“จักรทิพย์” นำทีมประชุมรักษาความปลอดภัย-จราจรรับงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้น 33 วัน ตั้งแต่ 15 ธ.ค.2561-17 ม.ค.2562 คาดจะทำให้ประชาชนมีความสุข

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การจัดงาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" ครั้งที่ 2 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้น ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.2561-17 ม.ค.2562 โดยจะสรุปบทเรียนข้อผิดพลาดต่างๆ จากการจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ครั้งที่ผ่านมา เพื่อนำมาศึกษาวางแนวทางการปฏิบัติให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยจะเน้นเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยและงานการจราจรเป็นหลัก เพื่อให้การจัดงานเรียบร้อยดี 
“เชื่อว่าปีนี้จะมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมากพอสมควร เราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพรียงที่สุด เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข ส่วนปีนี้จะจัดโรงพักย้อนยุคเมื่อปีก่อนหรือไม่นั้น คงต้องประชุมหารือกันอีกครั้ง”ผบ.ตร.กล่าว
สำหรับงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ครั้งแรกนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานขึ้น เพื่อสืบสานการจัดงานฤดูหนาวในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตลอดจนแสดงพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 อันเป็นการสะท้อนให้เห็นความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน และพระราชทานความสุขให้แก่ประชาชน โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 ก.พ.-11 มี.ค. ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า 
    โดยภายในงาน ณ พระลานพระราชวังดุสิต ได้จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงก่อตั้งขึ้น เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา การไปรษณีย์ไทย และธนาคารสยามกัมมาจล ตลอดจนนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  
ขณะที่บริเวณสนามเสือป่า มีร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ จิตอาสา 904, มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, ภูฟ้า, มูลนิธิสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และมูลนิธิโครงการหลวงดอยคำ เป็นต้น รวมทั้งร้านค้ารับเชิญทั้งจากภาครัฐและเอกชน และยังมีการแสดงสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน รวมทั้งการจัดแสดงศิลปะชั้นสูงในราชสำนักที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันด้วย
        ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้ประชาชนเข้าร่วมงานตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. จนถึงวันที่ 10 มี.ค. ได้สรุปตัวเลขผู้เข้าชมงานว่ามีทั้งสิ้น 1,145,530 คน.