งามไส้! ปลัดอำเภอนำทีมออฟโรด 6 คันล่าสัตว์ป่าไทรโยค จนท.อุทยานฯ รวบยกแก๊ง 12 คน ของกลางเพียบทั้งปืน-ซากหมีขอยังกล้าปฏิเสธ แจ้ง 6ข้อหาส่ง ตร.ดำเนินคดี "ไก่อู" ได้ทีชี้สะท้อนรัฐจริงจังแก้ปัญหา หลังไซเตสเพิ่งปลดไทยพ้นบัญชีดำค้างาช้าง
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 11.30 น. นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานว่า มีกลุ่มคณะออฟโรดเข้าไปล่าสัตว์ป่าบริเวณป่าเขาปลาน้อย ม.8 ต.วังกระแจะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ ไทรโยค จึงพร้อมด้วย น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ, นายโดม จันทร์สุวรรณ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ, นายกิตติ แสงหล่อ หัวหน้าสายตรวจอุทยานฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบ
ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเส้นทางทุ่งมะเซอย่อ-เขาปลาน้อย ม.8 ต.วังกระแจะ พบกับขบวนรถออฟโรด 6 คัน ลักษณะตรงกับที่ได้รับรายงานขับสวนออกมาจากป่า จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถปิกอัพกระบะโฟร์วีลยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 2 ฒง 3555 พบขาหมีขอหรือบินตุรง 4 ขา เผารมควัน น้ำหนัก 9.2 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกกรดยาว ขนาด .22 แอลอาร์ ติดกล้อง ปลายกระบอกติดท่อเก็บเสียง กระบอกพร้อมกระสุน 34 นัด อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกยี่ห้อกล็อก 1 กระบอก กระสุน 15 นัด กระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 20 นัด จึงนำบุคคลทั้งหมดรวม 12 คน โดยหนึ่งในนี้มีปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และ อส.รวมอยู่ด้วย พร้อมรถกระบะโฟร์วีลทั้ง 6 คัน ไปยังที่ทำการอุทยานฯไทรโยค
เมื่อเดินทางมาถึงทำการอุทยานฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นรถทุกคันอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ จึงเชิญบุคคลทั้งหมดเพื่อสอบสวน โดยนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย ซึ่งเป็นปลัดอำเภอเพิ่งย้ายมาใหม่ ไม่ยอมเข้าห้องที่ทำการ อ้างว่าไม่ได้กระทำผิด แค่ร่วมเดินทางมาด้วย บุคคลที่ทำผิดก็นำคนคนนั้นไป และต้องให้นายตำรวจสัญญาบัตรมาดำเนินการ ทำให้นายพนัชกร ประสาน พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พร้อม ร.ต.อ.อภิชัย พุ่มชัย รอง สว.(สอบสวน) เดินทางมาดำเนินการตรวจค้นตัวของกลุ่มบุคคล ในตัวปลัดอำเภอพบอาวุธปืนพกออโตเมติกซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนในแมกกาซีน 16 นัด
จากนั้นนายพนัชกรได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลทั้งหมด จำนวน 6 ข้อหา 1.เก็บหานำออก ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ 2.นำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ 3.นำยานพาหนะเข้า-ออก หรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้ เพื่อการนั้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ร่วมกันล่าสัตว์ป่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา 26 และ 6.ร่วมมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยคดำเนินคดี
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ประกอบด้วย 1.นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย 2.น.ส.ศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม 3.นายทัศดนัย ขอกระโชก 4.นายฉัตรชัย เกาะลอย 5.นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ 6.ว่าที่ ร.ต. สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง 7.นายวุฒิพงษ์ เต็มธนัน 8.นายสกานต์ แก่งหลวง 9.นายอนุสรณ์ เรือนงาม 10.นายประสาน เต็มธนัน 11.นางอรุณ แสงใส และ 12.นายถาวร เซี่ยงหลิว
ทั้งนี้ หมีขอ เป็นสัตว์ตระกูลชะมดหรืออีเห็น มีลักษณะคล้ายหมี มีขนยาวหนา เส้นขนหยาบมีสีดำ หน้าคล้ายหมี รูปร่างอุ้ยอ้าย มีหางยาว สามารถใช้หางจับเกาะต้นไม้แทนมือได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 2 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เคยมีคดีล่าสัตว์ป่าที่ฮือฮามาครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารและกรรมการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 3 กระบอก ซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเก้ง ซากเสือดำ และหนังเสือดำ แต่นายเปรมชัยให้การปฏิเสธ ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นศาล
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งที่ประเทศไทยพ้นจากบัญชีดำรายการประเทศที่ลักลอบค้างาช้างตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ว่า มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปล่าสัตว์แล้วดี แต่หมายถึงการที่เจ้าหน้าที่ประเภทนี้ถูกจับ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ให้ความสนใจในการป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า และการที่เราพ้นบัญชีดำประเทศลักลอบค้างาช้าง และมีการจับกุมพวกนี้ได้ทันที ตอกย้ำให้เห็นว่าเราตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ได้ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ถึงแม้ว่าผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียเองก็ต้องโดนลงโทษ ไม่มีละเว้น
“นายกรัฐมนตรีเคยประกาศในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเอาไว้แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นตัวอย่างให้ประชาชน ถ้ากระทำผิดเสียเอง นอกจากจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีความทางผิดวินัยด้วย และต้องไปดูว่าความผิดนั้นร้ายแรงถึงขั้นไหน ซึ่งต้องไปดูตัวบทกฎหมาย แต่ถ้าร้ายแรงถึงต้องพักราชการของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็ต้องเอาออก” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
ก่อนหน้านี้ พล.ท.สรรเสริญเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ประเทศไทยพ้นจากบัญชีดำรายการประเทศที่ลักลอบค้างาช้างตามอนุสัญญาไซเตส นับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ เท่ากับว่าประเทศไทยพ้นจากความเสี่ยงตามมาตรการคว่ำบาตรทางการค้า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทยเคยเป็นตลาดค้างาช้างขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รัฐบาลจึงได้ปิดตลาดค้างาช้างในไทย และจัดทำแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2557 โดยกำหนดมาตรการตรวจสอบ จับกุม ปราบปราม พร้อมทั้งแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉ.3) พ.ศ.2557 และ พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558 โดยมีการออกตรวจตราของเจ้าหน้าที่เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |