10 ต.ค. 61 - ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคหมายเลข 3 ได้แสดงวิสัยทัศน์ โดยมีผู้สนับสนุนเข้าร่วมฟังจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนายอาณัฐชัย รัตตกุล บุตรชายนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้วย
นายอลงกรณ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า พร้อมที่จะเป็นหัวหน้าประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทย ซึ่งการเดินทางโค้งสุดท้ายของชีวิตครั้งนี้เป็นจุดยากที่สุด และจะเป็นโอกาสเดียวของประเทศในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นี่คือเหตุผลที่ต้องกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่เก่าแก่และมีสมาชิก 2 ล้านกว่าคน มีบุคลากรมากมายที่ได้สร้างความดี เป็นความพยายามพาประเทศสู่อนาคต แต่เมื่อมีระบบไพรมารีโหวตนี่คือจุดเปลี่ยนพรรค ที่ทำให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง
“ถ้าเลือกผมเป็นหัวหน้าพรรค การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน จะไม่มีเรื่องของเด็กของคนนั้นคนนี้จะไม่มีอีกต่อไป การปฏิรูปองค์กรต้องบ่มเพาะ ติดอาวุธความคิด สร้างเครือข่ายขยายฐานสมาชิก และสร้างความเสมอภาคอย่างเท่าเทียม คนของเราต้องพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาล แม้แต่ประธานสาขาพรรค ก็ต้องพร้อมเป็นรัฐมนตรี เพราะมีความสามารถ มีความรู้ ไม่ใช่นายทุน หรือใครบอกว่าคนนี้ควรเป็นตำแหน่งไหน และถ้าวันหนึ่งผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะให้ ส.ส. และรัฐมนตรี เขียนใบลาออกล่วงหน้า และจะตั้งคณะกรรมการคุณธรรม โดยเชิญนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นประธานคณะกรรมการ ใครมีเรื่องโดนร้องเรียนภายใน 36 ชม. ต้องชี้แจงทันที” นายอลงกรณ์ ระบุ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า 80 กว่าปีของประชาธิปไตย คนไทยเสียเลือดเนื้อมากขนาดไหน มีรัฐประหาร 13 ครั้ง และยึดอำนาจไม่สำเร็จ 7 ครั้ง รวมแล้ว 20 ครั้ง ทุกครั้งเรามักจะมองว่าหลังการเลือกตั้งจะไม่เกิดวิกฤติอีก ดังนั้นตนจึงไม่เอานายกฯคนนอก ไม่ว่าจะชอบ รัก ชัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใครก็ตามที่จะเข้ามาช่องทางนายกฯคนนอก ถ้าตนเป็นหัวหน้าพรรค จะไม่รับ ซึ่งนายกฯคนนอกจะเป็นชนวนก่อวิกฤติ ความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้ง แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเปิดช่องอย่างไรก็ตาม ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ เดินตามครรลองประชาธิปไตย ลงมาเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอมาในการเลือกตั้ง ถือว่าสง่างาม และดีต่อตัวนายกฯเอง
ทั้งนี้ การยึดมั่นในระบบรัฐสภาเป็นหัวใจสำคัญ เพราะเป็นตัวแทนอำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย เราต้องยึดมั่นเรื่องนี้ ให้รัฐสภาเป็นตัวแก้ไข พรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งก็ต้องแพ้และปรับปรุงตัวเอง และลงเลือกตั้งใหม่ แพ้อีกก็ต้องปฏิรูปตัวเองจนกว่า ประชาชนจะศรัทธาให้เป็นผู้ชนะ ซึ่งทุกพรรคต้องยึดถือแนวทางนี้ ขอให้การบอยคอตการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคจะลงเลือกตั้งทุกครั้ง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่มีอำนาจนอกระบบอยู่เบื้องหลัง ใครที่คิดจะเข้ามาแทรกแซงพรรค เพื่อหนุนใครอย่างไม่ชอบธรรม จะยืนหยัดร่วมกับสมาชิกปกป้องพรรค ไม่ยกพรรคให้ใคร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |