ไม่รอด..แก๊งค์ออฟโรดยิงหมีขอโดนหนัก แค่อุทยานฯ 12 ข้อหา ส่วนตำรวจจ่ออีก5ข้อหา ส่วนการค้นหาหัวหมีป่าเขาพลู 4 จุด ไม่พบหลักฐานเพิ่ม ตร.ยันหลักฐานที่มีก็พอดำเนินคดีได้แน่นอน
กรณีปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยพร้อมพวกกลุ่มอ๊อฟโรด 12 คน ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีและถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯไทรโยคเข้าจับกุม พบทั้งซากหมีขอสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก และอาวุธปืนทั้งไรเฟิลและปืนพกสั้น 5 กระบอก ต่อมาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยประกันตัวเป็นเงินสดคนละ2แสนบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายตาตา ชาวพม่า คนดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ ซึ่งรับว่าเป็นคนยิงหมีขอ ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัว นายตาตา นายอนุสรณ์ หรือออย เรือนงาม อส.ด่านมะขามเตี้ย และ นายสกานต์ แก่งหลวง อส.ด่านมะขามเตี้ย 3ผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวนายตาตาส่งศาล จ.กาญจนบุรีฝากขังครั้งที่ 1 ล่าสุดเจ้าหน้าที่เข้าที่เกิดเหตุอีกเป็นครั้งที่4ตรวจหาซากหัวหมีขอ และหลักฐานวัตถุพยานอื่นๆเพิ่ม ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 14 ต.ค.2561 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต รักษาการ หน.ชุดฉก.พญาเสือ / หน.อุทยานฯไทรโยค อ.ไทรโยคจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้(13ต.ค.) ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล รอง ผบช.ภาค 7 หัวหน้าทีมชุดสืบสวนสอบสวนคดียิงหมีขอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ภ.จว.กาญจนบุรี ตำรวจ บก.ปทส. ตชด.136 ทหารฉก.ลาดหญ้า ปกครอง เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ป่าเขาพลู ม.8ต.วังกระแจะอ.ไทรโยค เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่ม
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณ ที่เข้าจับกุมกลุ่มอ๊อฟโรด แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ จุดที่2 บริเวณศาลเจ้าพ่อเขาพลู ที่กลุ่มผู้ต้องหาให้การว่ายิงปืนแก้บน ก็ไม่พบหลักฐานเพิ่ม จุดที่ 3 บริเวณต้นไทร ที่ผู้ต้องหาให้การว่ายิงหมีขอ ก็ไม่ พบหลักฐานเพิ่ม จุดที่4 บริเวณที่ผู้ต้องหาบอกว่ายิงอีเห็นแต่ผิด ก็ไม่พบหลักฐานปลอกกระสุนปืนเข่นกัน ส่วนจุดที่5ตรงลำธารใกล้แค๊มป์พัก ที่นายตาตาบอกว่าโยนหัวหมีลงไป เจ้าหน้าที่ได้ลงไปในลำธารน้ำ และช่วยกันเดินตามลำห้วย แยกย้ายกันค้นหาเดินตรวจสอบ ไปตามกระแสน้ำ ไกลราว500เมตร ก็ไม่พบหัวหมีขอ เชื่อว่าระยะเวลาจากวันที่ทิ้งหัวหมีขอ จนถึงวันนี้ เป็นเวลาหลายวัน กระแสน้ำคงพัดไปไกลมาก หรือสัตว์ป่าประเภทกินเนื้อ อาจจะคาบไปก็เป็นได้
นายพนัชกรเผยต่อว่า ขณะนี้ในส่วนของอุทยานฯได้แจ้งความ ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง13คน รวมทั้งหมด 8 ข้อกล่าวหา และเพิ่มข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาที่มีอาวุธปืนอีก 4 ข้อหารวมทั้งหมด 12 ข้อหา
ประกอบด้วย 1.ฐาน “ร่วมกันเก็บหานำออกไป ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ยางไม้ น้ำมันยาง น้ำมันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (2) ประกอบมาตรา 24 / 2.ฐาน “ร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์” ตาม พระราชบัญญัติ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (3) ประกอบมาตรา 24 / 3. ฐาน “ร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออก หรือขับขี่ยานพาหนะ ในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พระราชบัญญัติอุทยาน แห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (9) ประกอบมาตรา 25 / 4. ฐาน “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใด ๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่ง พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตนั้นกำหนดไว้” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (15) ประกอบมาตรา 27
5 . ฐาน “ร่วมกันล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้น” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 16 ประกอบมาตรา 47 / 6 . ฐาน “ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 ประกอบมาตรา 47 / 7. ฐาน “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับ ไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำความผิด” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 55 / 8. ฐาน “ร่วมกันเก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการ ใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพ ป่าสงวนแห่งชาติ” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31
และแจ้งข้อหากับบุคคลที่ยิงปืน ล่าสัตว์ พาอาวุธปืนเพิ่ม อีก 4 ข้อหา คือ 9. ฐาน ครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในราชการสงคราม และขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง / 10. ฐาน “ยิงปืนในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 22 และมาตรา 51 / 12 . ฐาน “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในบริเวณวัด” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 41 และมาตรา 51 และหากตรวจสอบพบว่ามีหลักฐานพยานเพิ่มเติม ในการกระทำผิดใดอีก ก็จะแจ้งความดำเนินคดีอีกต่อไป
ด้านพล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล รอง ผบช.ภาค 7 หัวหน้าทีมชุดสืบสวนสอบสวนคดียิงหมีขอ เผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบค้นหาพยานหลักฐาน ในแต่ละจุดทุกแห่งรวมทั้งในลำห้วยลำธาร แต่ก็ไม่พบหัวหมีขอ หรือพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มอีก แต่พยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ก็เพียงพอต่อการดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง13 คน นอกจากจะถูกอุทยานฯดำเนินคดีถึง 12 ข้อหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีเพิ่ม ในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืนอีก 5 ข้อหา../
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |