2พี่น้องอ้างเป็นตร. รีดชาวบ้าน-ถูกรวบ


เพิ่มเพื่อน    

 2 พี่น้องอ้างเป็นตำรวจเรียกตรวจค้นชาวบ้านแล้วกรรโชกทรัพย์ พลเมืองดีเข้าขัดขวางถูกล็อกคอจะทำร้าย แต่หนีรอดมาได้และโพสต์เตือนในเฟซบุ๊ก ตำรวจจริงตามรวบได้ทั้งคู่ เจ้าทุกข์ทยอยแจ้งความ 

    เมื่อเช้าวันที่ 28 มกราคมนี้ ตำรวจสายตรวจ 191 ตำบลนอกเมือง สภ.เมืองสุรินทร์ ได้จับกุมนายนายสากิต หวังชอบ และนายวิโรจน์ หวังชอบ สองพี่น้องชาวบ้านตะตึงไถง หมู่ 5 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อาชีพรับจ้างทั่วไป ที่อ้างตัวเป็นตำรวจตรวจค้นรีดไถชาวบ้าน สอบสวนเบื้องต้นพบมีพฤติการณ์ชอบออกตระเวนไปกินเหล้ากับเพื่อนฝูง เมื่อเมาแล้วมักจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นประจำ
    ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เสี่ยมอส ซุ้มบิ๊กสุรินทร์” ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอภาพนิ่ง ระบุข้อความว่า เมื่อวันศุกร์พบป้าคนหนึ่งถูกบุคคลอ้างเป็นตำรวจ คนหนึ่งอ้างเป็นผู้กอง แต่ไม่บอกสังกัด อีกคนอ้างเป็นสายตรวจ โบกให้จอดรถแล้วค้นกระเป๋า ตนเห็นว่าทั้งสองมีอาการเมามาก ไม่น่าใช้ตำรวจ จึงบอกให้ป้าขี่รถจักรยานยนต์กลับไป ทำให้ตนเองถูกล็อกและกระชากกระเป๋า ทั้งพยายามจะยัดยาเสพติด แต่โชคดีมีชายอีกคนประสบเหตุเข้าห้ามปราม ผู้อ้างเป็นตำรวจจึงขี่รถหลบหนีไป
    ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามจนทราบว่า ผู้โพสต์เฟซบุ๊กคือนายภูวนารถ เหมือนถวิล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 5 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ช่วง 6 โมงเย็น ตนขี่รถจักรยานยนต์มาจากหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ถึงที่เกิดเหตุบริเวณบ้านเสม็ด ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ ติดหนองน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้าน มีป้าคนหนึ่งขี่รถนำหน้าและถูกโบกให้จอด แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่โพสต์ไว้ นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้ถูกบุคคลทั้งสองกรรโชกทรัพย์มาแล้วหลายราย
    ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมตัวชายที่อ้างเป็นตำรวจทั้ง 2 คนได้แล้วคือ นายสากิต หวังชอบ อายุ 40 ปี อ้างตัวเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. และนายวิโรจน์ หวังชอบ อายุ 34 ปี อ้างตัวเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน
    พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการสอบปากคำทั้งสองคนอ้างว่าทำไปเพราะเมาสุรา เพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่หากประชาชนมีข้อมูลว่าทั้ง 2 คนนี้มีการก่อเหตุก่อนหน้านี้ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที ขณะเดียวกันตอนนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความประมาณ 4-5 คน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น
    ส่วนกรณีเรียกรถจักรยานยนต์ให้หยุดตรวจ เป็นความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ หรือไม่กระทำการใดๆ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือเสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน, พยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือยอมให้ในประโยชน์ซึ่งเป็นทรัพย์สิน เป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ซึ่งความผิดในข้อหานี้เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ หากผู้เสียหายมีมากก็จะนำไปคูณโทษเพิ่มอีก จึงฝากประชาสัมพันธ์ หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นให้ถ่ายคลิปและแจ้งตำรวจทันที.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"