ชาวบ้านจัดพิธีกวนกระยาสารทโบราณสูตรใหม่รสชาเขียว โอวัลตินและสูตรดั้งเดิมทำขายหาเงินเข้าวัด สืบสานประเพณีวันสารทไทย หรือวันเพ็ญเดือนสิบ ภายใต้ชื่องาน “ประชาวัด ประชารัฐ รวมใจ ใส่ใจคุณธรรม”
4 ต.ค.61 - ที่วัดดงตะขบ อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ได้มีการจัดงาน "ประชาวัด ประชารัฐ รวมใจ ใส่ใจคุณธรรม" โดยมีพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยชาวบ้านในชุมชนร่วมกันจัดงานเพื่อสืบสานประเพณีท้องถิ่นเมื่อถึงฤดูกาลสารทเดือนสิบของทุกปี ซึ่งตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 (9 ต.ค.) พุทธศาสนิกชนทั้งหลายของหมู่บ้านดงตะขบ จะกวนกระยาสารทเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของหมู่บ้านที่มีมาแต่โบราณ
ขนมกระยาสารทเป็นสัญลักษณ์ของผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ และสืบทอดความเชื่อ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว จนกลายมาเป็นประเพณีสารทไทยวัดดงตะขบ นับเป็นวิถีธรรมวิถีไทยที่ดีงามและช่วยส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน จนเป็นที่มาของคำว่า "ประชาวัด" ที่มาจากการรวมพลังศรัทธาจากทุกภาคส่วนโดยใช้วัดเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมของชุมชนและยังตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยหลัก "บวร" ให้ บ้าน วัด และโรงเรียน ได้มีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกัน
สำหรับวิธีการทำกระยาสารทของชาวบ้านดงตะขบนั้น จะใช้วัตถุดิบที่ได้นำมาจากในชุมชน เช่น ข้าวเม่า น้ำตาลอ้อย ถั่วลิสง งา และมะพร้าว ในการนำมาประกอบการทำกระยาสารท แต่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยก็มีการประยุกต์การทำกระยาสารทด้วยการทำเป็นรสชาเขียว รสโอวัลตินและรสชาติสูตรดั้งเดิม สร้างสีสันให้ดูน่ากินถูกใจคนรุ่นใหม่
สำหรับกรรมวิธีการทำเริ่มจากการให้ชาวบ้าน นำข้าวเม่า ถั่วลิสง งา มาคั่วจนสุกพอประมาณ แล้วให้นักเรียนนำไปตำ และฝัดออกเพื่อแยกเปลือกและเมล็ดข้าวเม่าออกจากกัน และชาวบ้านกับพระสงฆ์ จะช่วยกันนำกะทิ และน้ำตาลอ้อยมาเคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม เมื่อได้ที่แล้วจะนำข้าวเม่า ถั่วลิสง และงาที่เตรียมไว้ลงไปผสมในน้ำกะทิ และเคี่ยวไปเรื่อยๆด้วยไฟอ่อนๆ จนส่วนผสมเข้ากันแล้วจึงนำไปใส่ถาดพักไว้ให้เย็น และชาวบ้านจะนำมาปั้นใส่ถุงจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 120 บาทเท่านั้น รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปเป็นทุนในการพัฒนา ซ่อมแซมวัด เพื่อสืบสานพระพุธศาสนาให้อยู่สืบต่อไป
งานประเพณีดังกล่าว พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และทางคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร ได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาสนับสนุนประเพณีดังกล่าว เพราะเล็งเห็นว่า ประเพณีดังกล่าวมีความสอดคล้องกับความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ที่เชื่อว่าบรรพบุรุษ อันได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หากทำความดีไว้ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้ในแต่ละปี มายังชีพ ดังนั้น ในวันแรม 1 ค่ำเดือนสิบ คนบาปทั้งหลาย ที่เรียกว่า เปรต จึงถูกปล่อยตัว กลับมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาขอส่วนบุญ จากลูกหลาน ญาติพี่น้อง และจะกลับไปนรกดังเดิม ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบ โอกาสนี้เองลูกหลาน และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงนำ อาหารโดยเฉพาะกระยาสารทไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตามความเชื่อของหลักพระพุทธสาสนาดังกล่าว
สำหรับท่านที่สนใจต้องการจะลองชิมกระยาสารทจากวัดดงตะขบ สามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 082-164-4897 นอกจากได้อร่อยแล้วยังได้บุญอีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |