าวด้วย และยังสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วน ผอ.คนดังกล่าว หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ก็ต้องออกหมายจับต่อไป.