“จตุพร” รับผุดพรรคเพื่อชาติเลียนแบบ “กำนันเทือก” ที่ดัน รปช. หวังแก้ปัญหาชนะแล้วปกครองไม่ได้ “ศักดิ์ระพี” ยันเป็นที่รับ ส.ส.เกรดบีที่พลาดหวัง “สายล่อฟ้า” ยุคปรับโฉมเชื่อเป็นการแย่งชิงมวลชนแดงเพิ่มราคา
เมื่อวันพุธ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงพรรคเพื่อชาติ (พช.) ว่า นปช.ไม่เคยคิดจะตั้งพรรคการเมือง ยังยืนยันจุดยืนเดิม พรรคเพื่อชาติตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 และวันนี้ก็อยู่ในสถานะไม่มีสิทธิ์ทางการเมือง ทำได้เพียงแค่เป็นกองเชียร์ จะไปบงการอะไรใครไม่ได้ ซึ่งฝ่ายคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เขาคิดได้ก่อนเรา มีการตั้งพรรคฝ่ายเขาถึงมา 5 พรรค พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.), พรรคพลังธรรมใหม่, พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.)
“พวกผมคิดได้หลัง เราไม่ต้องการชนะแล้ว ปกครองไม่ได้ รัฐธรรมนูญถูกออกแบบให้เกิดวิกฤติได้ตลอดเวลา เป็นการทำให้รวมกันแพ้ แต่แยกกันแล้วชนะ เป็นแนวคิดเก่าที่เปิดประตูกว้าง สนับสนุนเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ไม่มีที่ในพรรคเพื่อไทย ถ้าถามว่าแตกแยกหรือไม่ คนใน กปปส.แยกไปทำพรรค ไม่เห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้ นายสุเทพเขาเข้าใจ ฝ่ายเราเข้าใจช้า”นายจตุพรกล่าว และว่า วันนี้ถ้าไม่หาความสมดุลระหว่างในและนอกสภา การเจรจาจะยิ่งยาก ต้องสร้างความสมดุลทุกพื้นที่ในสภาก็ว่ากันไป ในเรื่องของนอกสภา ทั้งตนเองและนายสุเทพก็จัดการกันเองได้
นายจตุพรกล่าวต่อว่า ในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 08.30 น. ที่อิมพีเรียลสำโรง พรรคเพื่อชาติจะประชุมเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ ประกาศแนวทางอุดมการณ์ ปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์พรรค ส่วนวันประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน พ.ย. ที่ยิมเนเซียม 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต คาดว่าจะมีสมาชิกนับหมื่นคนเดินทางมาร่วม ส่วนหัวหน้าพรรคยังไม่มีการระบุ
ทั้งนี้ นายจตุพรยังขออโหสิกรรมกรณีมีข่าวว่าได้หารือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำคนเสื้อเหลือง และอดีตพระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. ตอนอยู่ในเรือนจำในเรื่องตั้งพรรคเพื่อชาติด้วย โดยยืนยันว่าไม่เคยคุยเรื่องนี้
นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ ผู้ประสานงานพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงความกังวลของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่กลัวว่าพรรคเพื่อชาติจะไปแย่งคะแนนเสียงว่า ไม่ใช่ เพราะ พช.จะเปิดโอกาสให้นักการเมืองหรือผู้สมัครเกรดบีที่พลาดหวังจากพรรคเพื่อไทยเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นอีกตัวเลือกให้ประชาชน
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษา นปช. โพสต์ข้อความในรูปจดหมายถึงประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในเรื่อง นปช.แตกกลุ่มไปสังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ว่า 1.องค์กร นปช.ไม่ได้ประชุมองค์กรเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองใดๆ 2.การสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล 3.การได้ชื่อว่าเป็น นปช.คือ เคารพ เชื่อมั่น และปฏิบัติตามหลักนโยบายและวินัย นปช.อย่างเคร่งครัด โดยถือเอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และ 4.การที่ผู้รักประชาธิปไตยจะได้มีบทบาทในรัฐสภาอาจเป็นเรื่องที่ดี แต่องค์กร นปช.นั้นถือเป้าหมายให้ประชาชนได้รับชัยชนะในการต่อสู้แบบสันติให้ได้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นเป้าหมาย
“ตราบใดที่ประเทศนี้ยังไม่บรรลุการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบอารยประเทศ นปช.ก็ยังต้องเดินหน้าร่วมกับประชาชน พรรคการเมือง และการดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรเป็นส่วนประกอบ หรือเครื่องมือในการต่อสู้ของประชาชน ไม่ใช่เอาการต่อสู้ของประชาชนเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนบุคคล มิฉะนั้นผลพวงการต่อสู้ของประชาชนจะหมดคุณค่าไปทันที” นางธิดาโพสต์
วันเดียวกัน นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา, นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพิธีกรรายการจุดเดือด ได้วิเคราะห์ถึงการตั้งพรรคเพื่อชาติ โดยนายธนาระบุว่า นายจตุพรเป็นคนที่เสียสละเพื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มากที่สุด แต่กลับได้การดูแลตอบแทนน้อยกว่าผลงานที่ได้ทำออกไป
ขณะที่นายเทพไทวิเคราะห์กรณีคำถามของนายสิระ พิมพ์กลาง หัวหน้าพรรคเพื่อนไทยที่ถามว่า ก่อนหน้านี้แกนนำเสื้อแดงยืนยันต่อสังคมว่าเสื้อแดงจะไม่ออกมาทำพรรคการเมือง ว่านายสิระน่าจะเป็นคนของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งนายณัฐวุฒิระบุว่าถ้าใครเปลี่ยนจุดยืนถือว่าสิ้นสภาพ นปช. ชี้ให้เห็นว่าระหว่างนายณัฐวุฒิและนายจตุพรเกิดรอยร้าวหรือปีนเกลียวกันเอง เป็นการชิงกันนำคนเสื้อแดง
“เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน คาดว่านายสิระก็เป็นแดงสายหนึ่งที่อยากตั้งพรรคการเมือง แต่เมื่อนายจตุพรและนายยงยุทธจะตั้งพรรครวมพลเสื้อแดงเป็นพรรคเพื่อชาติ นายสิระจึงออกมาขวาง เหมือนแดงแท้กับแดงเทียม” นายเทพไทระบุ
ด้านนายศิริโชคมองว่า เค้ก นปช.กำลังถูกแบ่งเหมือนชิงมวลชนคนเสื้อแดง เพราะนายณัฐวุฒิยืนยันว่าคนเสื้อแดงต้องอยู่กับเพื่อไทยเพื่อเป็นฐานสนับสนุนนายณัฐวุฒิก้าวเป็นรัฐมนตรี ขณะที่นายจตุพรและนายยงยุทธยืนยันว่าคนเสื้อแดงต้องอยู่กับพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเปรียบเหมือนมวยถูกคู่ระหว่างฝ่ายแดงและฝ่ายน้ำเงิน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจับมือระหว่างกลุ่มที่เคยขัดแย้งกันเพื่อตั้งพรรคเพื่อชาติว่า หากไม่ผิดกติกาหลักเกณฑ์กฎหมายของการตั้งพรรคการเมืองก็ดำเนินการไป ไม่ว่าใครจะพูดอะไรต่างๆ ก็ตาม ขอให้ประชาชนได้เรียนรู้ ต้องไปค้นหาความจริงและข้อเท็จจริงด้วยว่าทำได้จริงหรือไม่
เมื่อถามว่า การตั้งสาขาพรรคการเมืองมองเป็นการแก้เกมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าการเมืองคือเกม โดยพื้นฐานตนไม่ใช่นักการเมือง จึงพยายามศึกษาว่าการเมืองไทยเป็นอย่างไร ซึ่งได้พูดในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วว่า หลายประเทศการเมืองคือเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีการต่อสู้ ทำลายล้างกัน หรือให้ร้ายซึ่งกัน จนกระทั่งทำงานกันไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่บ้านเราต้องแก้ไข ประชาชนต้องเรียนรู้ นักการเมืองต้องปรับตัว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |