เมื่อวานยังเห็นชอบด้วยกันแท้ๆ วันนี้บิ๊กตู่กลับลำสั่งทบทวนร่างกฎหมายตีทะเบียนหมาแมวหลังชาวบ้านโวยลั่นต้องจ่ายตัวละ 450 บาท แถมค่าปรับโหด 2 หมื่น 5 "พุทธิพงษ์" ยันนายกฯ แสดงความกังวลในที่ประชุม ครม.ว่าส่งผลกระทบประชาชน และขณะนี้มีการแปรเจตนารมณ์ของท่านผิดไป วิษณุแย้มไม่ทันใช้ในรัฐบาลชุดนี้ หมอธีระวัฒน์ออกโรงค้าน ชี้คนใจบุญจะแบกรับไม่ไหว กลายเป็นเพิ่มจำนวนสุนัขจรจัดส่งผลโรคพิษสุนัขบ้าพุ่ง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวเมื่อวันที่ 11 ต.ค.นี้ กรณีคณะรัฐมนตรีรับทราบหลักการร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.... ว่า เรื่องนี้นายกฯ มีความกังวลและได้ให้ข้อสังเกตในที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่าเป็นเรื่องการจัดระเบียบ รวมถึงการทารุณสัตว์ที่มีมาในอดีต นอกจากนี้นายกฯ ยังให้ข้อสังเกตอีกว่าขอให้กลับไปพิจารณาเรื่องอัตราค่าปรับ การขึ้นทะเบียน และรายละเอียดต่างๆ ที่จะมีผลกระทบกับประชาชนในการดำเนินการ จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวก่อนจะเสนอเข้า ครม.พิจารณาอีกครั้ง
"นายกฯ บอกว่า ท่านก็มีสุนัขและรักสุนัขเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยว่ากฎหมายดังกล่าวนั้นดี แต่ไม่อยากสร้างภาระให้กับประชาชน เนื่องจากมีการแปรเจตนารมณ์ไม่ตรงกับที่นายกฯ ตั้งไว้" นายพุทธิพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นจากกรณีที่นายกฯ เคยแสดงความเป็นห่วงสุนัขจรจัดที่จังหวัดระยองหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสวัสดิภาพสัตว์มาร่วมกันออกกฎหมายนี้
เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นปัญหามาก อาจจะถอนไปเลยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า คงไม่ถึงกับถอนร่างกฎหมาย แต่เป็นการทบทวน ซึ่งข้อดีของร่าง พ.ร.บ.นี้มีจำนวนมาก แต่การดำเนินการต้องออกให้รอบคอบไม่กระทบกับประชาชน เพราะทุกคนมีสัตว์เลี้ยง ถ้าทุกคนขึ้นทะเบียนก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีขั้นตอนที่ถูกต้อง
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้สื่อกฎหมาย จึงควรชี้แจงรายละเอียดให้สังคมได้รับทราบ แต่ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกายังต้องพิจารณาปรับแก้อีกมากและต้องใช้เวลานาน ทั้งยังต้องมีการรับฟังความคิดเห็นก่อนด้วย แล้วจึงส่งกลับเข้ามาให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน และคาดว่าไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ นายกฯ ยังบอกอีกว่ามีกฎหมายจัดระเบียบเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องระวังอย่าให้เป็นการสร้างภาระให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะคนที่เขาเมตตาสัตว์ เลี้ยงสัตว์และนำสัตว์มาไว้จำนวนมาก เพื่อดูแลจากการทิ้งขว้าง
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กฎหมายที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอเป็นเพียงร่างกฎหมายที่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก 3 วาระ ประการสำคัญในการประชุม ครม. วันที่ 10 ต.ค. นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วเห็นว่ายังมีบทบัญญัติบางประการ เช่น การขึ้นทะเบียนและการทำเครื่องหมายประจำสัตว์ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและอัตราค่าปรับ ที่อาจเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร ครม.จึงมีมติให้กระทรวงเกษตรฯ นำร่าง กม.นี้กลับไปพิจารณาทบทวนร่วมกับสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในช่วงนี้หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีความเห็นประการใดเกี่ยวกับการร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ขอให้เสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 ที่ดาวน์โหลดและติดตั้งได้ในโทรศัพท์ทุกระบบ หรือทาง E-mail: [email protected] หรือทางเฟซบุ๊ก ปศุสัตว์ก้าวหน้า (www.facebook.com/livestocknews)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้เลี้ยงสุนัขและแมวเกี่ยวกับค่าปรับที่ตั้งไว้สูงถึง 25,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตกตัวละ 450 บาท โดยแยกเป็น คำร้องขอขึ้นทะเบียน ฉบับละ 50 บาท สมุดประจำตัวสัตว์ ฉบับละ 100 บาท และเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ตัวละ 300 บาท
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพิษสุนัขบ้า กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงในเวลานี้ เพราะประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม เนื่องจากปัจจุบันเราอาศัยความร่วมมืของประชาชนที่มีความการุณสัตว์ เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมากๆ หลายพื้นที่มีคนเลี้ยงเป็นสิบตัว แต่ปล่อยให้เดินอิสระ หากมีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงจริง และให้ขึ้นทะเบียน 450 บาทต่อตัว จะยิ่งสร้างปัญหา เป็นภาระ และเกิดการทิ้งสัตว์เลี้ยงมากขึ้น สุดท้ายสัตว์เหล่านี้จะไร้คนดูแล อดอยาก และเข้าไม่ถึงการคุมกำเนิด สุนัขจะดุร้ายมากขึ้น โอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็สูงขึ้น และเสี่ยงที่จะกัดคน กัดเด็กมากกว่าเดิม
"ตอนนี้ต้องดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนและทำหมัน เพื่อควบคุมประชากรสุนัขแมวให้ได้มากที่สุด ทำให้ได้ดีและมีประสิทธิภาพจริงๆ เพราะทุกวันนี้ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำดีแล้วหรือไม่ มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ คนที่จะออกกฎหมายคิดดีแล้วหรือไม่ หรือไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คนออกกฎหมายไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยหรืออย่างไร หากออกจริงและเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้"
นพ.ธีระวัฒน์กล่าวว่า การดูแลสัตว์เลี้ยง เราจะทำแบบเมืองนอกไม่ได้ อย่างบางประเทศใช้วิธีฆ่าหมาแมวไม่มีเจ้าของ และค่อยออกกฎหมายขึ้นทะเบียนควบคุม แต่ประเทศไทยทำไม่ได้ เราก็ต้องใช้วิธีควบคุมประชากรด้วยการทำหมันและฉีดวัคซีน อาศัยความร่วมมือกับประชาชน ไม่ใช่มาออกกฎหมายแบบไม่คิดผลกระทบเช่นนี้ ส่วนเรื่องการฝังชิปสุนัขแมวนั้น ไม่ต้องทำ ทำมานานก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก
ในส่วนของผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัด "ป้าจิ๋ม ใจบุญ" หรือนางจันทราทิพย์ เพชรเมืองทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่เก็บสุนัขและแมวจรจัดมาเลี้ยงร่วม 100 ตัว โดยใช้เงินที่ลูกสาวส่งให้แต่ละเดือน 4,500-5,000 บาท เป็นค่าอาหารสุนัขและแมว รวมทั้งเพื่อนที่เป็นลูกศิษย์พระวัดโบสถ์ย่านซื่อ นำเศษอาหารที่เหลือจากการทำบุญมาช่วยเลี้ยงหมาแมว กล่าวว่า หลังรู้ข่าวจะมีกฎหมายเก็บภาษีสุนัขและแมวก็รู้สึกเครียดมาก ลำพังค่าอาหารแต่ละวันยังไม่พอ ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนไปเสียภาษี โดยตนเองเมื่อพบสุนัขและแมวถูกทำร้ายหรือนำมาปล่อยทิ้งตามข้างทาง ก็จะเก็บเลี้ยงพร้อมดูแลรักษา บางครั้งก็มีชาวบ้านนำใส่กล่องมาปล่อยทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน แล้วต่อไปถ้าตนไม่เลี้ยง จะให้สุนัขและแมวเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน
ส่วนป้าแอ๊ด หรือนางผ่องฤดี ราศี วัย 65 ปี ผู้เลี้ยงดูสุนัขและแมวพิการจรจัด ที่บ้านพักพิงสุนัขและแมวพิการจรจัดลำปาง ได้เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว เป็นสิ่งที่ดีที่จะมีการควบคุมสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะหมาและแมว เพื่อให้คนที่เลี้ยงมีความรับผิดชอบ และเชื่อว่าจะลดการปล่อยทิ้งหมาและแมว แต่อาจจะสร้างภาระให้กับชาวบ้านรากหญ้าที่เลี้ยงสุนัขตามบ้าน เพราะชาวบ้านบางรายที่มีรายได้น้อย ตนจึงเห็นว่าราคาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ตัวละประมาณ 100-150 บาทเท่านั้น และอยากให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการหาทุนหรือจัดการเรื่องการทำหมันไว้ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |