ทัพเบ่งกล้ามไทยสุดปลื้มประสบความสำเร์จในศึกเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 52 ที่ สนามบาเลวาดี้ เมืองปูเน ประเทศอินเดีย ได้มาถึง 11 ทอง 5 เงิน 5 ทองแดง จาก 15 นักกีฬาที่ส่งแข่งขัน พร้อมคว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยคะแนนรวมทีมหญิงของเอเชียอีกสมัย ส่วนทีมชายได้อันดับ 2
ทัพนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทั้งหมด 15 คน เดินทางกลับมาจาก การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 52 ที่ สนามบาเลวาดี้ เมืองปูเน ประเทศอินเดีย ด้วยสายการบินเจ๊ต แอร์เวย์ เที่ยวบิน 9 ดับบลิว 371 จากเมืองปูเน ประเทศอินเดีย และจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เที่ยวบิน 9 ดับบลิว 066 โดยมี นายธันย์ปวัฒน์ เตชภูวดลวิทิต ผู้จัดการทีมนำทัพนักกีฬาเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยเรียบร้อย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ซึ่งผลงานของทัพนักกีฬาไทยทำได้ 11 ทอง 5 เงิน 5 ทองแดง พร้อมได้ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ทีมหญิง และ อันดับ 2 ทีมชาย
11 เหรียญทองมาจาก ขุนตาล พวงเพชร ที่ได้ 2 ทองจากเพาะกายชายรุ่นน้ำหนัก 70 กก. และ เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์ รุ่นอายุ 40-49 ปี รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. , วันชัย กาญจนพิมาย ที่ได้ 2 ทอง จาก ฟิตเนสชายรุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม. และ อีก 1 ทองได้จาก มิกซ์แพร์ ที่จับคู่กับ ศิริพร ศรช่วย, รพีพร อารีย์ คว้า 2 ทอง โมเดลมาสเตอร์หญิงรุ่น 30-40 ปี และ โมเดลฟิสิคหญิงรุ่นความสูงไม่เกิน 155 ซม., อรอนงค์ อินทร์แก้ว 2 ทอง สปอร์ตฟิสิคหญิง มาสเตอร์หญิงรุ่น 30-40 ปี และ สปอร์ตฟิสิคหญิงรุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม., พ.จ.อ.ดำรงศ์ศักดิ์ สร้อยศรี ฟิตเนสชายรุ่นความสูงเกิน 170 ซม., ส.อ.บุลากร ดีกระโทก สปอร์ตฟิสิคชายรุ่นความสูงไม่เกิน 180 ซม., จ.อ. หญิง อาจารี แท่นทรัพย์ ฟิตเนสหญิงรุ่นความสูงเกิน 165 ซม.
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ถือว่าประสบความสำเร็จ ได้รับความสำเร็จ เพราะนักกีฬาสามารถคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง ถือว่าเป็นอีกครั้งที่หนึ่งทางสมาคมฯ ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างผลงานได้อย่างดี ขอขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในส่วนของกีฬาเพาะกายและฟิตเนส ให้เป็นที่ยอมรับของประเทศเพื่อนบ้านในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะคะแนนทีมหญิงยังเป็นอับดับ 1 อีกสมัย ส่วนทีมชาย เป็นอันดับ 2 รองจากเจ้าภาพ อินเดีย
สำหรับนักกีฬาที่ติด 1 ใน 3 ในชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ จะได้ไปแข่งขันต่อ ในการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 10 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-17 ธ.ค. ที่เชียงใหม่ รวมกับนักกีฬาที่เก็บตัวไว้ โดยทางสมาคมฯ เตรียมนักกีฬาที่จะส่งแข่งไว้ทั้งหมด 50 คน เพื่อเตรียมไว้สำหรับลงแข่งทั้งหมด 52 รุ่น ที่จัดการแข่งขันในชิงแชมป์โลก โดยในส่วนของความหวังของสมาคมฯ ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปีนี้ ตั้งเป้าไว้ไม่น้อยกว่าที่เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว ที่มองโกเลีย และในฐานะเจ้าภาพ ที่สามารถส่งนักกีฬาไปแข่งขันได้มาก เพราะฉะนั้นนักกีฬาไทยต้องทำเหรียญทองไม่น้อยกว่าที่ทำได้ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่อินเดีย ครั้งนี่ ที่ทำได้ 11 ทอง
ด้านโปรแกรมต่อไปนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชุดนี้ ที่ได้อันดับ 1-3 จะได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 10 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 11-17 ธ.ค. 61 ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จ.เชียงใหม่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |