เมื่อถึงเทศกาลกินเจของทุกปี ชาวกรุงต่างมุ่งไปที่เยาวราช เพราะเต็มไปด้วยวัตถุดิบและอาหารคาวหวานมากมายให้เลือก ซึ่งนอกจากถนนเยาวราชซึ่งเป็นถนนสายหลัก รวมถึงตรอกซอกซอยในย่านที่คุ้นเคยกันดีแล้ว

“ตลาดน้อย” เป็นอีกแห่งที่ถึงเทศกาลนี้เมื่อไหร่ใครๆ ก็ต้องแวะมา เนื่องจากเป็นชุมชนชาวจีนที่เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนานไม่แพ้ย่านอื่น มีศาลเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของคนไทยเชื้อสายจีน และมีอาหารเจซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย แถมปีหนึ่งจะมีให้กินเพียงครั้งเดียว ทำให้เทศกาลกินเจของทุกปี ตลาดน้อยจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ

ในปีนี้เทศกาลกินเจ ตลาดน้อย เริ่มตั้งแต่วันที่ 8-17 ตุลาคม 2561 ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกมากมายทั้งก๋วยเตี๋ยวและอาหารจานเดียวสารพัดเมนู แต่ที่จะขอแนะนำและเป็นตำนานย่านตลาดน้อย นั่นคือ ร้านตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ เพราะเป็นเจ้าเก่าแก่ที่ขายมานานกว่า 70 ปีแล้ว เป็นต้นตำรับขนมตุ๊บตั๊บที่ลูกค้าเต็มใจยืนรอ โดยแต่ละครั้งอาจต้องรอนานอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงกันเลยทีเดียว เพราะเป็นขนมโบราณแบบโฮมเมดจริงๆ ทุบให้เห็นกันสดๆ ใช้แรงงานคนในทุกขั้นตอน จึงใช้เวลาในการผลิตนานสักหน่อย แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าสมกับการรอคอย ด้วยกลิ่นหอมๆ ของถั่ว ผสมผสานความหวานของน้ำตาลและสัมผัสหนึบหนับ ทำให้ขนมตุ๊บตั๊บเจ้านี้กลายเป็นของฝากในเทศกาลกินเจ

ขนมตุ๊บตั๊บเป็นขนมที่มองแล้วดูเหมือนเป็นขนมที่ดูไม่มีอะไรเลยเพราะว่าส่วนประกอบหลักๆก็มีแค่ถั่วลิสงและน้ำตาลทราย แต่การที่จะทำให้อร่อยดูดีน่ากินก็ต้องอาศัยความละเอียดและความชำนาญอย่าง ขนมตุ๊บตั๊บร้านเหล่าแปะเป็นสูตรดั้งเดิมที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคุณตาชาวจีน ซึ่งขายขนมตุ๊บตั๊บมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2485 โดยจะขายเฉพาะเทศกาลกินเจเท่านั้น ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติที่ลูกหลานยังคงสืบทอดจนถึงทุกวันนี้

ขนมตุ๊บตั๊บเหล่าแปะเน้นคัดถั่วลิสงคุณภาพที่ดีที่สุด เม็ดใหญ่และสมบูรณ์ไม่แตกหัก และที่สำคัญคือ ต้องพิถีพิถันการทำทุกขั้นตอนโดยใช้ความร้อนจากเตาถ่านเท่านั้นเพราะจะได้ถั่วที่กรอบและมีกลิ่นหอมและสัมผัสเนียนนุ่ม

เมื่อกัดไปคำแรกก็จะรับรู้ถึงความกรอบของน้ำตาลเชื่อมที่แข็งตัวแล้วจับตัวกันเป็นก้อนผสมกับถั่วป่นหอมๆที่ผ่านการทุบละเอียดให้กลิ่นหอมยิ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งกระพุ้งแก้ม ยามที่ได้เคี้ยวและดูดซึมถึงรสสัมผัสของขนมตุ๊บตั๊บ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่จะเห็นฝูงชนต่อคิวซื้อกันยาวเหยียด

ขนมตุ๊บตั๊บร้านนี้เลื่องชื่อได้น่าจะมาจากการอัตราผสมน้ำตาลทรายให้พอดีและการใช้ไฟเคี่ยวให้เหนียวได้ที่และมีกลิ่นหอมก่อนจะใส่ถั่วลิสงคั่วเปลือกหลุดออกแล้วลงไปในกระทะ คนให้เข้ากันสักพักก็ยกลงมาเทใส่ในถาดรอจนอุ่น พร้อมที่จะทำการทุบด้วยค้อนไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งใช้สองคนสลับกันทุบเป็นจังหวะเพื่อที่จะให้ถั่วแตกละเอียดและผสมเข้ากับน้ำตาลเคี่ยวเป็นเนื้อเดียวกัน

หลังจากนั้นก็จะมาถึงกรรมวิธีการดึงให้ยาวแล้วนำไปห่อด้วยถั่วบดละเอียด เพื่อให้ตัวขนมมีรสสัมผัสที่แตกต่างกัน ด้านนอกกรอบและหวาน ส่วนไส้ข้างในหอมมันและหวานน้อย ซึ่งเป็นการเพิ่มอรรถรสลงไปอีก การห่อต้องใช้ความชำนาญเพราะต้องระวังไม่ให้ขนมแข็งตัวหลังจากได้โดนอากาศแล้วจะทำให้ไม่สามารถตัดขนมได้รูปร่างที่สวยงามน่ากินอย่างที่ได้เห็นกัน

ถ้ามีโอกาสได้แวะเวียนไป ก็ขอแนะนำให้ลองไปชิมดู ราคาห่อละ 35 บาท มี 4 ชิ้น ถ้าจะซื้อจำนวนมากก็ต้องโทรสั่งล่วงหน้า 2วัน สถานที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลเจ้า “โจวซือกง” โดยขายตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 สอบถามเพิ่มเติมโทร.085-482-6688