ที่นี่ไม่รับ 'ทิป'... แก้ปัญหาที่ปลายเหตุอีกแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

    ป้ายที่ช่อง Visa on Arrival (VOA) สนามบินของไทยสดๆ ร้อนๆ นี้บอกว่า No Tips Please แปลว่า "กรุณาอย่าจ่ายทิป"
    เหตุเป็นเพราะมีการกล่าวหาจากนักท่องเที่ยวจีนว่าถูกเรียกเข้าช่อง Fast Track และต้องเสียค่าวีซ่า ณ สนามบิน 2,000 บาท บวกอีก 300 บาท
    เขากล่าวหาว่าสำหรับ 2,000 บาทมีใบเสร็จ แต่อีก 300 บาทไม่มีใบกำกับบอกว่าเป็นค่าอะไร และกล่าวหาด้วยว่านักท่องเที่ยวจีนบางคนถูกเรียกให้เข้าช่อง Fast Track เพื่อจ่ายเงินเพิ่มสำหรับบริการด่วนพิเศษ
    คนที่ไม่ต้องการเข้าช่องพิเศษ เข้าแถวที่ช่องธรรมดากลับไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั่งประจำการอยู่
    ทำให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นการบีบบังคับทางอ้อมให้เข้ามาในช่องที่ต้องจ่ายเงินพิเศษ
    เงินนี้ถูกเรียกว่า "ทิป"
    ภาษาจีนที่เขาเขียนส่งต่อกันว่อนในโซเชียลมีเดียใช้คำว่า 小费 ซึ่งมีความหมายว่า "ทิป"
    ถ้าเรียกว่า "ทิป" ก็แปลว่าเป็นการให้เงินพิเศษเพื่อขอบคุณที่อำนวยความสะดวก เหมือนเรา "ทิป"  พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการให้พนักงาน มิใช่ให้เจ้าของร้าน
    "ทิป" จึงไม่มีใบเสร็จ
    ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า พนักงานของรัฐที่กินเงินเดือนประชาชนและมีหน้าที่บริการคนอื่นในหน้าที่ของตนนั้นควรจะมี "ทิป" หรือไม่ และหากมี ใครจะเป็นคนวางกฎเกณฑ์ว่าควรเป็นเท่าไหร่
    หากเกิดมีระบบ "ทิป" ขึ้นมา จะทำให้มีปัญหากับระบบปกติหรือไม่
    เพราะอาจทำให้พนักงานไม่ทำงานปกติ หันไปทำแต่งานพิเศษที่มี "ทิป" หรือไม่ และหากทิปเข้ากระเป๋าส่วนตัวของพนักงานที่เข้าเวรนั้นๆ ไม่เข้ารัฐ จะถือว่าเป็นการให้สินบนเพื่อให้บริการมากกว่าปกติหรือไม่
    ทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่ต้องมีคำตอบจากผู้รับผิดชอบ เพราะหากไปย้อนดูสถิติของนักท่องเที่ยวที่มาขอวีซ่าที่สนามบิน ณ ช่อง Visa on Arrival ของปีที่ผ่านๆ มาแล้ว บางปีสูงถึง 7 ล้านคน
    หากมีการจ่าย "ทิป" คนละ 300 บาท รายได้เฉพาะส่วนนี้จะสูงถึง 2,100 ล้านบาททีเดียว
    เกิดคำถามว่าเงินก้อนนี้ไปอยู่ที่ไหน และมีการรายงานรายได้นี้เข้าสู่ระบบกลางของตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่อย่างไร
    อีกทั้งเมื่อมีคำถามเรื่องนี้อันเกิดจากกรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวจีนคนหนึ่งที่โยงไปถึง "ทิป" นี้ด้วย คำถามต่อมาก็คือมีการสอบสวนหรือไม่ว่า "ทิป" ที่ว่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
    เพราะเพียงแค่ติดป้าย No Tips Please ที่ช่องนี้ที่สนามบิน ก็คงไม่ได้แก้ปัญหาหรือคลายความสงสัยคลางแคลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แต่อย่างใด
    สำคัญกว่านั้นคือจะต้องตอบคำถามของคนไทยด้วยว่า ทางการจะหาคนรับผิดชอบเรื่อง "ทิป" นี้อย่างไร
    เจ้าหน้าที่ไทยอ้างว่านักท่องเที่ยวจีนคนนั้นไม่มีเอกสาร ไม่มีเงินจ่ายค่าวีซ่า จึงต้องส่งกลับบ้านไป
    แต่เจ้าตัวไปบอกเล่าให้คนในโซเชียลมีเดียในจีนฟังว่า
    "วันที่ 27 กันยายน เวลาประมาณ 22 นาฬิกา นายเหมยเดินทางจากกรุงจาการ์ตาถึงสนามบินดอนเมืองโดยเที่ยวบิน SL117 เจ้าหน้าที่ ตม.เรียกให้นายเหมยเข้าไปที่ Fast Track พร้อมกับจ่ายเงิน  2,300 บาท แต่เขาปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ ตม.จึงปฏิเสธที่จะให้วีซ่า แล้วจะส่งตัวเขากลับจีน เขาจึงโต้แย้งไม่พอใจ จนท้ายที่สุดถูกทำร้าย"
    ข้อความนั้นเล่าต่อว่า
    "เจ้าหน้าที่ ตม.อ้างว่าเขาไม่มีเงินติดตัว จึงปฏิเสธไม่ให้วีซ่า แต่เขามีเงินไทย 3,215 บาท เงินหยวน 1,000 หยวน เงินดอลลาร์ 400 ดอลลาร์ และเงินสกุลอื่นๆ อีก รวมแล้วมากกว่าที่ ตม.ไทยกำหนดแน่นอน นอกจากนี้เขายังมีที่อยู่ของญาติและเพื่อนคนไทยที่เขาจะพักอาศัยแสดงให้ ตม.ดูอีกด้วย"
    ข้อความนี้เป็นจริงหรือไม่ ไม่มีใครยืนยันได้ นอกจากว่าทางการไทยจะสอบสวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เกิดความกระจ่าง เพื่อไม่ให้ฝ่ายจีนตั้งประเด็นว่าเราไม่ทำความจริงให้ประจักษ์ หรือเพียงแค่อ้างว่าพักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว พอเรื่องแผ่วลงทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิมอีก
    เหมือนกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตไป 47 คน จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่ได้รับรู้ผลของการสอบสวนว่าใครต้องรับผิดชอบ และมีการลงโทษคนที่เกี่ยวข้องอย่างไร
    อีกทั้งมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนั้นขึ้นอีก มีการตรวจตราว่ามีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดเพียงใดหรือไม่
    จะต้องรอให้เกิดเหตุร้าย เกิดกรณีทำร้ายร่างกาย หรืออุบัติภัยอื่นใดอีกครั้งจึงจะตกตื่นว่ายอดนักท่องเที่ยวจีนหดหายไปอย่างนั้นหรือ?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"