แม่ค้าโอดถูกโรงเรียนดังยกเลิกสัญญา เทศบาลฯขอนแก่นอ้างประมูลไม่โปร่งใส


เพิ่มเพื่อน    

แม่ค้าสะอื้น ประมูลขายอาหารโรงเรียนดังขอนแก่น ถูกต้อง แต่กลับถูกยกเลิกสัญญาดื้อๆ ทั้งที่วางเงินมัดจำแล้ว เทศบาลฯขอตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังพบกลิ่นไม่ดีในการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง 

5 ต.ค.61 - ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีกลุ่มผู้ประกอบการร้านขายอาหารและร้านสหการ (ร้านค้าสวัสดิการ) ของโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก รวมกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบถึงผลการร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีถูกยกเลิกสัญญาร้านค้าหลังชนะการประมูลการจำหน่ายอาหารภายในโรงเรียนดังกล่าวอย่างไม่เป็นธรรม โดยกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ถึงผลการดำเนินการตามข้อร้องเรียนดังกล่าวโดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงทยอยกันออกมาจากศูนย์ดำรงธรรมเนื่องจากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

น.ส.สุภาพร ไพศาล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ครอบครัวได้ทำการประมูลร้านค้าสหการหรือที่เราเรียกกันว่าร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ซึ่งได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เนื่องจากโรงเรียนมีการปิดประกาศให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าร่วมประมูลในระยะเวลาสัญญาของการดำเนินการร้านค้าสวัสดิการเป็นเวลา 2 ปี ในวงเงิน 1,800,000 บาท โดยได้มีการเข้าทำสัญญาหลังชนะการประมูลพร้อมกับชำระเงินมัดจำสัญญางวดแรกจำนวน 450,000 บาท เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ลงนามโดยผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสวนสนุกคนก่อน

จนกระทั่งเมื่อปลายเดือน เม.ย.2561 ซึ่งมีการโยกย้ายผู้บริหารโรงเรียน มีผู้อำนวยการท่านใหม่มาดำรงตำแหน่ง ได้มีการแจ้งยกเลิกสัญญาดังกล่าวเพื่อขอตรวจสอบ ส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่มีการลงทุนร้านค้าสหการที่ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนไปแล้ว ซึ่งนอกจากเงินมัดจำที่ทำสัญญากับโรงเรียนในสมั ผู้อำนวยการโรงเรียนคนก่อน 450,000 บาทแล้ว ยังคงมีการลงทุนในการตกแต่งร้าน การสั่งสินค้ามาจำหน่ายตามข้อกำหนดที่โรงเรียนระบุคิดเป็นเงินรวมอีกกว่า 100,000 บาท แต่อยู่ๆก็ถูกยกเลิกสัญญาโดยไม่มีคำชี้แจงใด

"หลังจากมีคำสั่งยกเลิกสัญญาแจ้งให้ทราบก็ได้มีการยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งก็ได้รับหนังสือให้ย้ายออกจากพื้นที่เนื่องจากการทำสัญญาร้านสหการนั้นขัดต่อระเบียบของทางราชการ ทั้งที่โรงเรียนมีการเปิดประมูลอย่างเปิดเผย เราทำทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง มีการทำสัญญา ซึ่งลงนามโดยผู้อำนวยการฯและข้าราชการครูในฐานะพยาน แต่กลับมาถูกยกเลิกสัญญาทั้งที่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ซึ่งเมื่อได้รับหนังสือจากทางเทศบาลฯแล้วก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือจากวันนั้นถึงวันนี้ 6 เดือนแล้วที่ครอบครัวต้องสูญเงินไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาหรือการให้เข้าไปทำมาค้าขายในโรงเรียนแต่อย่างใด"

ขณะที่นางพรรณวิภา บุญจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/7 ม.2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เป็นแม่ค้าขายอาหารที่โรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 17 ปี โดยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาโรงเรียนมีการเปิดประมูลร้านค้าในโรงเรียน ซึ่งเดิมมี 22 ร้านค้าก็ปรับเหลือ 7 ร้านค้า โดยกำหนดลักษณะร้านค้าที่ประกอบด้วยข้าวมันไก่,ข้าวราดแกง,ก๋วยเตี๋ยว,โจ๊ก-ต้มเส้น,ผลไม้และไอศกรีม ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลตามคำสั่งของผู้อำนวยการโรงเรียนมากกว่า 40 ราย โดยแม่ค้าและพ่อค้าต่างทำตามระเบียบและประกาศที่โรงเรียนกำหนด จนกระทั่งประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล 7 ราย ก็ได้เตรียมการด้วยการเข้าไปจัดเตรียมสถานที่ การสั่งสินค้ามาเพื่อจำหน่ายเพราะใกล้ถึงวันเปิดเทอม และมีการจ่ายเงินมัดจำไปแล้วร้านค้าละ 2,000 บาท โดยที่ยังคงไม่มีการทำสัญญาใดๆ อยู่ๆผู้อำนวยการท่านใหม่ก็มีคำสั่งยกเลิกการประมูลดังกล่าวทั้งร้านค้าและร้านสหการ พ่อค้าและแม่ค้าที่ได้รับสิทธิ์การประมูลตามประกาศของโรงเรียนถึงกับงง อย่างมาก เพราะมีการเตรียมการต่างๆไว้หมดแล้ว แต่ละคนก็อายุมากแล้ว เงินที่นำมาลงทุนก็มาจากเงินออมและเงินกู้ต่างๆ

"หลังทราบเรื่องก็ได้มีการร้องขอความเป็นธรรมจากเทศบาลฯและโรงเรียน เพื่อขอความเมตตา เพราะยืนยันว่าผู้ประกอบการทำตามคำประกาศของโรงเรียนตามขั้นตอนทั้งหมด แต่กลับมาถูกยกเลิกสัญญาโดยไม่เป็นธรรม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือกับพ่อค้าและแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย"

ด้านนายชัชวาล พรอมรธรรม รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น (ฝ่ายการศึกษา) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางคณะผู้บริหารได้รับทราบเรื่องแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งมีรองปลัดเทศบาลฯและสำนักการศึกษาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องรอข้อสรุปจากคณะกรรมการที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยเฉพาะกับระเบียบข้อบังคับและอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษา และอำนาจของนายกเทศมนตรี ซึ่งเรื่องนี้เบื้องต้นพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งความชัดเจนต้องรอในสัปดาห์หน้า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะสรุปเรื่องมายังนายกเทศมนตรีได้รับทราบและพิจารณาสั่งการ จึงขอให้ผู้ประกอบการนั้นรออีกนิด เพราะทุกอย่างนั้นเป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย

"ผู้อำนวยการโรงเรียนท่านใหม่และประธานคณะกรรมการสถานศึกษานั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของผู้อำนวยการฯคนเดิม ขณะที่เรื่องร้านสหการนั้นเทศบาลฯได้มีการสำรวจความคิดเห็นจากนักเรียน อาจารย์ ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา ที่ต่างมีความเห็นตรงกันในการปรับร้านค้าสหการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ โดยที่โรงเรียนบริหารจัดการเอง และนักเรียนมาเป็นเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน ซึ่งอยู่ในขั้นเตรียมการของเทศบาลฯในการที่จะทำร้านค้าที่นักเรียนนั้นบริหารจัดการเอง และเป็นเจ้าของกิจการของตนเอง แต่การเปิดประมูลนั้นโรงเรียนไม่ได้มีการแจ้งมายังเทศบาลฯหรือคณะกรรมการสถานศึกษาฯได้รับทราบ จนกระทั่งมีการร้องเรียนเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มีการสรุปเรื่องแล้วและจะประกาศผลการสอบสวนในสัปดาห์หน้า"นายชัชวาล กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"