นานทีจะเห็น “ศุภลักษณ์ อัมพุช” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ลงมาประกาศการลงทุน หลังจากที่เมื่อประมาณสัก 3 ปีก่อนได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” การผนึกกำลังของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาสดิ เอ็มโพเรี่ยม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ ใจกลางสุขุมวิท รวมถึงโครงการแบงค็อก มอลล์ บนถนนบางนา-ตราด โครงการบลูพอร์ต หัวหิน และโครงการบลูเพิร์ล ภูเก็ต จะเห็นได้ว่ารูปแบบของโครงการส่วนมากจะยังคงเป็นห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งของเดอะมอลล์อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เธอกำลังจะก้าวเข้ามาสู่การเป็นควีนแห่งธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์
    พันธมิตรใหม่ล่าสุดมาไกลจากต่างแดนนามว่าเออีจี  (AEG) มาทำความรู้จักกันก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน โดยข้อมูลของบริษัทคร่าวๆ มีนายอดัม วิลเคส ประธานบริษัท เออีจี (เอเชีย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า AEG เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในการบริการจัดการเวิลด์คลาสอารีน่าทั่วโลก อาทิ THE O2 ARENA ในอังกฤษ, THE SPIRIT CENTER ในสหรัฐอเมริกา และ THE MERCEDES-BENZ ARENAS ในเยอรมนี รวมถึงการจัด WORLD ENTERTAINMENT และ SPORTS EVENTS ต่างๆ โดยศิลปินระดับโลก อาทิ JUSTIN BIEBER, CELINE DION, KATY PERRY, ED SHEERAN, TAYLOR SWIFT, METALICA และ THE ROLLING STONES ดูจากรายชื่อศิลปินแล้วก็ไม่ธรรมดาเลย
    อดัมยังบอกอีกว่า ได้มองเห็นศักยภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีการเติบโตทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ ธุรกิจการค้า การลงทุน รวมถึงธุรกิจบันเทิงและไมซ์อย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี จึงมีนโยบายที่จะเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ โดยเดอะมอลล์ กรุ๊ป คือพันธมิตรที่มีศักยภาพภาพ และวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันนั่นเอง
    ถามว่าหลังจากร่วมมือกันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยบ้าง จากมูลค่าการลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท ในเรื่องนี้เจ้าแม่เดอะมอลล์ได้ให้คำตอบว่าประเทศไทยจะมีเวิลด์ คลาส อารีน่าเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่แห่งเดียว แต่เป็น 2 แห่งที่กำลังจะดำเนินงานก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดตัวปี 2564-2565 ประกอบด้วย EM LIVE ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มสเฟียร์  มีความจุ 6,000 ที่นั่ง และ BANGKOK ARENA ตั้งอยู่ที่โครงการแบงค็อก มอลล์ ด้วยความจุ 16,000 ที่นั่ง
    ประเทศไทยกำลังจะมีอารีน่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และดีที่สุดในเอเชีย โดยทาง AEG ได้ให้ข้อมูลว่าตามมาตรฐานเวิลด์คลาส อารีน่า ตอนนี้ของเอชียมีเพียงแค่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเท่านั้น ขณะที่อีกหลายแห่งก็ถูกสร้างมานานมากกว่า 20-30 ปีแล้ว และรองรับการจัดงานได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่สำหรับโครงการทั้ง 2 แห่งที่กำลังจะเกิดขึ้นดังกล่าว สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งการจัดงานคอนเสิร์ต งานศิลปะ หรือแม้แต่กีฬาระดับโลก ก็สามารถผลัดเปลี่ยนการจัดงานได้อย่างทันท่วงที
    อาจจะมีคำถามว่าแล้วความเป็นเวิลด์คลาส อารีน่า มีมาตรฐานอย่างไรบ้าง ก็ต้องบอกว่ามีหลายอย่างประกอบร่วมกันที่จะส่งเสริมให้อารีน่าแห่งนั้นมีมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ดี การเดินทางและคมนาคมต้องสะดวก ขณะเดียวกันเรื่องของความจุของอารีน่าก็ต้องใหญ่เพียงพอต่อความต้องการ อาทิ หากมีศิลปินชื่อดังระดับโลกมา ก็ต้องมีความจุที่พอกับดีมานด์ของผู้บริโคที่ต้องการเข้าชม หรือสามารถขนโชว์ของศิลปินนั้นๆ มาในอารีน่าได้ และที่สำคัญคือประสบการณ์จากการเข้าชมที่จะได้รับกลับไป
    นี่คงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยให้มีความน่าดึงดูดจากสายตาคนทั่ว หรือกลายเป็นไอคอนิค แลนมาร์ค ที่เรียกลูกค้าทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งหากโครงการดังกล่าวสามารถเปิดให้บริการได้ตามกำหนด ก็จะช่วยสร้างงานหลายตำแหน่ง อันมีส่วนในการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับธุรกิจบันเทิงของประเทศไทยสู่ระดับโลกในอนาคต
    “ศุภลักษณ์ อัมพุช” เธอผู้มีความหลงใหลในเสียงดนตรีและความบันเทิงอยู่แล้ว การเดินทางเพื่อไปดู World Class Arena ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นแอลเอ ลาสเวกัส นิวยอร์ก เบอร์ลิน ดูไบ เซี่ยงไฮ้ หรือออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอยู่ภายใต้การดำเนินการของ AEG แทบทั้งสิ้น ธุรกิจบันเทิงดูเหมือนจะไม่ได้ถูก “Disrupt” ด้วยเทคโนโลยี การมีพาร์ตเนอร์ระดับโลก เมืองไทยเองก็ยังมีดีมานด์หรือความต้องการ ก็คงต้องติดตามกันว่าหลังจากโครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว จะทำให้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมบันเทิงในไทยไปในทิศทางใด.

รุ่งนภา สารพิน