เริ่มต้นนับหนึ่งเทศกาลถือศีลกินเจในวันนี้ และนับต่อไปจนครบ 9 วัน ถือเป็นโอกาสอันดีในการถือศีลข้อ 1 ปาณาติปาตา เวระมะณี อย่างเคร่งครัด สะอาดสะอ้านมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้กินเจนั้นจะผิดศีลข้อ 1 โดยปริยายนะคะ เพราะปาณาติปาตา หมายถึงเจตนาฆ่า หรือทำร้ายค่ะ
นอกจากนั้น ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ได้มีข้อปฏิบัติอันเกี่ยวกับการงดบริโภคเนื้อสัตว์ แต่จะเน้นย้ำเสมอว่าบริโภคเพื่ออยู่ พอประทังให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัย มิใช่อยู่เพื่อบริโภคที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับรสชาติ
เจตนาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดำรงตนเพื่อความเป็นมนุษย์
เพราะต่อให้กินเจ แต่ปากยังเที่ยวระรานชาวบ้าน หรือจิตใจยังคงมีแต่โลภะ โทสะ ก็ไม่แตกต่างอะไรจากคนนุ่งขาวห่มขาว แต่เอารัดเอาเปรียบผู้คน สวดมนต์กันเป็นแค่เปล่งเสียงนกเสียงกา แต่ไม่รับรู้ถึงแก่นสารสาระของคำสั่งสอนที่อยู่ในบทสวดมนต์นั้นๆ
ฉะนั้น การรู้จักครองตนให้อยู่ในศีลในธรรม จึงเป็นแก่นและหลักธรรมพึงปฏิบัติมากกว่าการเลือกที่จะลุกขึ้นมา "อินเทรนด์" หรือเกาะกระแสแฟชั่น
อย่างไรก็ตาม การเลือกรู้จักตั้งจิตตั้งใจว่า ใน 1 ปีช่วงเทศกาลกินเจ จะละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด ก็ถือเป็นสิ่งที่ต้องร่วมอนุโมทนา เพราะการมีความพยายามทำในสิ่งที่งดงาม ย่อมดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย...นะคะ
เท่าที่จำได้ เห็นมนุษย์แม่ถือศีลกินเจมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนมนุษย์ป้าเองนั้นก็จะถูกภาคบังคับโดยปริยาย คือต้องกินเจกับแม่ด้วย เพราะที่บ้านในช่วงเทศกาลกินเจจะมีแต่กับข้าวเจทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นผักกาดดอง หัวไช้โป๊ ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ เพิ่งมามีตอนหลังๆ หรือประมาณ 30 ปีนี้กระมังที่หน้าตาอาหารเจกลายเป็นแป้งที่ปั้นเป็นรูปต่างๆ และรสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเป็ดย่าง ปลาหมึก ลูกชิ้น ทอดมัน และ ฯลฯ แม้กระทั่งไส้กรอก แฮม เบคอนก็ยังเหมือนเปี๊ยบ
นี่คือวิถีของมนุษย์ที่รู้จักดัดแปลง ทำลายความน่าเบื่อ สิ่งจำเจของอาหารเจ ที่เคยมีแต่ผักและของดองให้มีหน้าตาสดใส ถึงขั้นสามารถทำหูฉลามได้เหมือนจนน่าตกใจกันเลยทีเดียว
ความเหมือนของแป้งที่กลายเป็นกุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้น ปลาสลิด ปลาเค็ม บางคนก็แสดงความไม่เห็นด้วย และวิพากษ์วิจารณ์ว่าจิตใจไม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ยึดติดกับรสชาติ และดัดจริตทำกินเจ ที่แท้ก็อยากกินเนื้อสัตว์ จนอดรนทนไม่ไหว
หากใครมองเห็นเรื่องนี้เป็นปัญหา ก็เอาที่สบายใจ แต่ใครที่มองว่าขำๆ ก็เป็นเรื่องไม่เสียหายอะไร เพราะอย่างที่บอกนั่นแหละว่า ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา
เทศกาลกินเจทั้งที หากใครไม่สามารถละเนื้อสัตว์ได้ ก็ลองใช้อภัยทานเป็นเครื่องนำพาชีวิตสัก 9 วันในช่วงนี้ จะรู้ว่าการให้อภัยนั้นเป็นทานอันสูงสุดค่ะ และดูเหมือนว่ายากที่สุดในการทำให้สำเร็จด้วยนะคะ ที่สำคัญคือ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรือจะถูกใครมองว่าสร้างภาพแน่นอนค่ะ ...สาธุ.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |