ทรัมป์ : ผมกับคิมตกหลุมรักกันแล้ว แต่จีนพยายามแทรกแซงเลือกตั้งมะกัน


เพิ่มเพื่อน    

      อยู่ดีๆ โดนัลด์ ทรัมป์ก็โยนข้อหาหนักหน่วงใส่จีนว่าปักกิ่งกำลังพยายามจะ แทรกแซง การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

      และที่สร้างความประหลาดใจไปทั่วก็คือ อีกประโยคหนึ่งจากทรัมป์ที่บอกว่า "ผมกับคิม จองอึน  (แห่งเกาหลีเหนือ) ตกหลุมรักซึ่งกันและกันแล้ว"

      ทรัมป์ไม่ได้บอกว่ามีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์อะไรว่าจีนกำลังจะใช้วิธีการลับๆ ล่อๆ เพื่อจะให้พรรครีพับลิกันแพ้เลือกตั้งผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า

      กาลเทศะของทรัมป์ในการกล่าวหาจีนเรื่องนี้ก็มีความประหลาดไม่น้อย เพราะเป็นการพูดในจังหวะที่มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ

      ผมเห็นนายหวางอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับทรัมป์ทำสีหน้ายุ่งยากไม่น้อย

      โดยไม่รอช้า หวางอี้แถลงตอบโต้โดยพลัน ยืนยันว่าจีนยึดถือนโยบายการไม่ก้าวก่าย ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างมั่นคงมาตลอด

      ตัดภาพสลับมาที่ผู้นำเกาหลีเหนือกับทรัมป์ ก็จะเห็นอีกด้านหนึ่งของสภาพจิตของทรัมป์

      ทรัมป์ต้องการจะแสดงให้คนอเมริกันและชาวโลกได้เห็นว่าเขาสามารถจะชนะใจของคิม จองอึนได้  ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีมะกันคนก่อนๆ ทำไม่ได้เหมือนเขา

      แต่เมื่อเขาใช้คำว่า fall in love กับคิม มันเป็นการเลือกใช้วลีที่ไม่เพียงแต่แปลกเท่านั้น แต่หลายคนมองว่าทรัมป์เพี้ยนเอามากๆ

      เพราะไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เอง ทรัมป์ยังด่าทอคิมอย่างสาดเสียเทเสีย เรียกผู้นำที่เปียงยางว่าเป็น  Rocket Man บ้าง ตะโกนบอกว่าคิมเป็น เผด็จการที่ทำลายชีวิตของคนเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง  ต่างๆ นานา

      เป็นไปได้อย่างไรที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคิมจะกระโดดจากนรกขึ้นสวรรค์ได้อย่างรวดเร็วปานนั้น

      การที่ทรัมป์ปะฉะดะกับจีน แต่หันมาจูบปากกับเกาหลีเหนือนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยากไม่น้อย

      เพราะทรัมป์ต้องรู้ว่าคิม จองอึนได้พยายามฟื้นคืนความสัมพันธ์กับสีจิ้นผิงอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากที่คิมบินไปหาสีจิ้นผิงทั้งก่อนและหลังพบกับทรัมป์ที่สิงคโปร์ เหมือนจะไปรายงานตัวและขอคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรกับทรัมป์

      คิมได้แสดงให้ผู้นำจีนเห็นว่า เขายังให้ความสำคัญกับการรักษาความสนิทสนมระหว่างสองประเทศเหมือนที่คุณปู่และคุณพ่อได้ทำมาตลอด

      หากทรัมป์หวังว่าเขาจะสามารถแยกเกาหลีเหนือออกจากจีนได้ด้วยการด่าฝ่ายหนึ่งและชมอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องถือว่าเป็นวิเทโศบายที่ไร้เดียงสาเอามากๆ

      ผมไม่สงสัยว่าที่ทรัมป์ชี้นิ้วกล่าวหาว่าจีนพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมของอเมริกานั้น  มาจากการที่จีนตอบโต้ทรัมป์เรื่องการขึ้นภาษีสินค้าอเมริกันเข้าจีน เป็นการยันกลับมาตรการของทรัมป์

      จีนมุ่งเพิ่มอัตราภาษีของสินค้าการเกษตรและอื่นๆ ที่ผลิตจากหลายรัฐอันเป็นฐานเสียงของทรัมป์  เพื่อเป็นการกดดันทรัมป์ให้เห็นว่าจีนจะไม่ยอมถอยง่ายๆ และจะเจาะไปที่จุดอ่อนทางการเมืองของทรัมป์เอง

      ทรัมป์รู้ดีว่าลีลามวยของจีนไม่ธรรมดา เพราะเมื่อกลายเป็นเรื่องของตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว จีนก็เลือกที่จะอัดกลับด้วยหมัดที่พุ่งตรงไปที่จุดอ่อนทางการเมืองที่สุดของทรัมป์

      อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นการ แทรกแซงกิจการภายใน ของสหรัฐฯ ได้หรือไม่

      จีนถือว่าทรัมป์เป็นคนปล่อยหมัดเรื่องขึ้นภาษีมาก่อน จีนก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะสวนกลับไป อย่างนี้ปักกิ่งไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซงหรือก้าวก่ายกิจการภายในของสหรัฐฯ แน่นอน

      ทรัมป์อ้างอีกว่าจีนให้หนังสือพิมพ์ China Daily ได้ซื้อเนื้อที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์ Des Moines  Register และอื่นๆ ในบางรัฐที่เป็นฐานเสียงของทรัมป์ โดยเอาโฆษณาชวนเชื่ออำพรางเป็นเนื้อหาข่าว

      ประเด็นนี้ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะการซื้อเนื้อที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์อเมริกันนั้น มีการระบุว่าเป็นเนื้อที่โฆษณาซึ่งไม่ใช่ข่าวอย่างชัดเจนอยู่แล้ว และธุรกิจของอเมริกันเองก็ใช้วิธีการเช่นนี้ในสื่อหลักของสหรัฐฯ เป็นประจำ

      เป็นที่รู้กันว่าหนังสือพิมพ์จีนฉบับนี้เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน และใช้งบประมาณซื้อเนื้อที่โฆษณาและตีพิมพ์บทความที่สนับสนุนจีนอย่างเปิดเผย คนอ่านรู้ว่าข้อความเหล่านั้นมาจากรัฐบาลจีน  ต้องใช้วิจารณญาณว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อมากน้อยเพียงใดอยู่แล้ว

      บริษัทที่รับจ้างจำหน่ายจ่ายแจกหนังสือพิมพ์ China Daily ในอเมริกาจดทะเบียนเป็น foreign  agent หรือ ตัวแทนต่างชาติ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนบริษัทอเมริกันอยู่แล้ว

      ที่น่าแปลกไม่น้อยอีกประเด็นหนึ่งคือ ทรัมป์ไม่เคยประกาศว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เลย ทั้งๆ ที่หน่วยข่าวกรองทั้งหลายของอเมริกายืนยันตรงกันว่า มีหลักฐานชัดแจ้งว่ารัสเซียกระทำการที่เชื่อได้ว่าเป็นความพยายามที่จะก้าวก่ายเพื่อให้ทรัมป์ชนะฮิลลารี คลินตันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

      เพราะทรัมป์บอกว่าเขากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเป็น เพื่อนรัก กัน

      และวันนี้ทรัมป์ประกาศว่าเขากับคิม จองอึน ตกหลุมรัก กันแล้วด้วย

      ผมต้องกลับไปดูหนังเรื่อง บ้าก็บ้าวะ อีกรอบแล้วกระมัง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"