เนื่องใน 13 ตุลาฯ วันคล้ายวันสวรรคต


เพิ่มเพื่อน    

(1)

      ช่วงหลังๆ นี้...สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมักออกมาย้ำถึงเรื่องของ ความอดทน อยู่บ่อยๆ ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่จะคิดๆ กันเอาเอง ช่วงวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะเสด็จไปประทานพระโอวาทแก่พระสังฆาธิการ ระดับเจ้าอาวาส รองฯ  และผู้ช่วย เขตปกครองกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ท่านก็ทรงหยิบเอาเรื่องของ  ความอดทน อดกลั้น หรือเรียกกันแบบภาษาพระ ว่า ขันติธรรม อะไรทำนองนั้น มาว่าไว้แล้วครั้งหนึ่ง...

(2)

      และช่วงวันพุธที่ 10 ตุลาคม ขณะเสด็จไปประทานพระโอวาท เนื่องในโอกาสเปิดสำนักงานใหญ่ของบริษัท ทิพยประกันภัย หรือขณะอยู่กับ ฆราวาส ไม่ได้อยู่กับ พระ ท่านก็ยังทรงหยิบเอาเรื่อง  ความอดทน อดกลั้น อีกนั่นแหละ มาใช้เป็นประเด็น เป็นหัวข้อ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ว่าจะพระ จะฆราวาส ควรยึดมั่น ถือมั่น ควรยึดถือเป็น แนวทาง ไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยท่านประทานเหตุผล คำชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้เสร็จสรรพประมาณว่า...ด้วยเหตุที่ ความอดทน อดกลั้น (ต่อโลกธรรมฝ่ายที่ไม่น่าพึงพอใจ) หรือที่เรียกๆ กันว่า ขันติธรรม นี่เอง ที่อาจถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน หรือเป็น  ตัวช่วยเอื้ออำนวย ให้เกิด คุณธรรม อื่นๆ ตามมาได้อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมแบบพระๆ หรือคุณธรรมแบบฆราวาสๆ ก็ตามแต่...

(3)

      และถ้าหากจะนำเอาพระโอวาท ของสมเด็จพระสังฆราช มาแปรรูป แปรร่าง ให้พอเห็นเป็น  รูปธรรม ได้ถนัดๆ ผู้ที่สามารถหยิบยกเอามาเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ของการประพฤติ ปฏิบัติ ในสิ่งที่เรียกว่า ความอดทน อดกลั้น หรือ ขันติธรรม ที่ว่านี้ ได้อย่างเป็นรูปธรรม น่าจะไม่มีอะไรชัดเจนยิ่งไปกว่า สิ่งที่ ล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ซึ่งเสด็จสวรรคตไปเมื่อไม่นานมานี้ ท่านได้ทรงแสดงให้เห็นขณะที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่ นั่นเอง...

(4)

      คือถ้าลองหวนกลับไปนึกถึง...ช่วงที่พระองค์ท่านเพิ่งได้ทรง ขึ้นครองราชย์ กันหมาดๆ แม้พระชนมายุในระหว่างนั้น ยังอยู่ในวัยที่สามารถหุนหัน พลันแล่น ฉุนฉิว กริ้วโกรธ อะไรต่อมิอะไรได้เสมอๆ  ถ้าว่ากันตามมาตรฐานปุถุชนคนธรรมดาโดยทั่วไป อีกทั้งโดยบรรยากาศของ โลกธรรมฝ่ายที่ไม่น่าพึงพอใจ ยังเต็มไปด้วยแรงกดดัน รายรอบ ล้อมกรอบ ต่อสถานะความเป็นพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะในแง่สถาบัน หรือโดยส่วนพระองค์ ก็ตามที แถมไม่ใช่แต่เฉพาะภายใน สังคมไทย เท่านั้น แม้แต่ สังคมโลก ภายใต้ความเป็นโลกยุคใหม่ สมัยใหม่ ถ้าหากไม่อาศัย ความอดทน อดกลั้น หรือ ขันติธรรม ระดับสุดๆ แล้ว ป่านนี้...สิ่งที่เรียกกันว่า ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ จะผันแปร เบี่ยงเบน ไปในทางไหนต่อทางไหน ก็ยังมิอาจคาดคะเนได้...

(5)

      แต่ครั้นหลังจากได้ทรงครองราชย์...อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน จน พระบารมี นั้น กลายเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ชนิดเหนือยิ่งไปกว่า พระราชอำนาจ ที่บรรดาพระมหากษัตริย์เมื่อครั้งอดีตทั้งหลาย ทรงเคยถือครองเอาไว้มาตลอด ไม่จำเป็นต้องอาศัย พระแสงศัตรา ใดๆ อาศัยเพียงแค่ความเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญนี่แหละ ดำรงสถานะของพระองค์เอง และของสถาบัน ให้สอดคล้อง กลมกลืน ไปกับสังคมไทยและสังคมโลกโดยแทบไม่มีอุปสรรค ขัดขวาง แม้เมื่อถึงจังหวะหนึ่ง จังหวะใด ที่ด้วยเหตุเพราะความทุกข์ ความเดือดร้อน ทำให้ผู้คนบางกลุ่ม บางราย หรือบรรดาพสกนิกร ต้องหันไปพึ่ง พระบารมี จนถึงกับหวังจะให้ พระบารมี กลายมาเป็น พระราชอำนาจ แต่ก็ด้วย ความอดทน อดกลั้น หรือด้วย ขันติธรรม ที่ว่านี่แหละ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ก็ยังทรงยึดมั่นอยู่กับความเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ มิได้ทรงเบี่ยงเบน เฉไฉ ไปในทางอื่น หรือในทางที่ทรงเห็นว่า...ไม่ใช่หนทางในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...

(6)

      ว่าไปแล้ว...ความอดทน อดกลั้น หรือขันติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่มักจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายอยู่เสมอๆ ในช่วงจังหวะ 2 จังหวะด้วยกัน คือในจังหวะที่ ปราศจากอำนาจ ในการรับมือกับ  โลกธรรมฝ่ายที่ตัวเองไม่พึงพอใจ กับในช่วงที่ เต็มไปด้วยอำนาจ และต้องถูกเย้ายวน ยั่วยุ เพื่อให้ได้มาซึ่ง โลกธรรมในฝ่ายที่ตัวเองพึงใจ แต่ก็ด้วยความอดทน อดกลั้น ด้วยขันติธรรม ระดับของจริง-ของแท้ อันเป็นสิ่งที่ทำให้คุณธรรมอื่นๆ ตามมาอย่างไม่มีอันขาดสายนั่นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 9 จึงทรงได้รับการยอมรับ ไม่ต่างอะไรไปจาก ธรรมราชา หรือราชาผู้ทรงประพฤติธรรม หรือราชาผู้ทรงมีธรรมเป็นอำนาจ ไม่ว่าสังคมไทย หรือสังคมโลก จะเปลี่ยนแปลงไปในแบบไหนก็ตาม หรือไม่ว่าพระองค์จะเสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่ ธรรมะ ก็ยังคงดำรงอยู่ เป็นแบบอย่าง แนวทาง ให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เห็นถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สืบไป...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"