ภาพยนตร์ ละคร เพลง ความทรงจำชาวไทยในรัชสมัย ร.9


เพิ่มเพื่อน    

 

   

      เสียงขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ที่กำลังบรรเลงเพลงความฝันอันสูงสุด บทเพลงราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทำให้บรรยากาศในการเปิดนิทรรศการสุดยอดศิลปะไทย ในรัชกาลที่ 9 ที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และจัดแสดงผลงานศิลปะไทยทั้งด้านภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ เพลงไทย ในรัชสมัยของพระองค์ ในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม 2561 ที่มีขึ้น ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน อบอวลไปด้วยความสุข รอยยิ้ม สร้างความสุนทรีย์ให้กับผู้คนที่ได้ฟังเพลงของพระองค์ โดยงานจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้-21 ตุลาคม 2561 

 

   

     นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานเปิดงาน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะได้หลากหลายแขนง ทั้งทางด้านดนตรี จิตรกรรม ถ่ายภาพ วรรณกรรม และหัตถกรรม เพื่อเป็นการสดุดีพระเกียรติคุณ และในฐานะที่พระองค์ทรงมีคุณูปการอุปถัมภ์แก่ศิลปินทั้งหลาย จึงได้จัดนิทรรศการในครั้งนี้ขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นอัครศิลปิน อีกทั้งยังทรงทำนุบำรุง เป็นขวัญกำลังใจให้กับศิลปินในการพระราชทานรางวัลต่างๆ จึงทำให้ในรัชสมัยของพระองค์มีงานศิลปะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งล้วนเป็นพระมหากรุณาธิคุณจนหาที่สุดมิได้ นอกจากงานที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดขึ้น ในภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาลก็จะมีการจัดกิจกรรมในช่วงวันที่ 13 ตุลาคม หวังว่าประชาชนจะให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรม

 

    ภายในงานมีนิทรรศการสุดยอดศิลปะไทยใน 3 สาขา ได้แก่ นิทรรศการสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่มาจากโครงการเผยแพร่สุดยอดภาพยนตร์ไทยทั้งหมด 70 เรื่อง และยังได้มีการคัดเลือกภาพยนตร์มาฉายให้ชมฟรี จำนวน 10 เรื่อง 10 วัน ได้แก่ นางนาก ฟ้าทะลายโจร สุริโยไท แฟนฉัน องค์บาก โหมโรง รักแห่งสยาม รถไฟฟ้ามาหานะเธอ พี่มากพระโขนง และคิดถึงวิทยา ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน
    ในสาขาสุดยอดเพลงไทยในสมัยของพระองค์ที่ได้รับการคัดสรรว่าทรงคุณค่า สะท้อนช่วงเวลาอันรุ่งเรืองแห่งเสียงดนตรี ที่ศิลปินในวงการได้สร้างสรรค์และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยเพลงไทยลูกทุ่งและเพลงไทยสากล รวม 398 เพลง โดยมีโซนให้ผู้เข้าชมสามารถเลือกฟังเพลงที่ชื่นชอบได้ และกิจกรรมบนเวทีจากศิลปินที่จะมาขับร้องเพลงให้ฟังในเวลา 17.00-18.00 น. ตลอดการจัดนิทรรศการด้านสุดยอดละครโทรทัศน์ ในสมัยรัชกาล 9 ที่คัดเลือกละครที่เผยแพร่ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2489 ถึงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 ช่วงเวลาแห่งการครองราชย์ จำนวน 99 เรื่อง อาทิ สี่แผ่นดิน บ้านทรายทอง สายโลหิต คู่กรรม หุ่นไล่กา ทองเนื้อเก้า ที่จะมีขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-14.30 น. จะมีการเสวนาสุดยอดละครโทรทัศน์


    ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ ฤทธิไกร ฤทธิงาม กำลังเพลิดเพลินกับการฟังเพลงลูกทุ่งในสมัยก่อน เผยความรู้สึกการเข้าชมนิทรรศการว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับดนตรีมากขนาดนี้ รู้สึกซาบซึ้งที่ทรงทำให้วงการดนตรีของไทยมีความเจริญ และตนยังเหมือนได้ย้อนกลับสมัยยังหนุ่ม ได้กลับมาฟังเพลงลูกทุ่งเก่าๆ อีก เพราะตอนนี้ก็อายุ 49 ปีแล้ว และได้ฟังเพลงของนักร้องในดวงใจ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เพราะแต่ก่อนจะติดตามฟังในวิทยุ ไม่มีโอกาสได้ซื้อเทปเก็บไว้ ซึ่งไม่ใช่แค่คนในวัยตนเท่านั้นที่จะมีความสุขในนิทรรศการ ครั้งนี้คิดว่าเด็กรุ่นใหม่ หากมาชมก็จะได้รู้จักเพลงเก่า ละครเก่า อีกมากมายอีกด้วย
    ผศ.สันธนีย์ นิยาโส ร่วมชมนิทรรศการ บอกว่า นิทรรศการครั้งนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีความใส่ใจในทุกๆ ด้าน ไม่เพียงเฉพาะการพัฒนาประเทศในเรื่องของดิน น้ำ ป่า แต่ด้านศิลปวัฒนธรรม การละคร ดนตรี การถ่ายภาพ พระองค์ก็ทรงสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอมา และพระองค์มีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี เพลงที่พระองค์พระราชนิพนธ์ขึ้นก็มีความไพเราะ ซึ่งตนก็ยังฟังมาถึงทุกวันนี้ ทำให้เห็นว่าแม้พระองค์จะไม่ได้อยู่กับพวกเราในโลกปัจจุบัน แต่สิ่งที่ทรงทำไว้ให้นั้นมีคุณค่าและมีประโยชน์ไปอีกแสนนาน และอีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจอย่างมากที่ได้มาเห็นละครเก่าที่เคยดู บางเรื่องเราดูตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก เป็นเหมือนความผูกพัน อย่างบ้านทรายทอง วันนี้ก็มีการจัดสตูดิโอให้ถ่ายรูปเป็นพื้นหลังบ้านทรายทองเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งก็คาดว่าจะหาโอกาสกลับไปดูภาพยนตร์เก่าๆ ด้วย
    สุดยอดละครไทยสมัย ร.9 ก็มีประชาชนสนใจชม รัชน์ สุเลิศ  บอกว่า แม้ว่าจะเป็นการรำลึกถึงในหลวง ร.9 ก็ไม่จำเป็นต้องโศกเศร้า เพราะเราสามารถมีความสุขกับสิ่งที่พระองค์ทรงทำไว้ให้ได้ เพราะทุกอย่างที่พระองค์ทรงทำล้วนแต่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนไทย แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยทรงหยุดที่จะพัฒนางานในทุกๆ ด้าน อย่างนิทรรศการนี้ก็ทำให้ว่าพระองค์ทรงมีอารมณ์สุนทรีย์ พระราชนิพนธ์เพลงมากมาย ทำให้วงการดนตรีไทยมีชื่อเสียง ตนคิดว่าในรัชสมัยของพระองค์ทั้งละคร ดนตรี ภาพยนตร์ มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง การเดินมาชมนิทรรศการก็เหมือนกับได้คิดถึงพระองค์ในมุมที่มีความสุขและความประทับใจในตัวพระองค์ไปตลอดชีวิต


   

     ด้าน  ณัฐณิชา ภาคพฤกษ์ นักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา มาเดินเล่นพารากอนพร้อมกับครอบครัว สนใจชมส่วนการจัดแสดงเพลงไทย บอกว่า ตนเองเรียนได้รู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง ร.9 มากมาย อย่างเศรษฐกิจพอเพียง โครงการต่างๆ ที่ทรงปฏิบัติเพื่อพัฒนาประเทศ และเพลงของพระองค์ที่พระราชนิพนธ์ขึ้น ตนเองก็เคยฟัง อย่างเพลงสายฝน เพลงใกล้รุ่ง เพลงยามเย็น เพลงพรจากฟ้า และเพลงชะตาชีวิต ที่เพราะมาก และมีดนตรีที่ไม่เหมือนในปัจจุบัน ทำให้รู้ว่าพระองค์ไม่ได้ทรงเก่งเพียงด้านเดียว จึงมีความตั้งใจที่จะเป็นคนขยัน คนเก่งให้ได้อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9
    อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ สุดยอดศิลปะไทย ในรัชกาลที่ 9 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันนี้-21 ตุลาคม 2561 ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"