กองทัพอินโดนีเซียสั่งการทหารยิงพวกโจรปล้นสะดมทันทีที่พบ ขณะจำนวนผู้สังเวยเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิวันศุกร์ที่แล้วเพิ่มเป็นมากกว่า 1,400 ศพแล้วในวันพุธ กู้ภัยทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร

ชาวบ้านเดินผ่านซากปรักหักพังใกล้กับมัสยิดใหญ่ในเมืองปาลูที่พังถล่ม  / AFP

    ทางการอินโดนีเซียขีดเส้นตายภารกิจการค้นหาผู้รอดชีวิตถึงวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะครบ 1  สัปดาห์นับแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ที่เกาะสุลาเวสีเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กันยายน เอ็ม. โธฮีร์ โฆษกกองทัพ กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วเพิ่มเป็น 1,411 คน  ขณะที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติกล่าวว่าสามารถฝังศพได้แล้ว 519 ศพ

    ศูนย์ประสานงานเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งอาเซียนเผยว่า ต้องการถุงเก็บศพอย่างเร่งด่วน ด้วยความกังวลว่าศพที่กำลังเน่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค

    ปฏิบัติการค้นหากู้ชีพของหน่วยกู้ภัยรัฐบาลเน้นค้นหาที่จุดสำคัญๆ 6 แห่งทั่วเมืองปาลู ได้แก่  โรงแรมโรอา-โรอา ที่เชื่อว่ามีคนถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคาร 60 คน, ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง, ร้านอาหารร้านหนึ่ง และเขตบาลาโรอาที่ความรุนแรงของแผ่นดินไหวเขย่าผืนดินจนกลายสภาพเป็นโคลน เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่ามีคนสูญหายอีกอย่างน้อย 150 คนที่เชื่อว่าถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

ภาพถ่ายมุมสูงเมื่อวันพุธ เรือเฟอร์รีโดยสารโดนสึนามิซัดมาติดอาคารริมทะเลในเมืองวานี จังหวัดสุลาเวสีกลาง / AFP

    สำนักงานด้านการบรรเทาทุกข์ขององค์การสหประชาชาติประมาณการว่า มีผู้ประสบภัยเกือบ  200,000 คนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ในจำนวนนี้เป็นเด็กหลายหมื่นคน ประเมินด้วยว่ามีบ้าน  66,000 หลังถูกทำลายหรือเสียหายเพราะแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ที่ถล่มตามมา คำแถลงที่นครเจนีวาเมื่อวันอังคารเตือนด้วยว่า ยังมีพื้นที่อีกกว้างใหญ่ที่อาจประสบภัยหนักที่สุดซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม แต่ก็ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่พยายามอย่างสุดกำลังแล้ว

    ผู้ที่รอดชีวิตกำลังเผชิญกับความอดอยาก ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม คนบาดเจ็บล้นโรงพยาบาลในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กล่าวกันว่าแม้รัฐบาลจะยอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติแล้ว แต่ก็ยังไม่มีกลไกสำหรับการปฏิบัติ

ทหารลาดตระเวนที่ตลาดแห่งหนึ่งในเมืองปาลู ป้องกันการปล้นสะดม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 / AFP

    ก่อนหน้านี้มีรายงานผู้รอดชีวิตออกปล้นสะดมร้านค้า และตำรวจต้องยิงปืนเตือนและใช้แก๊สน้ำตาขับไล่ แต่ปัญหาลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นอีก จากรายงานที่ว่ารถบรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ 6 คันของกระทรวงสวัสดิการสังคมโดนปล้นชิงบนเส้นทางขาเข้าและขาออกเมืองปาลู ช่างภาพเอเอฟพีเห็นกลุ่มวัยรุ่นปิดถนนและร้องขอ "ของบริจาค" ด้วย

    ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ซึ่งจะต้องสู้ศึกเลือกตั้งปีหน้ายืนกรานขณะเยือนเมืองปาลูว่า กองทัพและตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ไม่มีการปล้นสะดมตามที่กล่าวกัน

    พันเอกเดวา อากุง ฮาดิซาปุตรา นายทหารในพื้นที่นั้น เผยกับเอเอฟพีเมื่อวันพุธด้วยว่า ตอนนี้รถบรรทุกของทหารทุกคันที่ขนเสบียงและสิ่งของบรรเทาทุกข์จะมีทหารพร้อมอาวุธครบมือ 5 นายคุ้มกัน นอกจากนี้ ทหารยังได้รับคำสั่งให้ยิงพวกหัวขโมยที่ยังปล้นสะดมร้านค้า โดยจะเป็นการยิงเตือนก่อน แล้วจากนั้นจะยิงเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวได้

    ทหารนายนี้กล่าวว่า ช่วง 1-2 วันแรก ผู้ประสบภัยไม่มีน้ำมัน ขาดน้ำ เพราะร้านค้าพากันปิดหมด ทำให้ชาวบ้านต้องขโมย แต่ในวันที่ 3 กลับมีการปล้นสะดมทรัพย์สินอย่างอื่นด้วย เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า.

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายที่เมืองปาลูอีกรอบเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม / Indonesian Presidential Palace / AFP