สามเกลอสายล่อฟ้าเสียผู้เสียคน คนในระบอบทักษิณดาหน้าถล่มเละ เพราะลบโพสต์ขอโทษหลัง "ยิ่งลักษณ์" ถอนฎีกาคดี "เอาอยู่" ด่ากระแทกประชาธิปัตย์ เพราะคนพูดเท็จและต่ำช้าแบบนี้ทำให้คนเกลียด ปชป.มากขึ้นทุกวัน
หลังนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์, นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกขอโทษต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณี ว5 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยอมถอนฎีกา และปรากฏว่าหลังจากนั้นนายศิริโชคได้ลบโพสต์ขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกไปจากเฟซบุ๊ก ทำให้นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยและคนของระบอบทักษิณดาหน้าออกมาโจมตีว่าไม่มีความจริงใจ
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่นายศิริโชค ได้โพสต์ข้อความเป็นจดหมายเปิดผนึกผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวคำขออภัยต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ใช้คำพูดไม่เป็นความจริงดูหมิ่นในขณะดำรงตำแหน่งผ่านรายการสายล่อฟ้า โดยการโพสต์ข้อความดังกล่าวดูเหมือนเป็นเจตนาแห่งการสำนึกผิดและตั้งใจขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมไทยพึงปฏิบัติต่อผู้สำนึกผิดเสมอมา
แต่ข้อความดังกล่าวกลับถูกลบออกจากเฟซบุ๊กหลังจากโพสต์ได้ไม่นาน ทำให้สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ว่าการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยทั้ง 3 คน ว่ามิได้ตั้งใจและสำนึกผิดกับการกระทำของตน แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาว่ามีความผิดแล้วก็ตาม
"การลบข้อความคำสำนึกผิดดังกล่าวยังทำให้หลายฝ่ายมองว่า จำเลยโพสต์ข้อความแบบเสียไม่ได้ เพียงเพื่อต้องการให้อดีตนายกรัฐมนตรีถอนคำร้องฎีกาเท่านั้น ซึ่งผมมองว่าแสดงถึงความไม่จริงใจของจำเลยทั้ง 3 คน" นายวิมกล่าว
ด้านนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการข่างทางวอยซ์ทีวี และน้องชายนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Sirote Klampaiboon ระบุว่า "คุณศิริโชค, คุณเทพไท และคุณชวนนท์ ควรกราบขออภัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่ถอนฟ้องฎีกาเรื่อง "เอาอยู่" มากกว่าโพสต์ขอโทษในเฟซบุ๊กที่แทบไม่มีคนดู และประชาธิปัตย์ควรต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าทำลอยนวล
คุณยิ่งลักษณ์เป็นอดีตนายกฯ ที่เผชิญการโจมตีซึ่งหลายครั้งเป็นข้อกล่าวหาที่ต่ำช้า, เหยียดเพศ และใช้ข้อมูลเท็จมากที่สุดเท่าที่ผู้นำประเทศนี้เคยเจอ และหนึ่งในคนกลุ่มที่มีส่วนสร้างวาทกรรมแบบนี้คือคนจากพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มต่อสู้ทางการเมืองด้วยฝีปาก, คำโกหก, การใส่ความ และการดูหมิ่นเหยียดหยามฝ่ายตรงข้ามทุกคน
เอาอยู่เยอะมาก
วันนี้เพจ @Leky Sopha ของคุณศิริโชค โพสต์ข้อความขออภัยคุณยิ่งลักษณ์ที่เคยใช้รายการ "สายล่อฟ้า" โจมตีประเด็น "เอาอยู่" ผู้จัดรายการร่วมกับคุณศิริโชคคือคุณชวนนท์ ซึ่งเคยเป็นโฆษกประชาธิปัตย์ อีกท่านคือคุณเทพไท ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดหัวหน้าพรรค ส่วน "สายล่อฟ้า" ก็ออกอากาศทางช่องซึ่งเกี่ยวข้องกับพรรค หากยอมรับกันตรงๆ
เรื่องนี้อดีตนายกฯ ฟ้องประชาธิปัตย์สามคนนี้ข้อหาหมิ่นประมาทครับ คดีหมายเลขดำที่ อ.630/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2708/2558 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าสามคนผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทนางสาวยิ่งลักษณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาท
วันที่ 19 ตุลาคม คดีนี้จะขึ้นสู่การพิพากษาของศาลฎีกา แต่ด้วยความเมตตาของอดีตนายกฯ คุณยิ่งลักษณ์ได้ให้อภัยประชาธิปัตย์สามคนนั้น และได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกา ทำให้คุณศิริโชค, คุณชวนนท์ และคุณเทพไทหลุดพ้นจากคดีทันที
ถ้าจำความหยาบช้าของเรื่องที่เป็นคดีได้ คงจำได้ว่าตอนนั้นประชาธิปัตย์สามคนโจมตีคุณยิ่งลักษณ์ขณะปฏิบัติภารกิจที่โรงแรมแห่งหนึ่ง คำพูดที่ประชาธิปัตย์สามคนนี้ใช้คือ
"ห้องนี้เอากันอยู่หรือแขกก็เอากันอยู่ อ๊ะๆๆๆๆ และปูโฟร์ซีซั่นส์ ปูว.5 ปูเอาอยู่ เยอะมากๆ นะฮะ คำกล่าวขานท่านนายกฯ เนี่ย”
ต่อให้คุณศิริโชคและคณะจะขอโทษคุณยิ่งลักษณ์จนได้รับความเมตตาโดยคุณยิ่งลักษณ์กรุณาถอนคดี ความเสียหายจากความจาบจ้วงในวันนั้นไม่ได้หายไป คนที่เชื่อคำโกหกของสามประชาธิปัตย์ยังคงจดจำแบบนี้ต่อ และการชุมนุมเพื่อสนับสนุนรัฐประหารปี 2557 ก็ใช้ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในเรื่องโกหกเพื่อสร้างความเกลียดชัง
คุณศิริโชคโชคดีที่พูดแบบนี้กับอดีตนายกฯ ที่ให้อภัย ผมมั่นใจว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมานี้ คุณศิริโชคและคณะไม่เคยวิจารณ์รัฐบาลอื่นด้วยข้อความต่ำช้าแบบนี้แน่ๆ ไม่มีแม้แต่การวิจารณ์นโยบายหรือผลงาน
อดีตนายกฯ น่าชื่นชมที่เป็นผู้หญิง แต่ให้อภัยผู้ชายสามคนที่ใส่ความเท็จด้วยเรื่องสกปรก แต่สามคนนี้น่ารังเกียจที่พูดเท็จสื่อทีวี ถูกขยายผลผ่านเวทีปราศรัยต่างๆ แต่เวลาขอโทษกลับทำแบบเงียบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโพสต์คำขอโทษในเพจซึ่งมีคนอ่านไม่กี่สิบคน
ตีกระทบประชาธิปัตย์
ในรอบสิบปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งทางการเมืองไทยรุนแรงเพราะนักการเมืองที่มีพฤติกรรมแบบประชาธิปัตย์สามคนนี้ การโจมตีด้วยเรื่องเท็จน่าขยะแขยง การเอาเรื่องเพศสาดโคลนผู้หญิงเป็นเรื่องสกปรก แต่ที่อัปยศจนน่าละอายคือ การพูดเท็จในที่แจ้ง, ขอโทษลับหลัง และโพสต์ขออภัยแบบคนขี้ขลาด เมื่อเทียบกับตอนโกหกปาวๆ
คุณศิริโชค, คุณชวนนท์, คุณเทพไท ควรกล้าหาญพอจะแถลงข่าวขออภัยอดีตนายกฯ ในที่สาธารณะ รวมทั้งประกาศกับประชาชนว่าตัวเองพูดเท็จเรื่องนี้เป็นเวลาหลายปี จะแถลงที่หน้าโฟร์ซีซั่นส์ก็ได้ จะแถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยิ่งดี แต่ไม่ควรทำแค่โพสต์เฟซฯ ลับหลังผู้คน
อย่างต่ำที่สุดที่สามคนนี้ต้องทำคือ จัดรายการ "สายล่อฟ้า" หนึ่งเทป ขอโทษคุณยิ่งลักษณ์ออกทีวีทันที เพราะคุณโกหกและให้ข้อมูลต่ำช้าผ่านสื่อไหน คุณก็ต้องยอมรับผิดผ่านสื่อนั้นเช่นกัน
พรรคประชาธิปัตย์ควรมีมาตรการลงโทษกับคนของพรรคที่มีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะคนแบบนี้ทำให้สังคมเกลียดประชาธิปัตย์แบบที่เป็นอยู่มากขึ้นทุกวัน เว้นเสียแต่ว่าพรรคคิดว่าการเมืองแบบพูดเท็จและต่ำช้าอย่างสามคนนี้ทำนั้นถูกต้อง ซึ่งนั่นเท่ากับพฤติกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องคุณศิริโชคและคณะ แต่เป็นวิธีคิดของคนในพรรคเดียวกัน
ความเห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา การต่อสู้ทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่ความต่ำช้าและความเท็จคือพฤติกรรมของคนสกปรกที่อาศัยการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจการเมืองที่น่าละอาย"
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่าผิดแล้วขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงให้อภัย ที่แล้วมามีหลายกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยดำเนินคดีหมิ่นประมาท เพราะถือว่าทุกคนสามารถวิจารณ์การทำงานของผู้นำประเทศได้ แม้บางครั้งจะเป็นการวิจารณ์ให้เกิดความเสียหาย ไม่ได้เกี่ยวกับหน้าที่การงานก็ตาม ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินคดีหมิ่นประมาทโฟร์ซีซั่นส์ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการงาน ซ้ำยังก่อให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งในฐานะภริยาและแม่ของลูก จึงได้ใช้สิทธิ์ทางศาลปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตัวเอง
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นว่าไม่ถูกต้องที่ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกโดยรอลงอาญา เมื่อเทียบเคียงกับคดีอื่นๆ เช่น การหมิ่นประมาทศาล หรือที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. หมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ แต่เมื่อทั้ง 3 คนรู้ตัวว่าผิดแล้วขออภัย จึงได้ให้อภัย เพราะไม่มีความแค้นเป็นการส่วนตัว
"เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของนักการเมือง ว่าในอนาคตควรต่อสู้กันอย่างสร้างสรรค์ ไม่ควรสาดโคลน เอาเรื่องสกปรกมากล่าวหากัน เพื่อที่จะได้นำสมองและพลังงานไปคิดอย่างสร้างสรรค์ ดังจะเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองตลอดเวลาการเป็นนายกฯ และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้อภัยทั้ง 3 คน ไม่เกี่ยวกับการส่งสัญญาณทางการเมือง ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะเกี๊ยะเซียะกับพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคต เพราะการให้อภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการบริการงานของรัฐบาลในอดีต
ยิ่งลักษณ์ได้ทำบุญ
นายวัฒนาบอกว่า ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะออกมาขอโทษ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะให้อภัย จะต้องมีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายก่อน เป็นไปไม่ได้ที่อยู่ดีๆ จะออกมาขอโทษ โดยต้องมีการประสานงานกันอยู่แล้ว และทาบทามว่าจะให้อภัยไหม จนเมื่อทราบว่าถ้าขอโทษแล้วจะให้อภัย จึงมีการขอโทษกันออกมา
"การให้อภัยคือธรรมะอย่างหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงความมีเมตตา เขาทุกข์ รู้ตัวแล้ว จึงมาขอความเมตตา น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงให้อภัย เป็นธรรมะขั้นสูง เป็นหนึ่งในพรหมวิหาร 4 แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจนักกีฬาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่าแพ้แล้วมาขอโทษ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาเป็นเอาตาย”
ส่วนที่มีการลบโพสต์ขอโทษออกในเวลาไม่นานนั้น ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเหมือนกับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำบุญ ซึ่งผลจากบุญจะทำให้จิตใจอิ่มเอิบ โดยไม่จำเป็นต้องไปสนใจว่าหลังจากทำบุญเช่นการใส่บาตรแล้วพระสงฆ์จะนำข้าวไปฉันเองหรือให้ลูกศิษย์วัดกิน ดังนั้นเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับรู้การขอโทษและให้อภัยแล้ว ทุกอย่างก็จบ เพราะการขอโทษ ไม่จำเป็นต้องขอ
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำคำกล่าวของ "พุทธทาสภิกขุ" มาโพสต์ประกอบว่า เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยูงมีดีที่แววขน ถ้าใจต่ำเป็นได้แค่เพียง "คน" ย่อมเสียทีที่ตนได้เกิดมา"
นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีต ถ้าทุกคนยังยึดติดอยู่แต่กับเรื่องเดิมๆ ความปรองดองในประเทศก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ตอนที่ตนเห็นนายศิริโชคโพสต์ข้อความขอโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็รู้สึกชื่นชมสปิริตที่กล้าขอโทษออกมา แต่เพียงไม่นานนายศิริโชคก็ลบข้อความดังกล่าวไป ทำให้รู้สึกผิดหวัง เพราะการกระทำเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจว่าสำนึกผิดในการกระทำ
"แบบนี้ความขัดแย้งจะหมดไปได้อย่างไร ดังนั้นหากอยากให้ประเทศเกิดความปรองดองอย่างแท้จริง ทุกภาคส่วนควรแสดงความจริงใจต่อการก้าวข้ามเรื่องเดิมๆ มองไปถึงอนาคตของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่ทำแบบนายศิริโชค" นายพลภูมิกล่าว
แหล่งข่าวนักกฎหมายให้ความเห็นว่า คดีนี้อัยการเป็นผู้ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ร้องทุกข์นั้น การถอนร้องทุกข์สามารถถอนได้เสมอ โดยการพูดว่าจะถอน แต่ยังไม่ได้มีการยื่นต่อศาล ก็ถือว่ายังไม่ถอน เจ้าตัวสามารถเปลี่ยนใจได้ก่อนที่จะยื่นส่งคำร้องขอถอน แม้ว่าฝ่ายจำเลยจะได้ทำหนังสือขอโทษถึงตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วก็ตาม ก็อยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะให้ถอนหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าความจริงใจของฝ่ายจำเลยเป็นเรื่องสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายศิริโชคนำจดหมายขอโทษกลับมาโพสต์อีกครั้ง พร้อมให้เหตุผลว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ผมขึ้นโพสต์ให้อีกครั้ง เหตุผลที่ลบออก เพราะเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ดูข่าว ติดต่อเพื่อน ไม่ได้ใช้เป็นพื้นที่ในการโพสต์ประเด็นการเมืองหรืออื่นๆ
นอกจากนี้ก็ยังเป็นข้อตกลงกับตัวแทนโจทก์ว่าหลังจากโพสต์และเป็นที่รับรู้ของสาธารณะแล้ว ก็สามารถเอาลงได้คล้ายๆ กับการแถลงข่าว และก่อนที่จะลบโพสต์ออก ก็ได้ปรึกษากับตัวแทนโจทก์แล้ว
แต่เมื่อหลายๆ ฝ่ายไม่สบายใจ มีการเอาเรื่องลบโพสต์ไปเล่นเป็นประเด็นการเมือง ผมก็เลยนำเอาโพสต์นี้ขึ้นมาโพสต์ใหม่ โดยจะทิ้งไว้ 7 วัน แล้วจะขออนุญาตลบนะครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |