ใบปลิวว่อนทุ่งยางแดง ประกาศทำร้ายชาวไทยพุทธ "ปัตตานี-ยะลา" สั่งคุมเข้มพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกเส้นทาง หวั่นคนร้ายลอบเข้าก่อเหตุ "ผบ.ฉก.ตชด.44" ระบุพบกลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมลอบวางระเบิดเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง และเขตรอยต่อ 2 อำเภอ จ.ยะลา พุ่งเป้าเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.61 ชาวบ้านในอำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงว่าพบมีการโปรยใบปลิวทิ้งไว้ในเขตทุ่งยางแดง แถวตลาดนัดฆอมิส ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และอีกหลายจุดในพื้นที่ ลักษณะเป็นกระดาษ A4 สีขาว มีข้อความระบุ "ชาวไทยพุทธจะอยู่อย่างไม่สงบสุข ตราบใดที่รัฐสยามใช้กฎหมายรังแกชาวปาตานี" โดยผู้ที่นำมาโปรยใบปลิวใช้ยานพาหนะรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน
ร.ต.อ.พัลลภ พรหมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้นำกำลังออกไปตรวจสอบและเก็บหลักฐานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานีตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของคนร้าย ซึ่งใบปลิวดังกล่าวถูกทิ้งไว้ทั่วพื้นที่ของ อ.ทุ่งยางแดง หลังคนร้ายก่อเหตุลอบยิงสองแม่ลูกชาวไทยพุทธในพื้นที่ จ.ยะลา เดินทางไปรับเหมาสร้างมัสยิดในพื้นที่บ้านบาแฆะ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานีเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ด่านตรวจ กม.23 (ด่านตรวจกิโลเมตร 23) จ.ยะลา เจ้าหน้าที่กำลังตำรวจภูธร ตชด. อส. พร้อมกำลังได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจค้นบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยตามเป้าหมายที่แจ้งเตือน รวมทั้งตรวจค้นวัตถุสิ่งของภายในรถยนต์ รถจักรยานยนต์อย่างเข้มงวด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีการโปรยใบปลิวแจ้งเตือนชาวไทยพุทธ
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.เบตง กล่าวว่า ในส่วนของ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งมีพื้นที่เขตติดต่อกับ อ.เปิงกาลันฮูลู รัฐเประ ประเทศมาเลเซีย ทางตำรวจภูธรเบตงได้สั่งการกำลังพลเพิ่มความเข้มในมาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทางด้วยการเดินเท้าลาดตระเวน เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สัญจรไปมา ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเกิดความมั่นใจในความปลอดภัย
"ตำรวจได้เพิ่มความถี่ในการตรวจตราตามชุมชนไทยพุทธให้มากขึ้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยพุทธที่จะเข้าไปรับงานการก่อสร้างในพื้นที่ห่างไกลและมีอัตราความเสี่ยงสูง ประสานแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ประจำการที่ใกล้ที่สุด เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้เตือนให้ข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีละหมาดในวันศุกร์ ให้ระมัดระวัง และมีการจัดกำลังหรือบัดดี้ไปดูแลเพื่อป้องกันเหตุร้ายกับตัวเองด้วย" ผกก.สภ.เบตงกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.เชษฐวิทย์ นีระฮิง ผบ.ฉก.ตชด.44 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จึงได้กำชับให้กำลังพลตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องสงสัย ตามเป้าหมายที่แจ้งเตือน รวมทั้งตรวจค้นวัตถุสิ่งของภายในรถยนต์ รถจักรยานยนต์อย่างเข้มงวด โดยเน้นกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านด่านตรวจเข้าสู่เขตเมือง ป้องกันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะฉวยโอกาสซุกซ่อนวัตถุระเบิดขนาดเล็กเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ย่านชุมชน เศรษฐกิจ การค้า เขตเมืองและชุมชนไทยพุทธ
"หน่วยความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวังในการออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เส้นทางที่สุ่มเสี่ยง และได้เพิ่มมาตรการในการดูแลเฝ้าระวังฐานที่ตั้ง รวมทั้งให้จุดตรวจ จุดสกัด เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ เป็นกรณีพิเศษในห้วงนี้ หลังพบความเคลื่อนไหวแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเตรียมการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการลอบวางระเบิดบริเวณริมไหล่ทาง ท่อลอด และเสาไฟฟ้า โดยเน้นพื้นที่เฝ้าระวังเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง และเขตรอยต่อพื้นที่ อ.ธารโต อ.ยะหา จ.ยะลา รวมทั้งตำบลใกล้เคียง" ผบ.ฉก.ตชด.44 กล่าว
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ ทหารพรานที่ 22 และ ชป.ฮันเตอร์ ดำเนินการตามกฎหมายพิสูจน์ทราบเป้าหมายบุคคล บ้านเลขที่ 103/1 ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังทราบจากแหล่งข่าวในพื้นที่มีบุคคลผู้ต้องสงสัยเคลื่อนไหวในพื้นที่ จึงเข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านดังกล่าว ผลการปฏิบัติพบบุคคลผู้มีหมาย ป.วิ (ความมั่นคง) คือ นายยาการียา กือโนะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.2 ต.ตาลีอายร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
จากการตรวจในสารบบรายชื่อกลุ่มคนร้าย ทราบว่ามีพฤติกรรมเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อการร้ายระดับสั่งการรับผิดชอบพื้นที่ อ.ยะรัง มีหมาย ป.วิ (ความมั่นคง) จำนวน 3 หมาย จึงได้ควบคุมตัวไว้ และนำส่งหน่วยซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อขยายผลต่อไป
ที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส น.อ.นิรัตน์ ทากุดเรือ ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ให้การต้อนรับคณะคนสยามในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย จำนวน 100 คน นำโดยนายชวน เอง ประธานชมรมคนสยาม ในรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย จากนั้นได้ร่วมประชุมกับตัวแทนคนไทยในพื้นที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส เพื่อปรึกษาและหารือร่วมกัน ตลอดจนรับทราบปัญหา ในวิถีชีวิต พหุวัฒนธรรม ของคนสยามในมาเลเซีย และคนไทยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
น.อ.นิรัตน์กล่าวว่า การเชิญชาวสยามไทยพุทธในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์กองอำนวยการรักษาความสงบภายในภาค 4 เพื่อนำการปฏิบัติสู่การแก้ปัญหาในการบูรณาการของทุกภาคส่วน สร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศชาติ
"การเสวนาพุทธสยามในมาเลเซีย และคนไทยพุทธในพื้นที่ จะเป็นหนึ่งในการสร้างความเข้าใจร่วมกันในอีกหลายมิติ และจะร่วมกันแก้ปัญหาในอนาคต เพื่อให้พื้นที่เกิดความรัก สามัคคี และการอยู่ร่วมกัน บนความหลากหลายของพหุวัฒนธรรมในสังคมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้" ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |