รถตู้ไล่ปาดจยย. เจอขวาง-พุ่งชน


เพิ่มเพื่อน    

    รถตู้หัวร้อนปาดจักรยานยนต์จนเกิดวางมวย พลเมืองดีเข้าห้ามเจอลูกหลง ก่อนที่คนขับรถตู้จะซิ่งหนี โดยมีจักรยานยนต์ไล่ตามไปจอดขวางหน้า เจอพุ่งชนต้องโดดหลบหนีตาย สุดท้ายคนก่อเหตุยอมมอบตัวเจอหลายคดี
    เมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษ วันที่ 4 ตุลาคมนี้ ร.ต.อ.หญิงมุจลินท์ ตั้งหลักดี รองสารวัตร (สอบสวน) ​งานศูนย์ควบคุมจราจร สน.ทางด่วน 2 รับแจ้งเหตุรถตู้ชนรถจักรยานยนต์ หน้าช่องเก็บเงินด่านพระรามเก้าขาออก แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แอร์ร็อค หมายเลขทะเบียน 7 กอ 7854 กรุงเทพฯ จอดล้มอยู่ มีนายศุกล เครือแสน อายุ 22 ปี พนักงานขับรถพยาบาล รพ.ปิยะเวท ได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลถลอกที่แขนซ้าย จึงนำตัวไปปฐมพยาบาล
    นายศุกลเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปรับแฟนที่ย่านเพลินจิต ก่อนจะขี่รถกลับมาที่โรงพยาบาล ขณะขี่มาตามถนนวิทยุ รถตู้สีขาว ​หมายเลขทะเบียน ฮล 7857 กรุงเทพมหานคร ได้ขับปาดหน้า ตนจึงบีบแตร จากนั้นตนได้ขี่รถถึงแยกพระรามเก้า รถตู้ที่ขับตามมาได้จอดรถ แล้วคนขับรถได้ลงมาถีบรถจักรยานยนต์ที่ตนกับแฟนสาวนั่งมาจนล้มลง และมีปากเสียงก่อนจะชกต่อยกัน โดยมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาห้าม แต่ก็ถูกลูกหลงไปด้วย
    นายศุกลกล่าวว่า หลังแยกกันแล้ว ตนได้พูดคุยถึงเรื่องประกันอุบัติเหตุ แต่คนขับรถตู้ได้เดินกลับไปขึ้นแล้วเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี ตำรวจที่ประจำอยู่ที่ตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรบริเวณดังกล่าวบอกให้ตนขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไปก่อน ตนและพลเมืองดีจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม ซึ่งรถตู้ได้ขับปาดไปมา ก่อนจะเบี่ยงเข้าด่านเก็บเงินทางด่วน ตนจึงขี่รถไปขวางไว้เพื่อให้คู่กรณีลงมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่รถตู้กลับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตน ลากไปราว 50 เมตร ยังดีที่ตนกระโดดหลบทัน จากนั้นรถตู้ก็ขับหลบหนีไป
    ต่อมาเมื่อเวลาเที่ยงเศษ นายอำนาจ แซ่ลิ้ม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 3 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา คนขับรถตู้คันดังกล่าว ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน  
    นายอำนาจให้การว่า ตนขับรถไปเจอคู่กรณีที่แยกพระราม 9 โดยยอมรับว่ามีการเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะของการปาดหน้า ต่อมาคู่กรณีได้ลงมาเคาะกระจกและเกิดการทะเลาะวิวาทกันด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนที่จะมีคนมาห้าม ตนจึงพูดว่าให้เลิกแล้วต่อกัน แล้วรีบขับกลับบ้าน ไม่คิดว่าคู่กรณีจะไม่ยอมและให้พลเมืองดีขี่รถตามมา รู้สึกตกใจมาก จึงรีบขับออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะกลัวจะถูกรุมทำร้าย ระหว่างนั้นเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขี่มาปิดทางไว้ แต่ไม่มีคนอยู่บนรถ จึงขับเบี่ยงหลบและชนลากรถจักรยานยนต์ไป
    ระหว่างการเข้าให้ปากคำ นายอำนาจได้จับมือขอโทษผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งยอมรับผิดกับการกระทำของตน 
    ด้านนายศุกลกล่าวว่า เมื่อนายอำนาจยอมรับผิด ก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก 
    พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร รอง ผกก. (สอบสวน) สน.มักกะสัน กล่าวว่า ในส่วนของ สน.มักกะสันได้แจ้งข้อหานายอำนาจ ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งจะส่งฟ้องศาลดำเนินคดีต่อไป จากนี้ทางตำรวจจะเป็นคนกลางให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยตกลงกันในเรื่องค่าเสียหาย ส่วนที่ทั้งสองทำร้ายร่างกายกันนั้น ทาง สน.มักกะสันจะประสานส่งเรื่องให้ทาง สน.ดินแดง ท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"