บอร์ดอีอีซีอนุมัติเพิ่ม 4 เมกะโปรเจ็กต์ พัฒนาอู่ตะเภา-ศูนย์ซ่อมสนามบิน-แหลมฉบังเฟส 3-มาบตาพุดเฟส 3 "คณิศ" เผยรวม 5 โครงการชาติได้ประโยชน์ 8 แสนล้าน เร่งออกหนังสือชี้ชวนภายในต.ค. "บิ๊กตู่" รู้การเมืองจับจ้อง กำชับทุกฝ่ายอุดรูรั่ว รมต.พปชร.ร่วมวงถกคึกคัก
ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 4/2561 (อีอีซี) โดยการประชุมครั้งนี้ นอกจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมแล้ว ยังมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมหารืออย่างคึกคัก
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนการประชุมว่า อีอีซีเป็นโครงการสำคัญของประเทศไทยที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งได้รับทราบว่าหลายประเทศให้ความสนใจกล่าวถึงนโยบาย 4.0 และอีอีซี ขณะที่ในประเทศมีผู้ให้ความสนใจ ทั้งจากภาคเอกชนและฝ่ายการเมืองต่างๆ ด้วย ซึ่งเชื่อมั่นในการทำงานของทุกคน อะไรก็ตามที่จะเป็นรูรั่วที่จะทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ และขอให้ทุกคนต้องมั่นใจในการทำงานในสิ่งที่ถูกต้อง ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ เพื่อให้เกิดความสบายใจ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะโครงการใหญ่ แล้วไม่กล้าจะทำ เพราะไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้น ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจต่อไปในอนาคตด้วย
จากนั้นเวลา 12.00 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อมด้วยนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอีอีซี และคณะ แถลงผลการประชุม โดย พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้อนุมัติหลักการและแผนการดำเนินงาน 4 โครงการพื้นฐานสำคัญในอีอีซี ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก 2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และ 4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3
ด้านนายคณิศกล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอีอีซีมีทั้งหมด 5 โครงการ เดิมอนุมัติไปแล้ว 1 โครงการ และวันนี้อนุมัติเพิ่มเติมอีก 4 โครงการ โดยจะออกหนังสือชี้ชวนให้ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ สำหรับรายละเอียดทั้ง 4 โครงการ 1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มีกิจกรรมรวม 6 ประเภท คือ อาคารผู้โดยสารหลังใหม่, ศูนย์ธุรกิจการค้า, ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เขตประกอบการค้าเสรี, ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ และศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศ กำหนดเปิดดำเนินการได้ปี 2566 จะทำให้ประเทศไทยได้สนามบินนานาชาติขนาด 60 ล้านคน ส่วนเงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนรวม 290,000 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 193,612 ล้านบาท
2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน และผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในภูมิภาค โดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของโครงการ เงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนรวม 10,588 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 38,872 ล้านบาท 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เพื่อเป็นประตูส่งออกของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถเป็น 18 ล้าน TEU (หน่วยนับแทนจำนวนตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต) ต่อปี โดยท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าของโครงการ จะเริ่มลงทุนเบื้องต้นที่ท่าเรือ F เงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนรวม 84,361 ล้านบาท ผลประโยชน์ตอบแทน 76,078 ล้านบาท และในอนาคตจะเปิดท่าเรือ E เอกชนจะลงทุนเพิ่มโดยที่รัฐไม่ต้องลงทุนแล้ว
และ 4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 เป็นการขยายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวให้เป็นท่าเรืออุตสาหกรรมระดับภูมิภาค โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าของโครงการ เงินลงทุนท่าเรือก๊าซจากภาครัฐและเอกชนรวม 47,900 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 47,357 ล้านบาท
“สำหรับข้อมูลการลงทุน 5 โครงการ มูลค่าการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) จำนวน 652,559 ล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 209,916 ล้านบาท และภาคเอกชน 442,643 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศ 819,662 ล้านบาท ไม่นับรวมการจ้างงาน และมีผลตอบแทนทางการเงินโครงการ 559,715 ล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 446,960 ล้านบาท ภาคเอกชน 112,755 ล้านบาท ขณะที่เงินลงทุนรวมในอีอีซี 1.7 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 0.3 ล้านล้านบาท และภาคเอกชน 1.4 ล้านล้านบาท” เลขาธิการอีอีซีระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |