ดีเดย์ 1ธ.ค.หักเงินเดือนขรก.1.6แสนรายคืนหนี้กยศ.


เพิ่มเพื่อน    

 

ดีเดย์ 1 ธ.ค. 2561 หักบัญชีเงินเดือนข้าราชการ-ลูกจ้างประจำ 1.6 แสนราย จ่ายหนี้ กยศ. คาดมีเงินคืนเข้ากองทุนเดือนละหลายร้อยล้านบาท เล็งกลุ่มข้าราชการที่ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีโดยตรง-ลูกจ้างเอกชนรายใหญ่-รัฐวิสาหกิจ-สถาบันการเงิน รายต่อไป

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้ส่วนราชการที่เข้าร่วมโครงการจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของข้าราชการและลูกจ้างประจำโดยตรงทั้ง 225 แห่งทั่วประเทศ ให้เริ่มหักเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 1.6 แสนคน คืนแก่ กยศ.โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 เป็นต้นไป

“ทุกหน่วยงานจะต้องหักเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำของผู้ที่กู้ยืม กยศ. ก่อนโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของข้าราชการหรือลูกจ้าง ซึ่งถือเป็นโครงการต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ ที่กรมบัญชีกลางได้นำร่องหักเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำภายในของกรมฯ เพื่อชำระหนี้คืนให้แก่ กยศ. ไปแล้วตั้งแต่เดือน ก.ค.2561 และปัจจุบันระบบดังกล่าวก็มีความพร้อมรองรับข้อมูลและการหักเงินเดือนของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการกว่า 1.6 แสนราย” น.ส. สุทธิรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง และ กยศ. ได้ประสานความร่วมมือกันในการกำหนดแนวทางปฏิบัติ และพัฒนาระบบการจ่ายตรงเงินเดือนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีการหักเงินและจ่ายเงินให้แต่ละคนได้อย่างถูกต้อง นอกจากการดำเนินการเรื่องนี้จะช่วยสนับสนุนให้การปฏิบัติงานของ กยศ. บรรลุวัตถุประสงค์ตามภารกิจที่กำหนดไว้แล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทยได้ยั่งยืนขึ้น

รายงานข่าวจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ระบุว่า การเริ่มหักเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่กู้ยืมเงินจาก กยศ.จำนวน 1.6 แสนคน ประเมินว่าจะช่วยให้ กยศ.มียอดชำระเงินคืนเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าเดือนละหลายร้อยล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มข้าราชการมีการรับจ่ายเงินเดือนผ่านบัญชีตรงถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่มีวงเงินการกู้ยืมกับ กยศ.รวมมากกว่า 1.6 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้ กยศ. จะร่วมกับกรมบัญชีกลางในการเดินสายจัดอบรมสัมมนาสร้างความเข้าใจกับฝ่ายปฏิบัติการด้านการจ่ายเงินเดือนของทุกหน่วยงานราชการให้รับทราบถึงขั้นตอนแนวปฏิบัติ วิธีการจัดส่งรายชื่อ และการหักเงินเดือน ซึ่งตามกฎหมาย กยศ.ฉบับใหม่ที่มีการประกาศใช้เมื่อปี 2560 ให้อำนาจ กยศ.สามารถหักเงินเดือนลูกหนี้เพื่อใช้คืนหนี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากลูกหนี้เลย ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้สามารถติดตามหนี้ได้เพิ่มขึ้น

ส่วนลูกหนี้ที่ กยศ. ตั้งเป้าหมายที่จะหักบัญชีเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ในกลุ่มต่อไป ตั้งเป้าหมายจะเป็นกลุ่มข้าราชการที่ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีโดยตรง ให้ถูกหักเงินเดือนมาชำระหนี้ได้ด้วย รวมถึงกลุ่มลูกจ้างของบริษัทเอกชนรายใหญ่  กลุ่มรัฐวิสาหกิจชั้นนำ และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่มีลูกหนี้ กยศ.นับล้านรายให้เข้าร่วมโครงการหักเงินเดือนเพื่อใช้หนี้ด้วย โดยปัจจุบันได้มีการหารือและมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะเริ่มนำร่องหักเงินเดือนลูกหนี้กลุ่มนี้ได้เดือนก.พ.ปีหน้า

 สำหรับยอดชำระหนี้ กยศ.ในปีงบประมาณ 2561 คาดว่าจะมียอดชำระ 2.6 หมื่นล้านบาท และผลจากการเริ่มโครงการหักบัญชีเงินเดือนลูกหนี้กับหน่วยงานรัฐ และบริษัทเอกชน รวมถึงการจัดโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์จะทำให้ปีหน้า กยศ.มียอดชำระหนี้เพิ่มมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่วนวงเงินที่กยศ.เตรียมให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาใหม่และเก่าในปี 2562 คาดว่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท รองรับผู้กู้ยืมได้ 6 แสนคน

  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"