ร้อยเรียง13ภาพมหัศจรรย์เมืองไทยทำปฏิทินปี 62


เพิ่มเพื่อน    

 

     หากจะพูดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียก็คงไม่ได้ผิดไปจากความจริงมากนัก เพราะประเทศไทยมีต้นทุนทางธรรมชาติที่หลากหลายทั้งภูเขา ทะเล ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีศิลปะ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่ถูกผสานกับความเจริญของบ้านเมืองแฝงเอาไว้อยู่ทุกซอกทุกมุมของประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้อีกด้วย ซึ่งบางแห่งอาจเป็นที่รู้จักแล้ว หรือบางแห่งอาจจะยังไม่เคยมีผู้ใดรู้มาก่อนก็เป็นได้

      เหมือนกับภาพถ่าย 13 ภาพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการประกวดภาพถ่ายเพื่อจัดทำปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2562 ในหัวข้อ “มหัศจรรย์เมืองไทย เก๋ไก๋ทุกมุมมอง” ที่จัดขึ้นโดยสมาคมภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ล้วนแต่เป็นภาพถ่ายที่เล่าถึงความหลากหลายดังที่กล่าวมาข้างต้นและมีความสวยงาม นำเสนอมุมมองแปลกใหม่ในเมืองไทยที่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจไม่เคยได้เห็นหรือได้รับรู้มาก่อน ซึ่งทั้ง 13 ภาพถูกเลือกว่าเป็นภาพที่ดีที่สุดจากหมื่นกว่าภาพที่ส่งเข้ามาในโครงการ

 

     

 

     ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เผยว่า สำหรับโครงการประกวดภาพถ่ายเพื่อจัดทำปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการเดินทางและบันทึกภาพแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยส่งผลงานภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวมีความหลากหลาย อาทิ การท่องเที่ยวธรรมชาติ การท่องเที่ยวทางน้ำ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยวโดยชุมชน การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงกีฬา กิจกรรมหรืองานประเพณี รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสิ่งปลูกสร้างในยุคใหม่ ซึ่งแต่ละคนที่ส่งเข้ามาล้วนแต่มีความรู้ ความเข้าใจ และมุมมองที่แตกต่างกันออกไป โดยมีประชาชนให้ความสนใจร่วมส่งภาพเข้าประกวดมากถึง 10,656 ภาพ และได้คัดสรรให้เหลือเพียง 124 ภาพ ซึ่งจากทั้งหมดนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกให้ 13 ภาพได้รับรางวัลชนะเลิศด้วยตนเอง

 

      สำหรับผลงานภาพถ่าย “มหัศจรรย์เมืองไทย เก๋ไก๋ทุกมุมมอง” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 13 ภาพ ได้รับโล่รางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท ในแต่ละภาพมีความมหัศจรรย์และเก๋ไก๋ตามมุมมองของคนถ่ายอย่างน่าสนใจ เช่น ภาพถ่ายทางธรรมชาติผสานวิถีชีวิตดั้งเดิมคนไทย ของนางสาวโฉมผกา รอดภัย ที่ได้ไปถ่ายภาพหมู่บ้าน ต.บางใบไม้ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เจ้าตัวอธิบายถึงภาพนี้ว่า ได้ถ่ายตอนไปกับเพื่อนในทริปถ่ายภาพทริปหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนส่งเข้าประกวด ตนส่งเข้าร่วมโครงการหลายภาพ หลายแบบ แต่ภาพที่ได้รับรางวัลเป็นภาพของลำคลองหมู่บ้านที่สองข้างทางถูกรายล้อมด้วยสีเขียวของต้นจาก โค้งลงมาหากันทั้งสองฝั่ง ทำให้มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ ตรงกลางมีแสงส่องลอดออกมาจากปล่อง มองเห็นชาวบ้านกำลังพายเรือด้วยท่าสุดคลาสสิก

      " ถ้าหากสังเกตดีๆ ตรงกลางที่เป็นช่องจะเหมือนกับดวงตาของคน คิดว่าดวงตาที่มองเห็นในภาพทำให้รู้สึกถึงความมีพลัง และต้องการจะสื่อสารให้ได้เห็นว่าที่นี่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดีที่สุด นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติ ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนแถวนั้นด้วย คลองนี้ในทุกๆ เช้าจะมีพระบิณฑบาต มีชาวบ้านพายเรือลำเลียงผลไม้ อาหาร เรียกว่า เสน่ห์ที่น่าหลงใหล และได้ยินมาว่าจะมีตลาดน้ำประชารัฐเกิดขึ้นที่นี่ทุกวันอาทิตย์ด้วย" โฉมผกา เล่า

 

      ไม่เพียงเท่านี้ บางภาพก็ชวนให้ผู้ชมเกิดความสงสัยถึงองค์ประกอบและความหมายที่ซ่อนในภาพ เหมือนอย่างภาพถ่ายหมู่บ้านปากประ จ.พัทลุง ของนางสาวประกาย หะยีวามิง ที่มองดูแบบผ่านตาพอจะเดาได้ว่าเป็นภาพที่ต้องการสื่อถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน แต่ความหมายที่เจ้าของภาพต้องการจะสื่อมีมากกว่านั้น

 

 

      เจ้าของภาพ เล่าให้ฟังว่า ภาพนี้คือภาพถ่าย ‘ยอ’ เครื่องมือจับปลาของชาวประมงพื้นบ้าน หรือประมงอนุรักษ์ของชาวบ้านหมู่บ้านปากประ พัทลุง ที่กำลังยกสูงขึ้นเหนือน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ โผล่ขึ้นมา ภาพนี้หากมองในมุมท่องเที่ยว แน่นอนว่าต้องเป็นวิถีชีวิตของคนไทยภาคใต้ แต่จริงๆ แล้วตนต้องการอยากให้คนได้เห็นความนิ่ง สงบ ที่ปรากฏในภาพมากกว่า โดยใช้วิธีการถ่ายภาพที่รอให้น้ำในแม่น้ำนิ่งที่สุด ทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบในภาพก็นิ่งด้วย ที่ทำแบบนี้เพราะว่าอยากนำเสนอให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สงบ ปลอดภัย นักท่องเที่ยวที่มาจะได้รู้สึกสบายใจ เชื่อว่าต่างชาติส่วนใหญ่ชอบความสงบอยู่แล้ว จริงๆ ที่หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยเรือคอยรับ-ส่งนักท่องเที่ยว แต่ตนไม่เลือกถ่ายตรงนั้น เพราะไม่อยากให้มองเป็นภาพที่ยุ่งเหยิง วุ่นวายมากนัก

      นอกจากนี้ ท่ามกลางของภาพที่เสนอภูมิทัศน์ วิถีชีวิต ความงามของประเทศไทย ก็ยังมีภาพภาพหนึ่งที่ผู้ชมอาจจะตั้งคำถามกับเจ้าของภาพ ว่าถ่ายมาได้อย่างไร ภาพนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยด้วยหรือ เพราะแม้แต่ตัวเจ้าของภาพเองยังบอกว่าภาพของเขาอาจเป็นภาพที่ทำให้คณะกรรมการแปลกใจถึงเลือกให้ได้รางวัล ภาพที่กล่าวถึงคือภาพวาฬโผล่เหนือน้ำทะเลท่ามกลางฝูงนก ที่ถูกถ่ายโดยนายศุภชัย วีรยุทธานนท์ ช่างภาพอิสระผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพใต้ท้องทะเล

 

      เขาเล่าว่า ภาพนี้เกิดขึ้นที่บางตะบูน จ.เพชรบุรี มาจากความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง เดิมเป็นช่างภาพที่ถ่ายภาพกับท้องทะเลอยู่แล้ว แต่ภาพวาฬนี้มาจากการอ่านสารคดีเกี่ยวกับวาฬ แล้วมีความใฝ่ฝันอยากจะออกไปพบของจริง ไปเห็นวิถีชีวิตของวาฬด้วยตนเอง พอรู้ว่าที่เมืองไทยก็มีที่บางตะบูน จึงได้ออกเดินทางไปพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนท้องถิ่น เดินเรือออกไปหลายกิโลเมตรจากฝั่ง และในการเดินทางของใช่ว่าไปถึงจะพบเลย ใช้เวลาหลายวันกว่าจะเจอ วันไหนไม่เจอก็กลับไปแล้วมาใหม่วันรุ่งขึ้น จำไม่ได้ว่าภาพนี้ถ่ายเมื่อใด จำได้คร่าวๆ เพียงแค่ว่าถ่ายในฤดูฝนเมื่อไม่นานมานี้ และการถ่ายภาพนี้ช็อตเดียวก็ค่อนข้างมีความหมาย เพราะไม่ได้เจอง่ายๆ ที่จะได้เห็นวิถีชีวิต พฤติกรรมการกินของวาฬบ่อย ตนรู้สึกว่าในเมืองไทยยังมีธรรมชาติทางทะเลที่น่าทึ่งอยู่ ขณะเดียวกันการได้ออกไปถ่ายภาพนี้จริงๆ ทำให้เราได้รับรู้บางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่เคยอ่านในสารคดี

 

      อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายที่เข้ารอบโครงการทั้งหมด 124 ภาพ จะมีการจัดแสดงที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 4-6 ธ.ค.2561 นี้ ส่วนภาพชนะเลิศทั้ง 13 ภาพ จะถูกนำไปจัดทำปฏิทิน ททท.ประจำปี 2562 โดยร้อยเรียงภาพให้สอดคล้องกับเทศกาลฤดูกาลท่องเที่ยวในแต่ละเดือน พร้อมทั้งนำภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลต่างๆ มาจัดทำสื่อเผยแพร่หลากหลายรูปแบบของ ททท.ต่อไป

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"