บอกได้คำเดียวว่า “ปรอทแตก” สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในยามที่ปี่กลองได้เชิดฉิ่ง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการ “โยกย้าย-สับเปลี่ยน” ค่าย หรือแม้แต่การชิงดำ ชิงเก้าอี้หัวหน้า และในอนาคตอันไม่ไกลเกินไป ก็น่าจะ “ร้อนแรง” มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ ของพรรคการเมืองต่างๆ ...๐ ที่ร้อนฉ่ามากสุดตอนนี้คงไม่มีใดเกิน 2 ยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน ร่วมกันตี” ของนายเหนือ “ทักษิณ ชินวัตร” กับยุทธศาสตร์ “รวมกันแพ้ แยกกันชนะ” ของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. ที่ได้รู้แจ้งหลังนอนซังเตมาหลายเพลา โดยยุทธศาสตร์แรกนั้นแพลมมาแล้ว และถึงขั้นจะ “ประเคน” เก้าอี้ผู้นำประเทศให้พันธมิตรร่วมรบ (หากจับมือจริง) อย่าง ”ประชาธิปัตย์” ทีเดียว แต่ดูเหมือนกระแสค้านจะมากกว่าตอบรับ เลย ทำให้ยุทธศาสตร์ของ “ตุ๊ดตู่” ดูเหมือนมีภาษีมากกว่า ...๐ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ “สัมภเวสีเหลี่ยม” เองก็กลัวว่าอาจ “ชี้นิ้ว” ไม่ได้ในอนาคต หาก “สาขา” ทั้งหลายปีกกล้าขาแข็งขึ้นมา ที่สำคัญยังมีผลต่อ “บัดเจต” ที่วางไว้อีกต่างหาก เพราะยิ่งมีเครือข่ายมาก การควัก "กระสุนดินดำ” ก็ต้องมากตามเป็นเงาตามตัว ซึ่งหากผลที่คาดว่าจะชนะแบบแลนด์สไลด์เกิดอาการ “พลิก” ขึ้นมา ก็จะได้ไม่คุ้มเสียเอาง่ายๆ ...๐ พูดถึงสารพัดยุทธศาสตร์เลือกตั้ง แล้ว ไม่เอ่ยถึง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” 2 ศรีพี่น้องที่หนีคำตัดสินศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองไม่ได้ เพราะช่วงนี้จะเห็น “ความถี่” ในการขยับตัวสร้างข่าวกันมากขึ้น ที่สำคัญมาโฉบเฉี่ยวใกล้กับประเทศไทยอยู่เนืองๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมว.การต่างประเทศ บอกแบบชัดๆ ให้งงกันทั้งบางว่า “กต.ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า เพียงแต่รับรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร การขอตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจ” ...๐ พิโธ่! อดีตผู้นำประเทศหนีคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมไทย ซ้ำร้ายยังมีหมายจับอีก 3-4 หมายในคดีอยู่ในสารบบ ขณะที่อดีตผู้นำหญิงก็ถูกตัดสินในคดีที่บอกว่าสร้างความเสียหายมากที่สุดในประเทศอย่าง “จำนำข้าว” แต่ รมว.กต.กลับบอกหน้าตาเฉยไม่ใช่เรื่องสำคัญ พระเจ้าจอร์จ! แล้วที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญกว่านั้น คงไม่ใช่เรื่องกรณีศรีภรรยาถือครองหุ้นเกิน 5% ที่อยู่ในการตีความของศาลรัฐธรรมนูญหรอกนะจ๊ะ ...๐ เห็นท่าทีขึงขังของ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีครอบงำพรรคหรือไม่ของ “นายเหลี่ยม” ที่ระบุว่า “กกต.คงไม่ได้เป็นเครื่องมือของใครในการจะยุบพรรค” เพราะตอนนี้ยังมีแค่ข่าว แหม! มีทั้งคลิป มีทั้งสัมภาษณ์ ยังไม่ชัด งั้นก็ลองไปดูที่ กรณีอัยการสำนักคดีพิเศษสั่งฟ้อง “พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ทักษิณ” ทั้งที่สำนักงานอัยการและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ก็น่าจะชัดแจ้งแดงแจ๋นะจ๊ะ ...๐ ดูได้จากคนที่ไปให้กำลังใจทั้งหลาย ไม่นับบรรดาแม่และพี่น้องที่ต้องถือเป็นสายเลือดเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ระดับ “แกนนำพรรคเพื่อไทย” ตั้งแต่ระดับรักษาหัวหน้า จนถึงเลขาธิการ ฯลฯ นี่ ถ้าไม่ใช่ลูกเจ้าของพรรคตัวจริงเสียจริง จะลงทุนไปตากแดดตากลมยกมือไหว้ไล่เรียงโชว์หน้ากันสลอนหรือ ...๐ ถ้าจะแถว่าเป็นห่วงเป็นใยในสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่รู้ว่า “โอ๊ค” ได้สมาชิกพรรคแล้วหรือยัง แล้วหากเป็นจริงก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานความห่วงใยนี้หากไม่มีบิดาชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” จะเกิดภาพอย่างนี้กับสมาชิกคนอื่นหรือไม่ เพราะถ้าจะให้กำลังใจจริงๆ ก็ทำเหมือน “มดดำ คชาภา” ที่โพสต์อินสตาแกรมยังจะดูดีกว่านะเธอ ...๐ แหม! เห็น “แพทองธาร ชินวัตร” หรือ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กที่ถอดแบบ “พ่อเหลี่ยม” มาใกล้เคียงที่สุด โพสต์อินสตาแกรมตัดพ้อว่า "ลูกทักษิณ ไม่เคยได้รับอะไรเหมือนคนอื่นเค้าหรอก ลูกทักษิณได้รับอะไรแรงกว่าคนอื่นเสมอ” โธ่! งานนี้ถ้ามองทางธรรมะ ก็ต้องบอกว่าเป็น เรื่อง “บุญธรรมกรรมแต่ง” นะจ๊ะ แล้วที่สำคัญ “กรรม” นี้ ก็ไม่ได้เกิดจากใครกลั่นแกล้ง แต่เกิดจากน้ำมือของ “ทักษิณ" เองมิใช่เหรอ สังคมยกให้เป็น “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” อยู่ดีๆ ก็โดดมาเข้าสู่ “สนามการเมือง” จนสร้างวลี “บกพร่องโดยสุจริต” จากกรณีซุกหุ้นให้คนขับรถ คนรับใช้ จนมาถึง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” และทำให้ไม่ได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนจนถึงปัจจุบัน งานนี้หากย้อนดู ก็ บอกได้สั้นๆ ว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” นะเธอ ...๐
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |