"อดีต สปช." ชื่นชม "ยิ่งลักษณ์" ยอมถอนฟ้องสามเกลอสายล่อฟ้า ระบุนักการเมืองต้องเป็นแบบอย่างสังคม เตือนต่อไปทุกฝ่ายต้องมีสติ ระวังคำพูด "ก่อแก้ว" ได้ทีขย่ม "ประชาธิปัตย์" ชอบใช้วาทกรรมโจมตีฝ่ายตรงข้าม อัด "ศิริโชค" ไม่จริงใจลบโพสต์ขอโทษ สะพัด! "วอลเปเปอร์" พึ่ง "โอ๊ค" ต่อสาย "แม้ว" ช่วยกล่อม "ปู" ยอมความ หวังปรองดองจับมือสกัดรัฐบาลทหารในอนาคต
เมื่อวันอาทิตย์ นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถอนฟ้องชั้นศาลฎีกานายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา, นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้จัดรายการสายล่อฟ้า ในคดีหมิ่นประมาทกล่าวพาดพิงกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ หลังจากก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาทว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เท่ากับว่าฝ่ายโจทก์ไม่ติดใจที่จะให้คดีถึงศาลฎีกา และจำเลยก็พร้อมยอมรับการขออภัยโจทก์
ทั้งนี้ นายศิริโชคได้ออกจดหมายเปิดผนึกข้อความตอนหนึ่ง ระบุว่า "ได้สำนึกผิดแล้ว และขออภัยต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ให้อภัยต่อข้าพเจ้า และได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาให้กับข้าพเจ้ากับพวก ทำให้ข้าพเจ้ากับพวกหลุดพ้นจากคดีนี้ ข้าพเจ้ากับพวกทั้ง 3 คนขอขอบคุณ และถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป"
นายบุญเลิศกล่าวว่า การยอมความกันในคดีหมิ่นประมาทซึ่งถือเป็นคดีลหุโทษไม่ใช่คดีใหญ่โตหรือมีโทษร้ายแรง นักการเมืองควรประพฤติตนเป็นแบบอย่างต่อสังคม อะไรที่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่เกี่ยวข้องกับประเทศ เช่น การทุจริตต่อตำแหน่งต่อหน้าที่ ก็อย่าได้ถือสาหาความกัน และควรตระหนักว่านักการเมืองเป็นมนุษย์พันธุ์เดียวที่ต้องมีความอดทนอดกลั้นสูงกว่ามนุษย์พันธุ์อื่น
"มนุษย์พันธุ์นี้มีหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศ สร้างความสงบสุขในสังคม และสร้างความยุติธรรมให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าเกินเหตุ คนจนเข้าไม่ถึงความยุติธรรม คดีค้างการพิจารณาในศาลจำนวนมาก การทำสำนวนที่ไม่ตรงไปตรงมาตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวน การสร้างพยานเท็จ ฯลฯ อีกมากมาย เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของนักการเมืองที่จะแก้ไข นักการเมืองไม่ควรทะเลาะกันเอง ไม่ทำลายฝ่ายอื่น สุดท้ายก็โยนให้ศาลพิพากษาตัดสิน แล้วก็สะใจที่อีกฝ่ายติดคุกติดตะราง ซึ่งสะท้อนถึงจิตใจที่อาฆาตแค้นต่อกัน เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากเห็น" นายบุญเลิศกล่าว
อดีตสมาชิก สปช.กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง การกล่าวหาใส่ความกันของนักการเมืองอาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงฝากข้อคิดถึงนักการเมืองให้พึงระมัดระวังคำพูด และเมื่อเข้าใจกันก็รีบกล่าวคำขอโทษพร้อมทั้งแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกันในชั้นศาล
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบุคคลทั้ง 3 ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และบางคนเป็นถึงโฆษกของพรรค สะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางอย่างไร ใช้การใส่ร้ายป้ายสี ใช้วาทกรรมโจมตีฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความเสื่อมเสียและไม่มีหลักฐานยืนยัน พูดลอยๆ ยกเมฆ
นายก่อแก้วกล่าวว่า ในอดีตคนของพรรคนี้เคยหลอกชาวสวนยางสวนปาล์มให้ออกมาชุมนุมขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนที่หลอกชาวบ้านวันนั้นว่า ยาง 90 บาทไม่พอ ต้อง 120 วันนี้ยาง 3 โล 100 หายหัวไปไม่เคยหาทางช่วย ปล่อยให้ชาวสวนยางอดอยากปากแห้ง ไส้ขอดกันทั้งภาค หวังว่าพี่น้องชาวใต้ที่ถูกหลอกคงจำบทเรียนได้ดี และสั่งสอนพวกขี้หก ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คนของพรรคนี้พอจวนตัวกลัวติดคุกก็มาเจรจาขอให้ถอนฟ้องแลกกับการขอโทษ แต่จะเห็นได้ว่าไม่มีความจริงใจเลย เพราะเมื่อโพสต์ข้อความขอโทษแล้ว ยังไม่ทันข้ามวันก็ลบออก และพอสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ก็กลับมาโพสต์ใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น
"นายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง ท่านเป็นแม่พระ ไม่ถือโกรธทั้งๆ ที่ถูกรุมใส่ร้ายมาตลอด ตั้งใจทำงานแก้ไขปากท้องให้กับประชาชน จนเวลาผ่านมาเนิ่นนาน สุดท้ายความเป็นจริงก็ปรากฏ และท่านได้ให้อภัย ไม่ติดใจเอาความ ยกโทษให้ แสดงถึงความมีน้ำใจกับทุกคน อย่างไรก็ตาม หากสำนึกผิดจริงๆ ก็ควรให้อภัย แต่การกระทำแบบนี้ดูเหมือนว่าเป็นแค่การเอาตัวรอดเท่านั้น ตอนโจมตีท่านพูดกันสนุกมาก แต่พอให้ขอโทษกลับมาทำหน้าบาง ทำให้ผมคิดว่าท่านอดีตนายกฯ ไม่น่าถอนคำร้องให้คนประเภทนี้เลย" นายก่อแก้วกล่าว
ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.นครราชสีมา กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีทางการเมือง โดยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์มองถึงอนาคตประเทศที่จะต้องเดินไปข้างหน้ามากกว่าความขัดแย้งในอดีต แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับการอภัยต้องรู้จักสำนึกผิด ไม่ควรมีพฤติกรรมเล่นการเมืองในลักษณะกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายโดยปราศจากข้อเท็จจริงเช่นนี้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า เบื้องหลังการออกมาโพสต์ขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ของนายศิริโชคนั้น ทางนายศิริโชคได้มีการประสานร้องขอไปยังนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเจรจา และนายทักษิณได้ไปช่วยพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์น้องสาวให้ช่วยประนีประนอมยอมความ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเพียงคดีหมิ่นประมาท หากยอมความจะทำให้ภาพลักษณ์พรรค รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นบวก
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า อดีตนายกฯทักษิณไม่อยากเปิดศึก สร้างศัตรูหลายทาง รวมทั้งเห็นว่าเป็นคดีความหมิ่นประมาทที่ไม่หนักหนาเกินไป ควรให้อภัย และยังถือเป็นการส่งสัญญาณทอดไมตรีกลายๆ ไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมให้อภัย ไม่อยากสร้างบรรยากาศความขัดแย้งให้คุกรุ่นขึ้นมา ที่จะเข้าทางฝ่ายตรงข้าม ไม่อยากให้พรรคการเมืองปรองดองกัน
"ช่วงที่ผ่านมาตัวแทนระดับสูงของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ร่วมพูดคุยถึงโอกาสจับมือหลังเลือกตั้งสกัดรัฐบาลทหาร แม้จะไม่ลงตัวในทุกเงื่อนไข แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ" แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |