'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน' วันที่สอง สุพรรณ-ชัยนาท 96 กม.


เพิ่มเพื่อน    

 “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No One Left Behind ” วันที่สอง เริ่มปล่อยตัวจากลานมังกรสวรรค์ หน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี โดยมีนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปะอาชา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กรหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด ร่วมปล่อยตัวคณะนักปั่นจักรยานสามัคคี “คนตาดีช่วยคนตาบอด” พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์สิทธิ์ของผู้พิการในจังหวัดสุพรรณบุรี บรรยากาศในช่วงเช้าเต็มไปด้วยความคึกคักโดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน

โดยหลังจากปล่อยตัวนักปั่นจักรยานสามัคคีคนตาดีช่วยคนตาบอดไปแล้ว ได้มีการปั่นจักยานเพื่อรณรงค์สิทธิผ่านไปในพื้นที่ต่างๆ ภายในตัวจังหวัด โดยได้รับการต้อนรับจากประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรีตลอดสองข้างทางอย่างอบอุ่น มีการนำเงินบริจาคมามอบให้กับคณะนักปั่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีตัวแทนนักปั่นจากกลุ่มและชมรมต่างๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรีมาร่วมปั่นจักรยานเพื่อให้กำลังใจและรณรงค์สิทธิ์ของผู้พิการมากกว่า200 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้พิการด้านต่างๆ ที่สามารถปั่นจักรยานได้ อาทิ นายมงคล พันธุ์แตง ผู้พิการที่แขนขาดทั้งสองข้าง แต่ใช้เชือกผูกที่ไหล่เพื่อควบคุมจักรยานมาร่วมปั่นในขบวนด้วย

ซึ่งขณะนี้ขบวนคณะนักปั่นตาบอดกำลังมุ่งหน้าเข้าเขตจังหวัดชัยนาท โดยมีนักปั่นจักรยานจากชมรมและกลุ่มต่างๆ มารอต้อนรับ และสลับผลัดเปลี่ยนเข้ามาร่วมขบวนเพื่อให้กังลังใจอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดเส้นทาง โดยสภาพอากาศในวันนี้อุปสรรคยังคงเป็นเรื่องของสภาพอากาศที่ยังคงร้อนอบอ้าว มีแดดแรงเหมือนวันแรก แต่นักปั่นทั้ง 40 คนก็ยังมีกำลังกายและกำลังใจที่เข้มแข็ง และยังอยู่ในขบวนปั่นครบทุกคน

สำหรับบรรยากาศที่จังหวัดสุพรรณบุรีตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่คณะนักปั่นจักรยานสามัคคี “คนตาดีช่วยคนตาบอด” ปั่นจักยานเข้ามาในเขตพื้นที่ของจังหวัด สองข้างทางและจุดพักต่างๆ ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธามารอต้อนรับ และมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมาก

ส่วนการปั่นในวันนี้ตลอดเส้นทางจากจังหวัดสุพรรณบุรีมุ่งหน้าสู่จังหวัดชัยนาท ได้มีนายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ ทำป้ายมาต้อนรับและให้กำลังใจกับนักปั่น พร้อมมอบเงินบริจาคให้กับโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกันตามจุดพักต่างๆ และระหว่างทางที่ขบวนผ่านไป นอกจากนี้มีนักเรียนจากโรงเรียนศึกษาพิเศษและโรงเรียนที่จัดการศึกษาแบบเรียนร่วม มาคอยให้กำลังใจกับนักปั่นทั้ง 40 ชีวิตตามจุดต่างๆ ที่ขบวนจักรยานปั่นผ่านไปด้วย

สำหรับเส้นทางปั่นวันที่สาม จะเริ่มต้นจากหน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท โดยมีจุดหมายที่จังหวัดนครสวรรค์ รวมระยะทาง 68 กิโลเมตร โดยจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อระดมพลังการสนับสนุนจากภาคประชาชนด้วยการตั้งต้นผ้าป่าตามจุดต่างๆ เพื่อหาเงินสบทบทุนมอบให้กับนักปั่นตาบอด นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้คนในสังคมไทยเห็นศักยภาพ และให้โอกาสผู้พิการในการพัฒนาตนเองในอีก 6 จังหวัดที่เหลือที่ขบวนนักปั่นจักรยานตาบอดปั่นผ่านไปด้วย

สำหรับ โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No One Left Behind ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ เป็นระยะทางรวมกว่า 867 กิโลเมตร 9 วัน 9 จังหวัด ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม ถึงวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดแพร่ จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืนยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่ “พ่อ” ทำด้วยการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง “พลัง” ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"