ตลอดช่วงเดือนตุลาคมนี้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ และขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศจัดงาน “สร้างไทยไปด้วยกัน : สร้างบ้าน สร้างชุมชน ไทยทุกคนมั่นคง เข้มแข็ง” เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก (องค์การสหประชาชาติกำหนดให้ทุกวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก) เพื่อรณรงค์ปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยในปีนี้มีผู้แทนจากประเทศเอเซียที่ทำงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ประเทศ รวม 57 คน เช่น อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เวียดนาม พม่า กัมพูชา ฟิลิปินส์ ฯลฯ มาร่วมประชุมและศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย รวมทั้งเข้าพบรัฐมนตรีเพื่อเยี่ยมคารวะและสนทนาการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยร่วมกัน
ผู้แทนต่างประเทศดูงานพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย
โดยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ในช่วงเช้า คณะผู้แทนต่างประเทศ โดยการประสานงานของมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งเอเชีย (Asia Coalition for Housing Right –ACHR) ได้เข้าพบนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยคณะฯ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเด็นต่างๆ เช่น การเชื่อมโยงเครือข่ายองค์กรชุมชนในเอเชีย การบริหารจัดการระบบการเงินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย แผนแม่บทพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะยาว และการใช้ที่ดินรัฐในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งการสร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยในระดับภูมิภาคเอเซีย ทั้งนี้นายกอบศักดิ์ได้รับว่าจะนำประเด็นการหารือกับผู้แทนต่างประเทศในวันนี้ไปนำเสนอต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป
ในช่วงบ่าย คณะผู้แทนจากต่างประเทศ เช่น ชีลา ปาเทล ประธานสภาองค์กรชุมชนแออัดนานาชาติ จากประเทศฟิลิปินส์ คลอง สะเร็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงพนมเปญ เพ็ง สิถี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง ฯลฯ ได้เข้าพบพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่กระทรวง พม. เพื่อแสดงความยินดีในความสำเร็จของประเทศไทยในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อนำไปใช้ในแต่ละประเทศต่อไป
นอกจากนี้คณะผู้แทนจากต่างประเทศยังขอให้ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า ได้นำแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยเสนอในเวทีประชุมอาเซียน เพื่อขยายการเรียนรู้จากประเทศไทยสู่ประเทศต่างๆ ในอาเซียนต่อไป ทั้งในเรื่องการพัฒนานโยบาย แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะยาว ระบบการเงิน กองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย องค์กรการเงินชุมชน รวมทั้งการใช้ที่ดินรัฐในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ฯลฯ
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ผู้แทนจากต่างประเทศได้ไปร่วมงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ชุมชน กสบ.หมู่ 5 ริมคลองลาดพร้าว เขตสายไหม โดยคณะได้ล่องเรือดูสภาพชุมชนริมคลองในเขตสายไหมที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม และการสร้างบ้านใหม่ริมคลองลาดพร้าว ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 31 ชุมชน จำนวน 4,814 หลัง และก่อสร้างเสร็จแล้ว 2,942 หลัง จากเป้าหมายทั้งหมด 50 ชุมชน จำนวน 7,069 หลัง
ส่วนการจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกที่ชุมชน กสบ.หมู่ 5 นั้น ภายในงานมีเวทีเสวนาและเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย โดยมีผู้แทนต่างประเทศเข้าร่วมในเวที และมีการมอบบ้านกลางให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง จำนวน 5 หลัง โดยให้อยู่อาศัยฟรี จ่ายเพียงค่าน้ำประปาและไฟฟ้า โดยมีพลเอกสุรศักดิ์ ศรีศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานมอบบ้าน ทั้งนี้บ้านทั้ง 5 หลังเป็นบ้านชั้นเดียว ขนาด 4x7 ตารางเมตร ราคาก่อสร้างประมาณหลังละ 220,000 บาท โดยชาวชุมชนร่วมกันสมทบเงินสร้างจำนวน 4 หลัง และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนงบประมาณก่อสร้าง 1 หลัง
ส่วนชุมชน กสบ.หมู่ 5 มีบ้านที่สร้างใหม่ทั้งหมด 127 หลัง เป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาดห้องละ 4x7 ตารางเมตร ราคาหลังละ 220,000-350,000 บาท ขณะนี้สร้างเสร็จไปแล้ว 72 หลัง ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเสร็จทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้ เช่าที่ดินช่วงแรก 30 ปีจากกรมธนารักษ์ ราคาตารางวาละ 1.50 บาทต่อเดือน รวมเนื้อที่ทั้งชุมชน 8 ไร่เศษ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ฯ สนับสนุนงบประมาณสร้างบ้านและสาธารณูปโภค เฉลี่ยครัวเรือนละ 147,000 บาท ส่วนที่เหลือสนับสนุนสินเชื่อไม่เกินครัวเรือนละ 360,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อปี ชำระคืนภายใน 15 ปี
พลเอกสุรศักดิ์ (กลาง) มอบบ้านกลางให้ผู้ด้อยโอกาส 5 หลัง
ต่างชาติยกไทยเป็นต้นแบบแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
การจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกในปีนี้ ขบวนองค์กรชุมชนและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ร่วมกันจัดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค เช่น ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก, ชุมชนริมคลองลาดพร้าว กสบ.หมู่ 5 กรุงเทพฯ, อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา, อุตรดิตถ์ สตูล สุรินทร์ นครสวรรค์ และเทศบาลตำบลหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด โดยผู้แทนจากต่างประเทศได้เดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่ต่างๆ ด้วย
จันนา ไท ผู้นำชุมชนปุงโร (ริมน้ำ) กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า การเข้ามาลงทุนในประเทศของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ทำให้ที่ดินมีราคาแพง คนจนในต่างจังหวัดที่นักลงทุนเข้าไปจะได้รับผลกระทบ เช่น ถูกไล่ที่ แต่ในกรุงพนมเปญ ขณะนี้คนจนจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะรัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือหรือป้องกันผลกระทบ เช่น จัดหาที่ดินที่อยู่อาศัยให้ใหม่ จ่ายค่าชดเชย ฯลฯ
“เมื่อก่อนหน่วยงานของรัฐไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาให้คนจน ปล่อยให้คนจนอยู่อย่างลำบาก ที่ชุมชนของฉันเป็นสลัมอยู่ริมน้ำ มี 150 ครอบครัว ปลูกสร้างบ้านอยู่บนทางเดิน มีความกว้างประมาณ 5-6 เมตร เวลาฝนตกน้ำจะท่วมถึงเข่า ชาวบ้านอยู่อย่างยากลำบาก ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นกรรมกรแบกของ ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บางครอบครัวก็เก็บผักในบึงมาขาย มีรายได้เล็กน้อยๆ บ้านเรือนก็ผุพัง บางหลังมุงหลังคาด้วยหญ้าคา บางหลังก็หาถุงหรือพลาสติกมาเป็นหลังคา แต่ตอนนี้สภาพดีขึ้น เพราะชาวบ้านรวมตัวกันแก้ไขปัญหา หน่วยงานรัฐก็เข้ามาช่วย เช่น ทำท่อระบายน้ำ ทำประปา ไฟฟ้า ทางเดินเท้า และชาวบ้านก็ช่วยกันปรับปรุงบ้านเรือนทำให้ชุมชนมีสภาพดีขึ้น” ผู้นำชุมชนแออัดในกรุงพนมเปญกล่าว
ส่วนการเดินทางมาศึกษาดูงานในเมืองไทยครั้งนี้ จันนากล่าวว่า ได้เห็นหลายพื้นที่ที่มีการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยระหว่างหน่วยงานรัฐกับชาวบ้าน รวมทั้งชุมชนได้ร่วมมือกันทั้งชุมชน เพราะบางชุมชนมีทั้งคนที่มีอาชีพเป็นข้าราชการ เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นชาวบ้านธรรมดาที่ยากจน แต่ทุกคนร่วมมือกัน ไม่แบ่งแยก ทำให้ตนประทับใจมาก และที่อยากจะนำกลับไปใช้ที่พนมเปญคือการปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้กินเองในชุมชน เพราะที่พนมเปญส่วนใหญ่ชาวชุมชนจะซื้อกิน
ชีลา ปาเทล ประธานสภาองค์กรชุมชนแออัดนานาชาติ จากประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ที่ประเทศของตนก็มีการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคล้ายกับเมืองไทย เช่น มีการรวมกลุ่มผู้ที่เดือดร้อน มีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อเป็นกองทุนแก้ไขปัญหา มีหน่วยงานท้องถิ่นเข้าร่วม มีการสำรวจข้อมูลหมู่บ้านและชุมชนที่เดือดร้อนว่ามีปัญหาเรื่องอะไร ชาวบ้านอยู่ในที่ดินของใคร เพื่อนำข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ไปเจรจากับรัฐบาลเพื่อให้แก้ไขปัญหา ซึ่งการมาศึกษาดูงานที่ประเทศไทยในครั้งนี้ได้ไปที่อำเภอปากช่อง (จ.นครราชสีมา) และได้เห็นว่ารัฐบาลได้ยึดคืนที่ดิน (ส.ป.ก.) จากผู้ที่ครอบครองไม่ถูกต้องเอามาให้คนจนที่ไม่มีที่ดินได้อยู่อาศัยและทำมาหากิน ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก
“เรื่องที่จะยึดคืนที่ดินจากคนรวยเอากลับมาให้คนจนเป็นเรื่องที่ไม่ทางที่จะเป็นไปได้ในประเทศฟิลิปินส์ แต่ประเทศไทยทำได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก ซึ่งฉันอยากจะกลับไปทำที่ฟิลิปินส์บ้าง และฉันอยากจะบอกคนทั่วไปว่า คนจนไม่ใช่ปัญหา หรือเป็นโรคร้ายของเมือง แต่คนจนคือส่วนหนึ่งของเมือง และจะต้องมีส่วนในการแก้ไขปัญหาของเมืองและของตัวเองด้วย และคนจนจะต้องมีที่ยืน โดยหน่วยงานต่างๆ ต้องเปิดโอกาสให้ชุมชนและคนจนได้แก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง เพื่อคนจนจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป และคนจนจะต้องอยู่ร่วมกันกับเมืองอย่างมีความสุข” ผู้แทนจากฟิลิปินส์กล่าว
ผู้แทนจากกรุงการาจี ประเทศปากีสถาน กล่าวว่า ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ซึ่งเป็นที่ดินริมทะเล, ที่ชุมชนเกาะขวาง อ.เมือง จังหวัดจันทบุรี เป็นการแก้ไขปัญหาทั้งเมือง และชุมชนริมคลองในกรุงเทพฯ ซึ่งชุมชนต่างๆ เหล่านี้เป็นปัญหาที่คล้ายๆ กันในประเทศเอเชีย ในกรุงการาจีก็มีปัญหาคล้ายกัน บางชุมชนถูกเจ้าของที่ดินเผาไล่ที่เป็นจำนวนมาก แต่ชาวบ้านก็ได้รวมตัวกันแก้ไขปัญหา เช่น มีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ จัดตั้งกองทุนต่างๆ เพื่อเป็นกองทุนสำหรับแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย แต่ยังไม่สามารถทำได้เหมือนประเทศไทย
“ประเทศไทยถือว่าเป็นดาวรุ่งในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย เป็นตัวอย่างที่ดี ทำให้เห็นว่าคนจนก็สามารถสร้างบ้านที่ดีๆ และสวยงามได้ ซึ่งประเทศอื่นๆ ยังไม่ได้ทำ แต่ประเทศไทยได้ทำแล้ว และสิ่งที่ทำนี้ไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่เป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญมาก โดยการร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ และประชาชนที่ยากจน โดยมีรัฐบาลสนับสนุน และควรจะได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศต่างๆ ในเอเชียและคนยากคนจนอื่นๆ ทั่วโลก” ผู้แทนจากปากีสถานกล่าว และบอกในตอนท้ายว่า เมื่อตนกลับไปการาจีแล้ว จะนำประสบการณ์จากเมืองไทยไปเริ่มต้นก้าวแรกที่นั่น
บ้านกลางชุมชน กสบ.หมู่ 5
บ้านริมคลอง กสบ.หมู่ 5 เขตสายไหม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |