เค้กเจนัวต้นตำรับความอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส
ใครชอบทานขนมหวานคงจะต้องเคยได้ลิ้มลองเค้กและคุกี้ของมาดาม มาร์โก้ แบรนด์เค้กสุดอร่อยที่เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2526 โดยมีเอกลักษณ์ คือ เค้กเจนัว รสกาแฟ เนื้อเค้กสปันจ์เนียนนุ่มสลับกับครีม 3 ชั้น โรยหน้าด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลจากแคลิฟอร์เนีย ให้รสชาติกรอบมันหวานฉ่ำ ในราคาจับต้องได้ ถือว่าเป็นเค้กถูกใจทุกเพศทุกวัยมากว่า 36 ปี
บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดกิจกรรม “ฉลองครบรอบ 36 ปี มาดาม มาร์โก้” ที่จะเนรมิตลานแฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอนให้เป็นลานแฟชั่นโชว์ เค้ก 9 แบบ 9 สไตล์ อาทิเช่น เค้กแต่งงาน เค้กรับขวัญวันเกิด เค้กใหม่ เค้กวาเลนไทน์ เค้กวันBoss เค้กวันพ่อวันแม่ เป็นต้น เพื่องานเฉลิมฉลอง เทศกาลต่างๆ และโอกาสพิเศษ แทนคำขอบคุณ ยินดี อวยพร และบอกรักคนพิเศษ ภายใต้ธีม สไตล์ฝรั่งเศส ผสานความโรแมนติกและความคลาสสิคของวัฒนธรรมฝรั่งเศส อันเป็นต้นกำเนิดของเค้กมาดาม มาร์โก้ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2561 เวลา 12.30-17.00 น. ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ชั้น 1 สยามพารากอน
นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัทเพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ มาดาม มาร์โก้ เป็นอีกหนึ่งใบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและ สร้างรายได้ให้บริษัทมาอย่างต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้มีการทำการตลาดมากนัก แต่เป็นแบรนด์เค้กและคุกกี้ที่คนรู้จักและแนะนำกันแบบปากต่อปาก ถึงคุณภาพดีที่ อย่างต่อเนื่อง
สูตรเค้กต้นตำรับความอร่อยที่เริ่มต้นมาจาก ศรีชนก วัฒนศิริ ผู้ร่วมคิดค้นพัฒนาสูตรเค้กเจนัวก้อนแรกของ มาดาม มาร์โก้ เค้กสุดพิเศษอันเป็นเอกลักลักษณ์ สไตล์ฝรั่งเศส ได้มาเล่าย้อนเวลากว่าจะมาเป็นมาดาม มาร์โก้ ที่อยู่คู่กับคนไทยจนถึงปัจจุบัน ว่า 30 ปีที่แล้วที่ตนยังเป็นผู้ลงมือทำด้วยตนเอง แม้จะได้ออกมาจากตำแหน่งหันมาเป็นผู้บริโภคคอยชิมรสชาติของเค้กเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีอยู่ตลอด ซึ่งสูตรเค้กเจนัวได้เริ่มต้นมาจากเมื่อสมัยที่ตนได้ไปเรียนมาที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้ไปอาศัยอยู่บ้านกับแม่บ้าน ในระหว่างนั้นหลังจากเลิกเรียนก็ไม่มีอะไรทำ รู้สึกได้ถึงความเหงาและเศร้า พยายามที่จะหาอะไรทำก็ไม่สามารถทำให้ความรู้สึกเหล่านี้ลดลง จนกระทั่งวันหนึ่งแม่บ้านที่ตนได้จัดงานปาร์ตี้น้ำชาขึ้น นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนได้รู้จักมาดามมาร์โก้ เพื่อนของแม่บ้าน ชื่อจริงของเธอคือ Madame Concetta di Marco ปัจจุบันเธอก็ยังมีชีวิตอยู่มีอายุ 93 ปี
“หลังจากนั้นตนก็ได้ทำความรู้จักและได้รับเชิญไปบ้านของมาดามมาร์โก้ ได้ทำขนมต่างๆด้วยกัน และก็ทำให้ตนได้พบกับความสุข จนกระทั่งได้มาถูกใจรสชาติของเค้กเจนัว ที่มีความนุ่ม หอมหวาน แต่หลังจากเรียนจบกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ วันเวลาผ่านไปทำให้คิดถึงมาดามมาร์โก้ และพอได้มาทำงานในบริษัทเพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จึงได้นำเสนอเค้กรสชาตินี้ ที่อาจจะสร้างรายได้ให้กับบริษัท แม้ว่าในสมัยนั้นจะมีอุปสรรคอยู่บ้างเพราะทุกอย่างใหม่มากสำหรับทุกคน และไม่มีใครที่เชี่ยวชาญเรื่องเค้ก นับว่าเป็นเรื่องยากและค่อนข้างใช้เวลา แต่ก็ได้พัฒนาจนออกมาเป็นเค้กเจนัว รสกาแฟ ก้อนแรก ภายใต้แบรนด์มาดาม มาร์โก้ ที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะเป็นการให้เกียรติและระลึกถึงมาดามที่คอยสอนทำเค้ก” ศรีชนก กล่าว
เค้กเจนัวสุดคลาสสิคในโอกาสเฉลิมฉลองในอดีต
ต้นกำเนิดของเค้กเจนัว ศรีชนก ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เค้กเจนัว เป็นหนึ่งในสไตล์เค้กของฝรั่งเศส ที่ต้องชื่อนี้เพราะว่าเป็นเมืองต้นกำเนิดของเค้ก ซึ่งเมืองเจนัวเมื่อศตวรรษที่ 19 เป็นเมืองท่าสำคัญระหว่างยุโรปและตะวันออกกลาง มีการค้าขายที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนในเมืองก็ร่ำรวย และทำธุรกิจเก่ง ส่งผลให้ศิลปวัฒนธรรม อาหาร ต่างๆก็ได้พัฒนาขึ้น และนั้นยังเป็นเหตุผลให้มีวัตถุดิบในการปรุงอาหารใหม่สดเสมอกว่าที่อื่น อัลมอนด์จึงได้ถูกเลือกมาใช้เป็นวัตถุดิบ เพราะมีความกรอบ คุณภาพดี
สำหรับในประเทศไทยการทำเค้กเจนัว ศรีชนก กล่าวว่า วัตถุดิบหลัก คือ อัลมอนด์ที่ถือเป็นจุดขายของเค้ก ได้รับการคัดสรรอย่างดีจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เม็ดอัลมอนด์ต้องอวบอูม และมีความยาวได้ขนาด เมื่อนำไปหั่นเป็นแท่งเท่าก้านไม้ขีดต้องไม่แตกหัก หากเม็ดอัลมอนด์ที่ส่งมาไม่ได้ขนาด กลิ่นไม่หอ และคุณภาพไม่ถึง บริษัทจะต้องตีกลับในทันที และในขั้นตอนการคั่วอัลมอนด์ต้องคั่วให้หอม และเคี่ยวน้ำตาลเป็นคาราเมลผสมกาแฟในอุณหภูมิที่พอเหมาะ นำมาเคลือบอัลมอนด์จะทำให้กรอบได้จนถึงวันสุดท้ายที่หมดอายุด้วย และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือการไม่ใส่ผงฟู ซึ่งเป็นเทคนิคในการทำเค้กให้ฟูด้วยตัวมันเอง ทำให้เวลาทานจะได้สัมผัสรสชาติที่ละมุนละไมกลมกล่อมของครีม เนื้อเค้กและอัลมอนด์ เค้กคาเฟเจนัวไม่ได้ทำเพื่อนำไปวางขาย ในตู้ แต่จะทำให้ก็ต่อเมื่อมีออเดอร์สั่งเข้ามาล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทานของที่สดใหม่เสมอ
เค้กสไตล์ฝรั่งเศสรสชาติถูกปากถูกปากคนไทย ศรีชนก บอกว่า เพราะในสมัยก่อนประเทศไทยยังไม่มีร้านเบเกอรี่ แต่จะมีเป็นร้านขนมปัง หรือร้านขนมออกแนวจีนๆ จึงคิดว่าเค้กลักษณะนี้ทั้งรสชาติ รูปทรง น่าจะปรับตัวให้ถูกปากคนไทยได้ง่าย และก็ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องทำการตลาดมากนัก เพราะความอร่อยถูกส่งต่อแบบปากต่อปาก ทำให้เค้กเจนัวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังคงมีรสชาติ รูปทรงและการบริการที่ได้มาตรฐาน ในส่วนของเค้กรสชาติอื่นๆก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรสชาติให้ถูกปากคนไทยจากแต่ก่อนที่ชอบทานหวานๆ แต่ในปัจจุบันเป็นยุคที่หลายๆคนหันมาใส่ใจสุขภาพก็อาจจะมีการปรับสูตรให้มีรสชาติหวานน้อยลงด้วย
“สำหรับการจัดกิจจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เพราะต้องการแสดงและสะท้อนให้เห็นความเป็นเค้กมาร์ดาม มาร์โก้ ที่อยู่คู่กับคนไทย นอกจากนี้ภายในงานก็จะเซอร์ไพรส์มากมายทั้งแฟชั่นโชว์เค้ก นิทรรศการ และทุกคนก็จะแต่งตัวในสมัยของมารี อ็องตัวแน็ต พระราชินีแห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ เพราะในสมัยที่เป็นยุค การปฏิวัติฝรั่งเศส ทำให้ประชาชนอดอยาก ข้าวยากหมากแพง เมื่อมีคนไม่กราบทูล และพระนางได้ตรัสมาว่า let them eat cake ซึ่งเป็นวลีที่เป็นประวัติศาสตร์ จึงได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของธีมงานในครั้งนี้ ซึ่งใครได้มาต้องรู้สึกมีความสุขมากๆ” ศรีชนก ทิ้งท้าย
ทุกขั้นตอนพิถีพิถันเพื่อให้ได้เค้กคุณภาพ
ในปัจจุบันเค้กเจนัวที่วางจำหน่ายมี 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดมินิ ราคา 100-150 บาท ขนาดกลาง สำหรับ 2-3 คน ราคา 430-500 บาท และ ขนาดใหญ่ 2 ปอนด์ สำหรับครอบครัว ราคา 600-850 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีรสชาติของช็อคโกแลต และวานิลลา สามารถออร์เดอร์ขนาดพิเศษได้ตามต้องการ ที่สาขาสยามพารากอน และศูนย์การค้าทั่วกรุงเทพฯ ทั้งกลุ่มศูนย์การค้าเดอะมอลล์ เซนทรัล พาราไดซ์ แฟชั่นไอส์แลนด์ เมกาบางนา โรบินสัน และ อื่นๆ รวม 22 แห่ง
ศรีชนก วัฒนศิริ
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “ฉลองครบรอบ 36 ปี มาดาม มาร์โก้” ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ร่วมเซลฟี่กับเหล่าคนดัง บุคคลทั่วไปที่ร่วมสนุกและแต่งตัวเข้ากับธีมงานเพื่อมาถ่ายภาพขึ้นโซเชียล รับมินิเค้กฟรี 100 คนแรกและแอดไลน์ @madamemarco รับคุกกี้ฟรีในงานจำกัด 200 คน เท่านั้น สำหรับลูกค้าที่มาร่วมช็อปในงานรับสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นอีกเพียบ งานจะจัดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2561 เวลา 12.30-17.00 น. ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ชั้น 1 สยามพารากอน