หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ที่ได้เห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับพรรคฉบับใหม่ เมื่อวันพุธที่ 3 ต.ค.เสร็จสิ้นลง อันเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติของพรรคการเมือง ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 ที่ให้คลายล็อกพรรคการเมือง ซึ่งบรรยาศภาพรวมมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก เพราะมีอดีตแกนนำพรรค-อดีตรัฐมนตรี–อดีต ส.ส.–แกนนำเสื้อแดง ตบเท้าเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
     จากนั้นก็มีข่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยแยกย้ายกันเข้าประชุมวงย่อยที่มีการประชุมต่อเนื่องในวันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นวงประชุมแกนนำพรรคชุดทีมยุทธศาสตร์ ที่รับผิดชอบการเตรียมการเลือกตั้ง, วงประชุมภาคต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย เช่น อีสาน, กรุงเทพมหานคร เพื่อหารือการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเตรียมวางผู้สมัครรับเลือกตั้งในภาคต่างๆ
     ท่ามกลางกระแสข่าวว่า วงหารือแต่ละภาคได้มีการวางชื่อผู้สมัครกันไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่นิ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เช่น พื้นที่ "กรุงเทพมหานคร” มีข่าวว่า ทาง กทม. ที่มีหัวเรือใหญ่คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นคีย์แมน มีการจัดยุทธศาสตร์ ดึงเอาแกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี มาลง ส.ส.เขต เช่น ข่าวว่าจะวางตัวให้ เสี่ยโต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ-รมว.การคลัง ลงสมัคร ส.ส.เขตพื้นที่ย่านคลองเตย ที่เป็นเขตเลือกตั้งเดิมของ น.ต.ศิธา ทิวารี ผอ.พรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน และยังมีชื่อวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำเพื่อไทยสายชน คสช. ข่าวว่าได้ขอทางพรรคลง ส.ส.เขตพื้นที่ฝั่งธนบุรี พื้นที่เดิมของหมวดเจี๊ยบ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต โดยหมวดเจี๊ยบจะย้ายเขตไปลงเลือกตั้งย่านวังทองหลาง อีกทั้งมีชื่อ สุธรรม แสงประทุม อดีตรองประธานสภาฯ ที่ทำงานการเมืองกับทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่พลังธรรม ก็จะหันมาลงสมัคร ส.ส.อีกรอบ หลังหายจากการเมืองไปนานเพราะโดนพิษคดียุบพรรคไทยรักไทย รอบนี้จะมาลงสมัคร ส.ส. กทม.ย่านดินแดง ที่ตัวเองเคยลงสมัคร ส.ส.เมื่อครั้งอยู่พรรคพลังธรรม และมีข่าวอาจมีเซอร์ไพรส์รายชื่อผู้สมัครส.ส.กทม.อีกบางคน ชนิดหลายคนไม่คาดคิด
     ขณะที่การจัดส่งคนลงเลือกตั้ง ส.ส.เขตของภาคอื่นๆ ในเพื่อไทย ก็เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก จนทำให้น่าจับตาว่าบางเขต บางพื้นที่ อาจมีปัญหาในเรื่องการคัดคนลงเลือกตั้ง เนื่องจากบางจังหวัดที่เก้าอี้ ส.ส.เขตลดลงจากการเลือกตั้งปี 2554 ตามประกาศของ กกต.
     ที่สำคัญ คนเพื่อไทยส่วนใหญ่ก็รู้กันดีว่า จากระบบการเลือกตั้งที่ใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม–นับทุกคะแนนเสียง ทำให้เพื่อไทยอาจได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลงจากเดิม โดยแกนนำพรรคบางส่วนที่อยู่ในทีมเตรียมเลือกตั้ง ประเมินกันว่า อาจจะหายไปร่วม 30-40 เก้าอี้ จากที่เคยได้ตอนปี 2554 ทำให้พวกอดีต ส.ส.ที่เคยอยู่ปาร์ตี้ลิสต์ และไม่ใช่ระดับแกนนำที่จะไปลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีอะไรได้ ก็พยายามดิ้นรนขอลงสมัคร ส.ส.เขต โดยเฉพาะการเสียบเข้าไปในพื้นที่ซึ่งอดีต ส.ส.เพื่อไทยย้ายออกไปอยู่พรรคอื่น จนเริ่มมีข่าวว่า บางเขตของเพื่อไทยมีคนแสดงความจำนงมากกว่า 2-3 ชื่อ ทำให้บางจังหวัดในบางภาค เริ่มส่อเค้าอาจเกิดปัญหาแย่งกันลงสมัคร ส.ส.เขตได้ในอนาคต  
     สำหรับกลุ่มการเมือง-อดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่ย้ายออกจากพรรคจนถึงขณะนี้ มีข่าวว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยก็ยังมองว่ามีโอกาสไหลออกได้อีก แต่ไม่น่าจะมากไปกว่าที่ปรากฏเป็นข่าว
     ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าออกจากเพื่อไทยไปแล้ว และกำลังจะออก ก็มีเช่น กลุ่มอุบลราชธานี ของสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย, กลุ่มเลย ของปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรฯ, กลุ่มสระแก้ว ตระกูล เทียนทอง ของสองพี่น้อง “ฐานิสร์ อดีต รมช.มหาดไทยและตรีนุข เทียนทอง” กลุ่มเพชรบูรณ์ ของสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.คมนาคม, กลุ่มสะสมทรัพย์ ของไชยา สะสมทรัพย์, กลุ่มโคราช สายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต รมช.เกษตรฯ รวมถึงที่แยกตัวออกไปร่วมทำพรรคการเมืองใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นพรรคเครือข่ายของเพื่อไทยคืออดีตกลุ่มวาดะห์ของวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่ไปทำพรรคประชาชาติ และกลุ่มของสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตแกนนำเพื่อไทยกับพงศกร อรรณนพพร อดีต ส.ส.ขอนแก่นและอดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่ไปทำพรรคเพื่อธรรม
     รวมถึงที่ย้ายออกไปเป็นการส่วนตัวอีกหลายคนเช่น พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี ที่ข่าวว่าย้ายไปพลังประชารัฐ, พงศ์พันธ์ สุนทรชัย อดีต ส.ส.หนองคายหลายสมัยที่ย้ายไปภูมิใจไทย เป็นต้น
     ส่วนเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จะเลือกกันในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย วันที่ 28 ต.ค. คาดได้ว่าคงฝุ่นตลบกันพอสมควร หากสุดท้ายไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนมาจากคนแดนไกล ทักษิณ ชินวัตร จนเริ่มมีแกนนำพรรคบางคนมีแนวคิดที่จะเสนอต่อผู้ใหญ่ในพรรคว่า ควรให้คนที่สนใจจะเป็นหัวหน้าพรรคได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ให้คนในพรรคได้รับรู้ ก่อนหน้าการประชุมใหญ่พรรค 28 ต.ค. แต่แนวทางนี้จะเกิดขึ้นได้ สุดท้ายยังไงก็ต้องให้ทักษิณเห็นชอบ ซึ่งดูแล้วข้อเสนอดังกล่าว ทักษิณอาจไม่เซย์เยสด้วย!!!.