โพลจับตาบิ๊กตู่ คลุก'การเมือง' ไฟเขียว4รมต.


เพิ่มเพื่อน    

    สวนดุสิตโพลเผย ประชาชนจับตาบิ๊กตู่  เล่นการเมือง มีอึ้ง เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้โอกาสรัฐมนตรีที่สนใจในการเมืองสามารถสนับสนุนพรรคการเมืองได้ ยกเหตุเป็นสิทธิส่วนบุคคล ให้อิสระ ไม่ปิดกั้นความคิด            
    เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,218 คน ระหว่างวันที่ 2-6 ตุลาคม 2561 ในเรื่อง นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์กับการเมือง
    โดยระบุที่มาที่ไปไว้ว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศสนใจการเมือง แต่ขอเวลาตัดสินใจ พร้อมปฏิเสธข่าวลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.และปรับคณะรัฐมนตรี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาถึงกรณีดังกล่าว เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน 
    ผลโพลดังกล่าวระบุว่า เมื่อถามถึง “5 อันดับ” ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ กรณี “ผมสนใจการเมือง” พบว่า ส่วนใหญ่ มองว่าเป็นสิทธิของนายกฯ ที่จะคิดหรือจะพูด ยังไม่มีการประกาศหรือคำยืนยันที่ชัดเจน 40.50%, อันดับ 2    ต้องปรับปรุงการทำงาน มีผลงานให้เห็น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง 20.42%, อันดับ 3 เป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง ต้องการสืบทอดอำนาจ สานต่อโครงการต่างๆ 18.84%, อันดับ 4 แสดงว่ามีการเลือกตั้งจริง ควรปฏิบัติตามกฎหมาย แข่งขันอย่างถูกต้อง ยุติธรรม 15.63%, อันดับ 5 ควรพิจารณาให้รอบคอบ มีทั้งคนที่ชื่นชอบและไม่ชอบ 13.50%
    ส่วนคำถามที่ว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? ที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้โอกาสรัฐมนตรีที่สนใจในการเมืองสามารถสนับสนุนพรรคการเมืองได้ พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยคิดเป็นร้อยละ  57.26% โดยอันดับ 1 เป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นเรื่องส่วนตัว 48.03%, อันดับ 2 เป็นการให้อิสระ ไม่ปิดกั้นความคิด 38.06%, อันดับ 3 ผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ช่วยกันพัฒนาประเทศ 13.91%
    ส่วนกรณี “ไม่เห็นด้วย” คิดเป็นร้อยละ 42.74%โดยให้เหตุผลว่า ควรวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 42.18%, อันดับ 2 ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ถูกโจมตี 31.28%, อันดับ 3 การเมืองถูกแทรกแซง มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง 26.54% 
    ด้านนายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง การเมืองกับความสุขของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 1,144 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 1-6 ตุลาคม พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา 
    ผลสำรวจพบว่า เมื่อถามถึงภาพรวมของประเทศไทยเปรียบเทียบกับช่วงขัดแย้งการเมืองรุนแรงบานปลาย ก่อนรัฐบาลและ คสช. ได้เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.8 ระบุว่าดีขึ้นมากกว่าช่วงขัดแย้งการเมืองรุนแรงบานปลาย ในขณะที่ร้อยละ 24.9 ระบุไม่ดีขึ้น และร้อยละ 12.3 ไม่มีความเห็น
    ที่น่าสนใจคือ บทบาทการเมืองที่จะทำให้ประชาชนมีความสุข พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.4 ระบุแก้ปัญหาปากท้อง หาทางเพิ่มรายได้ประชาชน รองลงมาคือ ร้อยละ 78.9 ระบุเป็นตัวแทนช่วยลดความขัดแย้งในสังคม ทำบ้านเมืองสงบสุข, ร้อยละ 73.5 ระบุ หาคนซื่อสัตย์สุจริตทำงานการเมือง, ร้อยละ 60.7 ระบุให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ปัญหาต่อเนื่อง, ร้อยละ 55.3 ระบุเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ, ร้อยละ 54.6 ไม่ก่อม็อบ ปิดถนน สร้างเดือดร้อนประชาชน และร้อยละ 23.7 ระบุอื่นๆ เช่น เป็นผู้นำแก้ปัญหาเดือดร้อน เข้าถึงประชาชน รวดเร็วฉับไว ตามลำดับ
    ผลสำรวจระบุว่า ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ปัญหาอะไรที่ต้องการให้การเมืองแก้ไขเร่งด่วน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.7 ระบุปัญหาค่าครองชีพ หนี้สิน รายได้ตกต่ำ รายจ่ายสูงขึ้น, ร้อยละ 67.2 ระบุปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดหนักในชุมชนและสถานบันเทิง,  ร้อยละ 65.5 ระบุอาชญากรรม ความไม่ปลอดภัย, ร้อยละ 61.9 ระบุอุบัติเหตุ ความปลอดภัยทางถนน, ร้อยละ 58.2 ระบุปัญหาการศึกษา คุณภาพเด็กและเยาวชน,  ร้อยละ 47.6 ระบุแก้ไขบริการด้านสุขภาพ โรงพยาบาล,  ร้อยละ 44.3 ระบุปัญหาบริการสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์, ร้อยละ 43.8 ระบุมลพิษ ขยะ น้ำเน่า, ร้อยละ 39.9 ระบุภัยพิบัติ น้ำท่วม และร้อยละ 20.5 ระบุอื่นๆ ได้แก่ สังคมเสื่อม คนไร้น้ำใจ เห็นแก่ตัว เด็กแว้น ซิ่ง บ่อนการพนัน อิทธิพล ปัญหาตกงาน เป็นต้น
    อย่างไรก็ตาม ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพลกล่าวว่า ผลวิเคราะห์ความสุขของประชาชน เมื่อนึกถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ พบว่า ค่าคะแนนความสุขผ่านเส้นแบ่งกลางความสุขของประชาชนอย่างฉิวเฉียด คือ ความสุขของประชาชนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.14 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ดังนั้น กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องเร่งรีบปรับท่าทีใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการแก้ความเดือดร้อนของประชาชนด่วน
    ด้านนายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ)  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวทำนายดวงเมืองในช่วงนี้ว่า เมื่อดาวพฤหัสฯ จรเป็นมรณะกับดวงเมือง! เริ่มต้นยุคศิวิไลซ์! 1.โหรานุโหรต่างทำนายทายทักไปในทางที่ว่าบ้านเมืองจะเกิดปัญหา จะเกิดเรื่องร้าย ดวงเมืองจะตกดวงเมืองมีเคราะห์ร้าย ผมฟันธงว่า ไม่เป็นเช่นนั้น จะเป็นเรื่องที่ดี ความดีความงามความเจริญรุ่งเรืองและยุคศิวิไลซ์กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา! 2.ปฏิทินโหรไม่ตรงกันในเรื่องเวลา ที่ดาวพฤหัสฯ ย้ายราศี มีปฏิทินโหรแตกต่างกันอยู่ 3 วันระหว่าง 6-11 ตุลาคม ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการคำนวณ ปล่อยให้นักคำนวณเขาเถียงกันไปก่อน เอาเป็นว่าดาวพฤหัสฯ ย้ายเข้าราศีพิจิก ในช่วง 6-11 ตุลาคม เป็นมรณะกับดวงเมือง 3.เหตุที่วางให้เรือนมรณะดวงเมืองอยู่ราศีพิจิก ก็เพราะว่าบ้านเมืองก็ดี โลกก็ดีล่มสลายไม่ได้ และไม่มีวันล่มสลาย มีแต่การเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย และราศีพิจิกนั้นเป็นกีฎะราศี เป็นราศีเดียวที่ได้รับการยกเว้นให้ร้ายกลายเป็นดี. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"