ออกจะคึกคัก โครมคราม ชุลมุน ชุลเก เอาเรื่องทีเดียว...สำหรับแวดวงการเมือง ในช่วงที่การ เลือกตั้งที่รัก กำลังจะมาถึง บรรดามือกระบี่ที่เคยคิดๆ ว่า น่าจะตายไปนานแล้ว ถอนตัว เร้นกาย หรือ หมดสภาพ ไปนานแล้ว ก็กลับโผล่ขึ้นมาเขย่าแวดวงยุทธจักรกันใหม่ ไปพร้อมๆ กับการย้ายพรรค ย้ายค่าย ย้ายสังกัดไปเป็นฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรม และกึ่งธรรมะกึ่งอธรรม จนยากที่จะหาข้อสรุปได้ชัดๆ ว่าไผเป็นไผ ใครเป็นใครกันแน่...

                                                                  ------------------------------------------------------

      แต่โดยหลักๆ แล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็น่าจะเป็นไปในแบบ พงศาวดาร 3 ก๊ก ฉบับไทยๆ นั่นเอง คือไม่ว่าใครจะอยู่ค่ายไหน พรรคไหน จะประกาศตัวเองเป็นฝ่ายธรรมะ อธรรม หรือกึ่งธรรมะกึ่งอธรรม ก็แล้วแต่ แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...หนีไม่พ้นต้องสังกัดอยู่ใน ก๊กเอาบิ๊กตู่, ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ และ ก๊กเอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง ไปตามสภาพนั่นแล โดยที่แต่ละก๊ก ต่างก็มี ยุทธศาสตร์” และ ยุทธวิธี ไม่ต่างไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นยุทธวิธี แตกแบงก์พันให้กลายเป็นแบงก์ร้อย ยุทธวิธี ดูดๆ-ดึงๆ หรือยุทธวิธี แยกเงา-สลับร่าง ที่ก่อให้เกิดพรรคเพื่อโน่น เพื่อนี่ อะไรต่อมิอะไรชนิดเยอะแยะมากมาย จนฝ่ายตรงข้ามดวงตาพร่าพราย แต่สุดท้าย...ก็ออกไปทาง เพื่อแม้ว อะไรทำนองนั้น...

                                                                    ---------------------------------------------------------

      คือโดยบรรดา ยุทธวิธี ทั้งปวง ทั้งหลายนั้น...ไม่ว่าจะพลิกแพลงสุดหยั่งคาด หรือทื่อมะลื่อเป็นท่อนไม้หน้าสาม หรือไม่ อย่างไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้าย...ล้วนแล้วแต่มุ่งไปสู่ ยุทธศาสตร์ อันเดียวกัน นั่นก็คือเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง ทีแอ๋เต้ยอิดเกี่ยม หรือตำแหน่ง ใต้ฟ้า-เหนือแผ่นดิน มีแต่เราคือมือกระบี่อันดับหนึ่ง อะไรประมาณนั้น หรือจะเรียกว่าตำแหน่ง ประมุขแห่งยุทธจักร ก็คงพอได้ โดยผู้ที่หวังดำรงตน ตั้งตน เป็นจ้าวแห่งยุทธจักร หรือประมุขแห่งยุทธจักร ตามยุทธศาสตร์อันเดียวกันที่ว่านี้ ต่างก็ดูจะไม่ค่อยได้คิด ไม่ค่อยได้แสดงออกถึงความตระหนัก ถึง ความจริง หรือ ข้อเท็จจริง บางประการ ที่ไม่ว่าจะเป็น 3 ก๊กฉบับจีนๆ เมื่อหลายต่อหลายพันปีที่แล้ว หรือแม้แต่ 3 ก๊กฉบับไทยๆ ในทุกวันนี้...ย่อมมิอาจปฏิเสธได้ นั่นก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า...เหนือฟ้า-ยังมีฟ้า เหนือนภา-ยังมีอากาศ และเหนือกระดาษ-ยังมีซาลาเปา...นั่นเอง!!!

                                                                        --------------------------------------------------------

      และการที่ไม่ได้ตระหนัก สำนึก ไม่ค่อยได้คิดถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้นี่เอง...ที่อาจส่งผลให้ ยุทธศาสตร์ ของแต่ละพรรค มีสิทธิ์กลายสภาพเป็น กระยาสารท เอาง่ายๆ คือถึงจะยิ่งเคี้ยว-ยิ่งมันซ์ซ์ซ์ แต่เวลาเคี้ยวๆ...ก็อาจติดเหงือก ติดฟัน จนอาจต้องหันไปคว้า ไม้จิ้มฟัน มาแทงเหงือกจน เสือกตาย ได้เสมอๆ แต่สำหรับบรรดาอาณาประชาราษฎร์ ไพร่ฟ้าหน้าซีด หรือหน้าใส ทั้งหลาย แม้ว่าจะไม่ได้มีก๊ก มีเหล่า ไม่ได้อยู่ในค่ายใด สังกัดใด มีแต่ต้องรับบทเป็น ตัวประกอบอดทน ภายในคูหาเลือกตั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 4 วินาทีไปตามสภาพ แต่ก็ด้วย ข้อเท็จจริง ดังกล่าวนี่เอง ที่อาจช่วยไม่ให้ต้องตกอยู่ในสภาพ ลิ่วล้อในหนังจีน ที่มีแต่ต้อง โดนเขี่ย กันไปโดยตลอด...

                                                                      ---------------------------------------------------------

      เพราะไม่ว่าหัวหน้าก๊กใด ต่อก๊กใด ก็แล้วแต่...จะเป็น โจตู่, ซุนแม้ว หรือ เล่ามาร์ค ผงาดขึ้นมาเป็นประมุขยุทธจักร เป็นมือกระบี่อันดับหนึ่งของแผ่นดิน แต่ถ้าหากยังไม่รู้เรื่อง รู้ราว ไม่เข้าถึง-เข้าใจ ว่าซาลาเปาที่วางอยู่เหนือกระดาษนั้น เป็นซาลาเปาไส้เค็ม ไส้ครีม ไส้หมูแดง หรือหมูสับ กันแน่!!! อันนี้นี่แหละ...ที่ย่อมต้องมีแต่ ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี หาทางหักล้าง โค่นล้ม อะไรให้เมื่อย เพราะเมื่อไหร่ที่บรรดาหัวหน้าก๊กต่างๆ ดันมองเห็นอาณาประชาราษฎร์ ไพร่ฟ้าหน้าซีด หน้าใส เป็นเพียงแค่ ลิ่วล้อในหนังจีน ขึ้นมาจริงๆ โอกาสที่จะโดน ซาลาเปาทับหัว ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                                        -----------------------------------------------------

      ด้วยเหตุเพราะ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ในเที่ยวนี้...ได้ถูกออกแบบ ดีไซน์ ให้รองรับกับ ความเป็นไทยๆ ในลักษณะดังกล่าว ได้แบบพอดิบ พอดี ชนิดแม้ว่าในแง่ รูปแบบภายนอก อาจดูคล้ายๆ ออกไปทางครึ่งใบ เสี้ยวใบ หรือออกไปทาง ไฮบริด ก็ตามที แต่ก็ด้วยความเป็น ไฮบริด ที่ว่านี้ ที่สามารถใช้ แก๊ส ก็ได้ ใช้ ดีเซล ก็ได้ หรือแม้แต่หันไปใช้ ไฟฟ้า แบบรถรุ่นใหม่ของนาย อีลอน มัสก์ เอาเลยก็ยังได้ จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็น โจตู่, ซุนแม้ว หรือ เล่ามาร์ค ก็ตาม หนีไม่พ้นต้องหาทางปรับตัว ปรับใจ ให้เหมาะสมไปกับสภาวะของ พลังงานขับเคลื่อน ในแต่ละสภาพ...

                                                                         -----------------------------------------------------

      หรือทำให้ถ้ามองลึกๆ ลงไปถึง เนื้อหาภายใน ความเป็นครึ่งใบ เสี้ยวใบ หรือความเป็น ไฮบริด ที่ว่า...อาจออกไปทางคล้ายๆ ประชาธิปไตยทางตรง แบบ Direct Democracy หรือ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม แบบ Participatory Democracy เอาเลยก็ไม่แน่!!! คือถ้าหากบรรดาผู้นำ หรือบรรดา หัวหน้าก๊ก ทั้งหลาย ยังเอาแต่มั่วไป-มั่วมา อยู่ภายในเวทีรัฐสภา หรือภายในหมู่ผู้ที่อาสาเข้ามา ตัวแทนปวงชน เท่านั้น หรือไม่ได้คิดจะ ร่วม กับประชาชนแบบละเมียด ละไม นิ่มนวล ประณีตแต่อย่างใด กลับออกไปทางร่วมเจ็บ ร่วมแรง ร่วมจนปวงชนเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว ไปตลอดทั้งหน้าขา อันนั้นนั่นแหละ...ย่อมมีสิทธิ์ถูกซาลาเปาทับหัว หรือกระยาสารทติดคอ ติดเหงือก ติดฟัน จนต้องไปคว้าเอาไม้จิ้มฟันมาแทงเหงือกจนเสือกตาย ได้ทุกเมื่อ...

                                                                       --------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก C.S. Lewis... What you see and hear depends a good deal on where you are standing; it also depends on what sort of people you are.- ท่านได้เห็นและได้ยินอะไร ขึ้นอยู่กับว่าท่านยืนอยู่ ณ ที่ใด และขึ้นอยู่กับว่าท่านเป็นคนประเภทใด...

                                                                        -------------------------------------------------------------