11 ต.ค.61 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.แถลงข่าวจับกุมนายสิทธิกร ผูกกระแส  อายุ 50 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 173/2561 , 208/2561 และหมายขับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 217/2561 น.ส.ปวริศา วงศ์อุ้ย อายุ 42 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 171/2561 และหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 218/2561 นางหนู พิมพ์พันธ์ อายุ 65 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 172/2561, 176/2561, 209/2561 และหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 218/2561 และนายเชิด เถื่อนวิถี อายุ 51 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 174/2561 จับกุมได้ในพื้นที่จ.ชลบุรี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ด้วยปรากฏข้อมูลทางสื่อมวลชนว่า มีคนร้ายเป็นชายและหญิงได้ก่อเหตุด้วยการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอมไปขึ้นเงินกับร้านค้าที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลและมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นสลากที่แท้จริงจึงได้รับขึ้นเงินเอาไว้ จนก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนหลายราย  กก. 2 บก.ทท.1 จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งพบว่า คนร้ายในคดีนี้มีพฤติการณ์การกระทำความผิดด้วยการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ทำปลอมขึ้นไปหลอกขึ้นเงินกับร้านค้าจริง  มูลค่าความเสียหายประมาณ 1.5 ล้านบาท

เมื่อร้านค้าผู้เสียหายนำสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับนั้นๆ ไปขึ้นเงินกับทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะถูกปฏิเสธการจ่ายเงินรางวัลเนื่องจากพบว่าเป็นสลากปลอม  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดในเครือข่ายนี้จะแก้ไขตัวเลขบนสลากให้ตรงกับตัวเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้นๆ แล้วจึงนำไปหลอกขึ้นรางวัล  และรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาจนศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งเครือข่าย จำนวนทั้งสิ้น 10 หมายจับ  โดยมีนายสิทธิกร  ผูกกระแส เป็นหัวหน้าเครือข่าย และได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการซักถามผู้ต้องหาในคดีนี้ ให้การว่า ตนเป็นผู้กระทำความผิดด้วยการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ทำปลอมขึ้นไปตระเวนขอขึ้นเงินกับทางร้านค้าจริง และมีผู้ตกเป็นผู้เสียหายในคดีนี้จำนวนมาก  และจากการขยายผลจากผู้ที่เคยตกเป็นผู้เสียหายทราบว่ามีผู้เสียหายจากการกระทำในลักษณะเดียวกันเป็นจำนวนมาก จึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เคยตกเป็นผู้เสียหายจากการกระทำลักษณะเดียวกันนี้ทราบและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป