"แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติ วัย 44 ปี พลาดท่าชวดคว้าเหรียญทองแรกให้ทัพพาราไทย ในเอเชียนพาราเกมส์ 2018 อย่างน่าเสียดาย หลังพ่ายให้กับ โจ จิง จิง นักกีฬาจีน ในรอบชิงฯ ประเภทดาบฟอยล์ คลาส บี 11-15 คะแนน ทำได้เพียงแค่เหรียญเงินมาครองเท่านั้น 

          การแข่งขันกีฬา เอเชียน พาราเกมส์ 2018 ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.61 ซึ่งเป็นการชิงชัยเหรียญทองเป็นวันแรก  ไฮไลต์อยู่ที่ วีลแชร์ฟันดาบ  ประเภทดาบฟอยล์ คลาส บี บุคคลหญิง  รอบชิงชนะเลิศ  ระหว่าง สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักฟันดาบสาวทีมชาติไทย ลงสนามดวลกับ  โจ จิง จิง นักฟันดาบสาวจากจีน 

          เปิดฉากมา สายสุนีย์ ออกดาบไม่ดีเปิดโอกาสให้คู่แข่งออกดาบทำแต้มนำห่าง 6-0 จากนั้นก็มาพลาดทำฟาวล์ออกดาบเร็วก่อนที่กรรมจะให้สัญญาณ ทำให้ถูกใบแดง สาวจีนได้แต้มฟรีๆถึง 2ครั้ง แม้สาวไทยจะพยานามเร่งออกดาบทำแต้มไล่จี้มาแต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายพ่ายไป 11-15 คะแนน ได้แค่เหรียญเงิน

          หลังการแข่งขัน สายสุนีย์ ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจและเสียดายมากกับโอกาสในการคว้าเหรียญทองรายการนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ดาบเอเป้ที่ถนัด แต่เพราะตนมีโอกาส ทำผลงานดีมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่เอาชนะคู่แข่งจีนคนนี้มาได้แล้ว แต่พอมารอบชิงฯ ผิดหวังกับตัวเองที่เล่นไม่ดี ผิดฟอร์มไปมาก ปล่อยให้คู่แข่งนำถึง 6-0 ซึ่งกีฬาฟันดาบถามตามแค่ 5 คะแนนยังไล่ยาก อีกทั้งยังมาเสียสมาธิที่กรรมการมาเตือนเรื่องการแต่งตัว และท่านั่งทำให้ค่อนข้างเกร็งและกังวล

          "กับดาบฟอยล์แม้จะไม่ใช่ดาบถนัดแต่แววก็ซ้อมมาเต็มที่ และค่อนข้างหวังที่จะคว้าเหรียญทอง และมีโอกาสแล้วด้วย ไม่เข้าใจตัวเองเลยค่ะว่าทำไมถึงออกตัวช้าในช่วงแรกมันเอ่อๆ เสียดายและเสียใจมากกับผลงานที่ออกมาค่ะ"           อย่างไรก็ตามสายสุนีย์ ยังมีโปรแกรมลงแข่งขันอีก 5 รายการ คือ ฟอยล์ทีมหญิง,เอเป้ บุคคล-ทีมหญิง และ เซเบอร์ บุคคล-ทีมหญิง โดย สายสุนีย์ กล่าวว่า ที่ลงแข่งทุกรายการเพราะตอนสมัครลงแข่งก็ส่งแร้งกิ้งมาไม่คิดว่าจะได้แต่พอฝ่ายจัดฯให้ลงได้ก็ตั้งใจจะลงทุกรายการ ส่วนเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ลึกๆก็อยากได้เหรียญทุกรายการ เหรียญอะไรก็ได้ ส่วนเหรียญทองก็ตั้งเป้าที่ 2 เหรียญ

          ส่วนผลประเภทอื่นมีดังนี้  ดาบฟอยล์ บุคคลชาย รอบแรก พชร  จิระสินวณิช (ไทย) แพ้ ง๊อก ชี เฟ่ง (ฮ่องกง) 4-5 คะแนน, ณัฐฤทธิ์  ทรงจำรัส (ไทย) แพ้ เชน จี ยุน (จีน) 0-5 คะแนน, บุญศิริ  สนิทหมื่นไวย (ไทย) ชนะ ยาสึ นาโอกิ (ญี่ปุ่น) 5-0 คะแนน