ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์คิกออฟชิงเก้าอี้ "หัวหน้าพรรค" ผู้สมัครแต่ละคนก็ออกลวดลายขอคะแนนเสียงจากสมาชิกพรรคตามสไตล์ของตัวเอง ทำให้ดูเหมือนเป็นการพรีเลือกตั้งย่อยๆ แต่เป็นกิจกรรมที่ไม่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

        ประเดิมด้วยผู้สมัครหมายเลข 1 “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน มีแบล็กดีเป็นผู้ใหญ่อาวุโสของพรรค ทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ลงชื่อสนับสนุนส่งเข้าประกวด โดยเบื้องต้นมีแผนลงพื้นที่ยาวเหยียดตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดชายแดนใต้

        อีกทั้งยังรุกโซเชียลปล่อยคลิปวิดีโอเจาะตลาดคนรุ่นใหม่เชิญชวนให้ร่วมสมัครสมาชิก เพื่อเลือกหัวหน้าด้วยมือของตัวเอง โดยในคลิปดังกล่าวมีเนื้อหารายละเอียดว่า

       “ถ้าใหม่ หมายถึง เพิ่งมา หรือไม่มีประสบการณ์ ผมไม่ใหม่แน่ แต่ถ้าใหม่หมายถึงสดใหม่ ผมมั่นใจว่าใหม่ สี่ปีที่ผ่านมา ผมถือว่าเป็นคนตกงานที่ยุ่งที่สุด”

        อีกทั้งยังบอกอีกว่า “ผมไม่ใช่คนเดิมๆ เพราะผมเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ทุกวัน ผมมีคนใหม่ๆ เข้ามา ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกันตลอดเวลา เราจะใหม่ได้ ต้องมีคุณอีกคนเข้ามา ร่วมสร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ คุณก็พร้อมกับความคิดใหม่ๆ ได้ และผมพร้อมจะทำสิ่งใหม่อีกครั้งที่แท้จริงให้ประเทศของเรา จะใหม่ได้เราต้องร่วมกัน”

        ขณะที่ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก ผู้สมัครหมายเลข 2 ก็ได้ “ถาวร เสนเนียม” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สนับสนุนพร้อมควักทุนให้ และมีกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคในภาคเหนือและอีสาน เช่น สมบัติ ยะสินธุ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน ศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เป็นต้น

        ที่ผ่านมาทีมนี้เดินสายก่อนเพื่อนผู้สมัครคนอื่นๆ โดยล่าสุดเดินทางไปพบเพื่อนสมาชิกที่จังหวัดอุบลราชธานี เสี่ยวศุภชัยใจปล้ำเปิดอาณาจักรที่ อ.ม่วงสามสิบ ให้หาเสียง ด้าน “มือปราบโกงจำนำข้าว” ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เดินทักทายชาวบ้านด้วยความเป็นกันเองและติดดินมากๆ แถมยังจกข้าวเหนียวเอาใจชาวอุบลฯ เสียด้วย

        แต่ “ไฮไลต์” เด็ดสุดต้องยกให้ช่วงจับไมค์ เรียกว่าม่วนหลายเด้อ เพราะแนะนำตัวแบบไม่มีกั๊ก โดยบอกกับพี่น้องตรงๆ ว่า หากหมอวรงค์ได้เป็นหัวหน้าพรรคครั้งนี้ จะมี “ถาวร” เป็นเลขาธิการพรรค ท้ายสุดมีการโปรยยาหอมอีกว่า ขอให้ชาวอีสานช่วยเทคะแนนให้กับทีมหมอวรงค์ด้วย เพราะหากได้เป็นจริงๆ จะช่วยให้ผู้ที่ถือที่ดิน ส.ป.ก.มีโฉนด

        “พี่น้องไม่ต้องกลัว วันนี้เราได้ศึกษาความชัดเจนในเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. รวมทั้งท่านถาวรเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ที่ดูแลกรมที่ดิน เราคุยกันว่ารอบนี้ต้องแก้ไขปัญหาที่ดินเต็มที่ ผมยืนยันว่าเราจะแปลงที่ดิน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดกับพี่น้อง เราจะแปลงให้แน่นอน เพราะที่ดิน ส.ป.ก.ไม่มีมูลค่า พี่น้องทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นโฉนด พี่น้องมีความจำเป็นก็เดินไปที่ธนาคารของรัฐได้ และสามารถแปลงเป็นทุนได้” หมอวรงค์บอก 

        ด้าน “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แม้ก่อนหน้านี้ลีลาไปหน่อย แต่เมื่อวันที่ 8 ต.ค.นี้ “อลงกรณ์” จัดเต็มกว่าใครเพื่อน มีกองเชียร์ทั้งกลุ่มเพื่อนและเครือข่ายแท็กซี่ยกทัพมาให้กำลังใจถึงที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์

        ทว่า จากการประเมินในนาทีนี้ของทั้ง 3 คน แนวโน้มผลการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์” ยังคงมีแต้มต่อจำนวนมากกว่าใครเพื่อน เพราะนายหัวชวนซึ่งเป็นบุคคลที่บรรดาอดีตสมาชิกพรรคทั้งหลายให้ความเคารพนับถือยังให้การสนับสนุน “อภิสิทธิ์” อยู่เหมือนเดิม ประกอบกับ “อ.มาร์ค” มีภาษีที่ดีกว่าทั้งในมุมการเมืองและความเป็นผู้นำ

       อย่างไรก็ตาม คงต้องรอลุ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ว่าม้าศึกเบอร์ใดจะเป็นที่หนึ่ง และหวังว่ากรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะเคารพในผลการหยั่งเสียงครั้งนี้.