ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย - นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดโครงการ สหพัฒน์แอดมิชชั่น ครั้งที่ 21 พร้อมทั้งกล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญกับนักเรียนอย่างมาก เพราะเป็นการติวช่วงใกล้สอบ และการติวแบบเข้มข้นแก่เด็ก นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้แล้ว ยังมีการศึกษาวิจัยมากมายว่าเด็กที่มาทบทวนความรู้มีผลคะแนนดีกว่าเด็กที่ไม่มาเรียน ซึ่งรัฐบาลดีใจที่เอกชน อย่าง สหพัฒน์ และเนชั่น ได้ดำเนินการโครงการมานี้ 21 ปี มีการพัฒนารูปแบบการเตรียมความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัยให้เด็กอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้สามารถติวให้เด็กแสนกว่าคน และหลังจากจบกิจกรรม 6 วันจะมีการเปิดออฟไลน์ให้เด็กได้กลับมาทบทวนความรู้อีกด้วย

"จริงๆ ต้องบอกว่ารัฐบาลทำตามเอกชนในการจัดติวฟรี คือ โครงการติวฟรีดอทคอม ที่มีติวเตอร์ชั้นนำ เช่นเดียวกับในโครงการสหพัฒน์ แอดมิชชั่น และสามารถดูได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้ามีหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนช่วยกันเตรียมพร้อมทบทวนความรู้ให้เด็กทุกคนเข้าสู่การศึกษาขั้นสูง จะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเด็กที่ครอบครัวฐานะร่ำรวยจะเรียนกวดวิชาที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับเด็กที่ไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวยโครงการดังกล่าวจะเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงติวเตอร์ดีๆ ได้ ดังนั้น ขออวยพรเด็กทุกคนให้โชคดี ได้เข้าคณะตามที่ตนเองต้องการ และอยากให้กังวลเรื่อง TCAS น้อยลง เพราะมีการประชุมปรับปรุงให้เหมาะสมแล้ว ขอให้ทุกคนมุ่งมั่น ตั้งใจ และทำอะไรขอให้จริงจัง เมื่อฟังติวเตอร์แล้วให้ไปถ่ายทอด คนที่เก่งกว่าให้ไปสอนเพื่อน และควรทบทวนความรู้สม่ำเสมอ"รมว.ศธ.กล่าว

ด้านนายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนในนามของสหพัฒน์พิบูล ผลิตภัณฑ์มาม่า บิสชิน มองต์เฟลอและริชเชส มีความภูมิใจและดีใจที่ได้จัดโครงการดังกล่าว ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 1-6 ตุลาคมนี้ ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และยังได้มีการถ่ายทอดสดการสอนตลอดทั้ง 6 วัน ผ่านสัญญาณบรอดแบรนด์ไปยังโรงเรียน และมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมกว่า 150,000 คน ได้ทบทวนความรู้กับติวเตอร์ชื่อดัง เป็นการเตรียมความพร้อมในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และเปิดโอกาสความเท่าเทียมทางการศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สหพัฒน์ เล็งเห็นความสำคัญทางการศึกษา โอกาสของเด็กไทยทุกคนต้องเท่ากันซึ่งการเตรียมความพร้อมติวเข้มดังกล่าว จะเป็นการทำให้เด็กได้รับความรู้จากติวเตอร์แนวหน้าของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้ทุกคนมีความพยายามมากขึ้น และดีใจที่มีเด็กเข้าร่วมจำนวนมาก ทุกคนมีความมุ่งมั่น ขยัน และตั้งใจเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่ต้องการ ทั้งนี้ ปีนี้มีการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ค้นหาศักยภาพ ความถนัด อาชีพของตนเอง โดยจะมีพี่ๆ ที่จบการศึกษาในอาชีพต่างๆ มาแนะแนวบอกเล่าแต่ละอาชีพเป็นอย่างไร เพราะการสนใจเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไร เป็นการวางแผนการเรียนในอนาคต อย่างไรก็ตาม ตลอด 21 ปี สหพัฒน์ภูมิใจที่ได้ดูแลเด็กไทย และขอขอบคุณพันธมิตรที่ร่วมจัดโครงการดังกล่าว