8ต.ค.61-“รมช.ศธ.” มอบ นโยบาย 11 ศูนย์ความเป็นเลิศ ให้ยกระดับความสามารถ ยืนได้ด้วยตนเอง โดยการต่อยอดผลงาน แนะ เป้าหมายหลัก การสร้างองค์ความรู้ใหม่ พัฒนาไปเป็นนวัตกรรม ส่วนเป้าหมายรอง คือ การสร้างคน สร้างนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ

นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีว่ากากระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า ในประชุมหารือและมอบนโยบายด้านการวิจัยและแนวทางการพัฒนาให้แก่ศูนย์ความเป็นเลิศ ( Center of Excellenceหรือ CoE ) ทั้ง 11 ศูนย์ เมื่อเร็วๆ นี้ ตนยังได้ทำความเข้าใจกับทางศูนย์ความเป็นเลิศ ว่า ต่อจากนี้ศูนย์ความเป็นเลิศทุกแห่งจะต้องมีกระบวนการหารือแนวทางในการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถให้ยืนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมาขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลตลอดไป เหมือนอย่างศูนย์ความเป็นเลิศในต่างประเทศรัฐจะสนับสนุนงบประมาณให้ในช่วง 3-5 ปีแรก ขณะเดียวกันทางศูนย์ความเป็นเลิศจะหาแหล่งเงินทุนจากภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อมาต่อยอดผลงาน และผลิตผลงานออกมาขายจนสามารถตั้งตัวได้ ขณะที่ศูนย์ความเป็นเลิศของไทยตั้งมา 17 ปีแล้ว และทุกปีรัฐก็ยังต้องสนับสนุนงบฯปีละ 300-400 ล้านบาทมาตลอด แต่ศูนย์ยังไม่สามารถยืนด้วยตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ารัฐจะไม่สนับสนุนศูนย์ความเป็นเลิศแล้ว ช่วง 3-5 ปีแรกรัฐพร้อมที่จะลงทุนและสนับสนุนด้านงบฯอยู่ แต่ทางศูนย์ความเป็นเลิศต้องไปคิดและวางแผนการทำงานต่างๆให้ดี และดูว่าจะทำอย่างไรในสามารถยืนด้วยตัวเองได้ เชื่อว่าทำได้ เพราะเท่าที่ดูทุกศูนย์ทำงานได้ดี อยู่แล้ว

“เนื่องจากขณะนี้บริบทต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป ศูนย์ความเป็นเลิศจะต้องกลับมาทบทวนการทำงานใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติและสามารถผลักดันประเทศไทยให้ขับเคลื่อนนวัตกรรม รวมถึงตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตได้ด้วย โดยเป้าหมายหลักที่สุดคือการสร้างองค์ความรู้ใหม่ พัฒนาไปเป็นนวัตกรรมและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ โดยร่วมมือกับภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อต่อยอดออกมาเป็นสินค้า และแข่งขันระดับโลกได้ด้วย ส่วนเป้าหมายรองลงมา คือ การสร้างคน สร้างนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อออกไปอยู่ในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น”รมช.ศธ.กล่าว