ธรรมะวันอาทิตย์...ว่าด้วยเสียงระฆัง


เพิ่มเพื่อน    

(1)

        เสียงระฆังวัด ระฆังโบสถ์...ถ้าว่ากันตาม รสนิยมทางหู ของผู้คนปกติธรรมดาโดยทั่วไป มันน่าจะออกไปทาง เย็นๆ ประเภทฟังแล้วน่าจะสงบ สว่าง สะอาด อะไรประมาณนั้นมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นเสียงสวดมนต์ ลอยละล่องมาเข้าหู ไม่ว่าจะสวดงานบุญ งานศพ หรืองานพิธีอะไรก็แล้วแต่ ฟังแล้ว...ถ้าหากไม่ก่อให้เกิด สมาธิ ใดๆ แต่เผลอๆ...ก็อาจหลับสนิท นิทรา เอาง่ายๆ...

(2)

        กระทั่งเสียงสวดช่วงเช้าๆ เย็นๆ ของพี่น้องชาวอิสลาม แม้จะฟังไม่รู้ ไม่เข้าใจ แต่ด้วยความวิเวก กังวาน อันถูกเปล่งออกมาจากความเชื่อ ความศรัทธา ฟังแล้ว...ก็แทบไม่ต่างไปจากเสียงสวดมนต์ของชาวพุทธทั้งหลายนั่นแหละ คือฟังแล้วเย็น ฟังแล้วสงบ สว่าง สะอาด ได้โดยอัตโนมัติ ต่างไปจากเสียงอื่นๆ ในสังคมยุคใหม่ สังคมบ้านจัดสรร หรือสังคมคอนโดฯ ก็แล้วแต่ ที่น่าจะส่งผลให้ร้อน ให้ดิ้นรนกระวนกระวาย ให้มืดทึบอึดๆ อัดๆ ให้รู้สึกสกปรกรกรุงรัง ไม่รู้ว่าจะกี่เสียงต่อกี่เสียง...

(3)

        อย่างเช่น เสียงหมาเห่า ข้างบ้าน ของอันตัวข้าพเจ้าเอง...ที่เผอิญดันเป็น หมาโรคจิต อีกซะด้วย ขนาดเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ไม่รู้ว่าหมาท่านเห็นอะไรแวบๆ ขึ้นมา ส่งเสียงเห่ายืดยาว ประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็ยังไม่ยอมหยุด หรือ เสียงซ่อมบ้าน ที่ไม่ว่าอยู่ข้างบ้าน หรือเลยบ้านไปสี่-ซ้า-ห้าหลังก็แล้วแต่ แต่เมื่อช่วงที่ช่างซ่อมเขาทุบ เขากระแทก อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ หรือใช้เลื่อยไฟฟ้า สว่านไฟฟ้า เจาะโน่น เฉือนนี่ เสียงกรีดก้องของเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ มันชั่งบาดหู บาดความรู้สึก ได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นเคยทำให้ นักร้องเสียงการเวก อย่างคุณ ก๊อต-จักรพรรณ์ อาบครบุรี ท่านทนไม่ไหว บุกไป ทุบส้วม เพื่อนบ้านที่กำลังจะซ่อม จนกลายเป็นข่าวคราว ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้ว...

(4)

        แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าเสียง หมาเห่า เสียง ซ่อมบ้าน หรือแม้แต่เสียง ควายร้อง ประเภทเสียงแหกปากครวญครางของนักร้องเพลงคาราโอเกะ ที่มักสอดแทรกเข้าหูในแต่ละช่วงของวาระเทศกาล งานปีใหม่ งานวันเกิด หรืองานเฉลิมฉลองอะไรก็แล้วแต่ ออกมาจากข้างบ้าน หรือข้างห้อง ของใครก็ตามที ถ้าหากคิดกันในทางพระ ทางเจ้า ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากเสียงของเพื่อนผู้ร่วมวัฏสงสารนั่นเอง ไม่ว่าเข้าหู-ไม่เข้าหู หรือ รสนิยมทางหู จะออกไปในแนวไหนก็ตาม ก็น่าจะพอ ทนได้ ทำใจได้ ไม่ถึงกับต้องดิ้นรน ตะเกียกตะกาย บิดไป-บิดมา จะเป็น-จะตาย จะตายกันซะให้ได้ ทำนองนั้น...

(5)

        เพราะบางครั้ง บางครา...บ้านเราเอง อาจถึงคราวต้อง ซ่อมบ้าน ขึ้นมา ความรู้สึกถึงอกเขา อกเรา ย่อมต้องอุบัติขึ้นมาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ หรือถ้าเราดันไปได้ หมา ตัวใด ตัวหนึ่ง มาอยู่ในบ้าน สภาพของบ้านในสังคมใหม่ ย่อมมีสิทธิ์ส่งผลให้หมาตัวนั้น กลายเป็น โรคจิต ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ เพราะมันไม่มีที่วิ่ง ที่เล่น ที่ทำอะไรต่อมิอะไรตามประสาหมาๆ เลยมีแต่ต้องเห่าไป-เห่ามา เพื่อแสดงออกถึงความเป็นหมาไปตามสภาพ นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเฉลิมฉลองวันเกิด วันแต่งงาน วันปีใหม่ หรือวันสำคัญวันไหนๆ ก็แล้วแต่ ที่ผู้คนยุคใหม่ สังคมสมัยใหม่ เขาหนีไม่พ้นต้องหาทางแสดงออกถึงความคึกครื้น รื่นเริง จนอาจกลายเป็นการรบกวนประสาท ของผู้ที่อยู่ข้างเคียง ข้างบ้าน ใกล้บ้าน ได้เสมอๆ...

(6)

        ดังนั้น...แม้จะไม่เอาเรื่อง รสนิยมทางหู ที่อาจส่งผลให้ผู้ที่ได้ยินเสียงระฆังวัด ระฆังโบสถ์ เสียงพระสวด ต้องดิ้นเร่าๆ ปานผีกระสือ ผีกระหัง ผีแวมไพร์ กำลังดิ้นรนออกจากร่าง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่เอาแค่ ความอดทด-อดกลั้น อันเป็นสิ่งที่จำเป็นเอามากๆ สำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมสมัยใหม่ ในโลกยุคใหม่ ที่ต้องพร้อม ทำใจ ต่ออะไรก็ตาม ที่ไม่เป็นไปตาม รสนิยม ของตัวเอง ซึ่งมันมีอยู่ร้อยแปด พันเก้า ในแทบทุกเรื่อง ทุกๆ กรณีเอาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะในแง่สังคม เศรษฐกิจ ไปจนถึงการเมือง ใครก็ตามที่ยังไม่รู้จัก ทำใจ ในเรื่องราวเหล่านี้ ก็คง อยู่ยากซ์ซ์ซ์ หรือแทบอยู่กับใครไม่ได้ ไปตลอดชั่วนิรันดรกาล หรือตลอดชั่วชีวิตของตัวเองเอาเลยถึงขั้นนั้น...

(7)

        อันนี้นี่แหละ...ที่มันทำให้สิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ หรือแม้แต่สิ่งที่เรียกว่า สิทธิขั้นพื้นฐาน ย่อมไม่ได้เป็นสิ่งที่ ไร้ขอบเขต อย่างที่ใครต่อใครคิดๆ นึกๆ เอาไว้เลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้อง ปฏิสัมพันธ์ หรือ ปฏิสัมพัทธ์ กับผู้ที่รายล้อมรอบข้าง ไม่ว่าทางหนึ่ง ทางใด อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย จนถ้าหากอยากจะพอ อยู่ๆ กันไปได้ หรือ อยู่ร่วมกันได้ โดยสันติ โดยไม่ต้องลงมือ ลงตีน ต่อความขัดแย้ง แตกต่าง ก็มีแต่ต้องหันมาเอาสิ่งที่พวกพระ พวกเจ้า หรือพวกที่ชอบตีระฆังให้ฟังทั้งหลาย ท่านเรียกขานเอาไว้ในนาม ขันติธรรม หรือความอดทน อดกลั้น นั่นเอง...เหง่งๆ หง่างๆ ก็จึงมีด้วยประการฉะนี้...แล...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"