12 ต.ค. 61 - พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว 3 นักโทษที่ปล้นรถเรือนจำหลบหนีว่า ขณะเกิดเหตุนักโทษเข้ามารุมแย่งกุญแจรถยนต์จากเจ้าหน้าที่ ตำรวจประจำศาล พนักงานรักษาความปลอดภัย พยายามเข้าขัดขวางและสกัดการหลบหนี แต่นักโทษ 3 ราย แย่งกุญแจรถนำไปสตาร์ทแล้วใช้เป็นพาหนะหลบหนี นักโทษที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้มีด้วยกัน 5 ราย โดย 3 รายสามารถหลบหนีไปได้ ประกอบด้วย 1. ข.ช.ธนาธิป เพิ่มลาภ ผู้ต้องขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา คดี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย 2. ข.ช.พิเชษฐ์ กลิ่นโอชา ผู้ต้องขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา คดี พ.ร.บ.ยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย และ 3. ข.ช.กฤษดา แก้วนุ้ย ผู้ต้องขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา คดี พ.ร.บ.ยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย ครอบครอง และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ส่วนอีก 2 รายพยายามวิ่งหนีการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ โดยนักโทษหนึ่งรายได้ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ แต่ถูกจับตัวกดลงกับพื้น และถูกเพื่อนนักโทษด้วยกันที่ปล้นรถขับรถชนประตูเหล็กน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมพังล้มทับจนอาการสาหัส กระดูกสันหลังเคลื่อน ส่วนรถที่ถูกปล้นพบว่าขับไปจอดทิ้งที่ป่ายางหมู่ที่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 10 กิโลเมตร
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า คาดว่าขณะนี้นักโทษทั้ง 3 รายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่า เขา ซึ่งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังติดตามอยู่ตลอด 48 ชั่วโมง โดยติดตามไปที่บ้านญาติ ภรรยาและผู้ใกล้ชิด เชื่อว่านักโทษไม่สามารถหนีออกไปทางช่องทางธรรมชาติได้ เพราะสภาพเป็นพื้นที่ป่าเขา หากข้ามไปจะเป็นป่าโกงกางไม่สามารถว่ายน้ำข้ามทะเลออกไปได้ อีกทั้งนักโทษยังติดโซ่ตรวนซึ่งเป็นอุปสรรคในการหลบหนี ทั้งนี้ ปัญหานักโทษหลบหนีไม่ได้เป็นความผิดของหน่วยใดหน่วยหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ โดยนักโทษทั้ง 5 ราย จะมีความผิดฐานแหกหักที่คุมขัง ใช้กำลังประทุษร้ายจำนวน 3 คนขึ้นไป ซึ่งตามกฎหมายอาญามีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท นอกจากนี้ ยังมีความผิดปล้นทรัพย์ และยังได้รับโทษเพิ่มในคดีแหกหักหลบหนี โดยนักโทษเหล่านี้จะเสียสิทธิ์ลดการต้องโทษ ลดวันต้องขัง และถูกลดชั้นให้ไปเป็นนักโทษชั้นเลว เนื่องจากหนีการจับกุมของเจ้าพนักงาน
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ ต้องยอมรับว่าสาเหตุหลักที่นักโทษหลบหนี เนื่องจากราชทัณฑ์มีปัญหาเรื่องกำลังพล โดยเฉพาะการรับนักโทษไปขึ้นศาลจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตำรวจ และรปภ.อย่างละ 1 คน คอยดูแลตลอดเส้นทางจนถึงศาล แต่บางพื้นที่ขาดแคลนกำลังพล ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเรื่องเกลือเป็นหนอน แต่ยังต้องรอฟังผลสอบของกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงการพิจารณาย้ายผู้บัญชาการเรือนจำในกรณีที่มีนักโทษหลบหนีแล้วไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีคนนอกร่วมพาหลบหนีหรือไม่อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผล”พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า. ในปีงบประมาณ 60 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.นี้ มีผู้ต้องขังหลบหนี 23 คน สามารถติดตามกลับมาได้ 22 คน ส่วนอีก 1 คนที่หลบหนีไป คาดว่าหนีออกไปทางช่องทางธรรมชาติข้ามพรมแดนไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยนักโทษเรือนจำทั่วประเทศมีมากกว่า 300,000 คน หลบหนีไปได้ 23 คนถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มาก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |