คสช.และทหารซื่อๆ ระวังเหลี่ยมของตาย


เพิ่มเพื่อน    

      เห็นกระแสข่าวช่วงหลังมองว่าพรรคภูมิใจไทย ทำท่าจะฮั้วกับทหารเป็นที่เรียบร้อยหลังมีการจุดประเด็นแบ่งงานกันเล่น  

      โดยฝั่งพรรคพลังประชารัฐมีแต่ภาพนักการเมืองสีขาว เข้ามาสังกัด อีกด้านโยนบทผู้ร้ายให้ “ครูใหญ่” แห่งพรรคภูมิใจไทย หรือ "เนวิน ชิดชอบ" แบกรับนักการเมือง “สีเทา” หลังตระกูลสะสมทรัพย์ “บ้านใหญ่นครปฐม” และ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” จากซุ้มอุทัยธานี เข้าร่วมงานกับพรรค   

      ประกอบกับก่อนหน้านี้ “นายเนวิน” และ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยเปิดบ้านในเมืองบุรีรัมย์ต้อนรับ “ครม.บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้าน 3 หมื่นคนมาส่งเสียงเชียร์กลางแดดจ้าสนับสนุน “บิ๊กตู่” อย่างยิ่งใหญ่ 

      ตอนนั้นคาดกันว่าพรรคภูมิใจไทยคงเสร็จ คสช.ไปแล้ว พร้อมท่าทีปิดปากเงียบไม่วิจารณ์ทหาร ก้มหน้าก้มตาทำนโยบายอย่างเดียว  

      ทำให้คิดว่าสุดท้ายแล้วอาจเหมือนนักการเมืองที่อาสารับใช้ทหารผ่านพรรคพลังประชารัฐ เช่นกลุ่มสามมิตรที่มีตัวชูโรงอย่าง "ภิรมย์ พลวิเศษ" และ "แรมโบ้อีสาน" สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีต นปช.สายฮาร์ดคอร์ และนักการเมืองอื่นๆ ที่ภาพก็ไม่ได้ขาวโอโม่ บางคนมีคดีความ หนี้สินรุงรัง แถมเป็นมาเฟียธุรกิจมืดในท้องถิ่น ที่รอสัญญาณเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

      ล่าสุดยังมี "อุตตม สาวนายน" รมว.อุตสาหกรรม  นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมรัฐมนตรีอีก 3 คนมาเป็นกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยกลุ่ม กปปส. อาทิ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกฯ, นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองถ้วนหน้า    

       "สนธยา คุณปลื้ม" มิพักถูกโยกไปนั่งตำแหน่งนายกฯ เมืองพัทยาด้วยมาตรา 44 ท่ามกลางข้อกังขาผลประโยชน์ต่างตอบแทน ยกทีมตระกูล “คุณปลื้ม” ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ

      บนเครื่องหมายคำถาม “มารยาททางการเมือง” ที่ดังมาทั่วสารทิศ ถามหาสปิริต หลังถูกปั้นว่าเป็นคนดีสุ่มเสี่ยงใช้อำนาจเพื่อตัวเองและพวกพ้อง เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ ซ้ำซาก

      ยังโยงภาพการจับมือล่วงหน้าระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ที่เคยประกาศไม่เคยโกงสักบาท    

      รวมทั้งความพยายามดึงพรรคภูมิใจไทยแสดงตัวชัดเจนประกาศสนับสนุนทหาร เพื่อกดดันพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้ปีก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่กำลังเล่นบทกั๊ก ด้วยท่วงทำนองจะไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย สกัด คสช.

      กลับมาที่ "อนุทิน" แม้คอการเมืองจะอึดอัดท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ แต่หากดูสถานการณ์พรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่าเนื้อหอม ส.ส.เกรดเอเข้ามาซบอย่างต่อเนื่อง จึงไม่จำเป็นต้องแตกหักกับใคร รอเพียงการเทียบเชิญร่วมรัฐบาลจากทุกฝ่าย

      ด้วยการบาลานซ์น้ำหนักว่า อย่าเพิ่งตัดสินว่าพรรคภูมิใจไทยจะไปอยู่ฝ่ายใด จนกว่าจะหลังปิดหีบเลือกตั้ง พร้อมเตือน...

      “ใครจะมาดูดใครง่ายๆ ได้อย่างไร ใครดูดติดคอตายแน่นอน” เสี่ยหนูกล่าวไว้  

       "ศุภชัย ใจสมุทร" รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้ว่าไม่มีการฮั้วกับพรรคการเมืองใด ในแต่ละเขตจะแข่งขันกันอย่างเต็มที่ พร้อมปฏิเสธภาพแหล่งรวมนักการเมืองสีเทา เพราะทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินของประชาชน  

      สอดรับกับกระแสลือในแวดลงการเมือง และสื่อบางค่ายเคยปูดว่า นายเนวิน แม้จะมีความสัมพันธ์อันดีกับบิ๊กคสช. ผ่านความสัมพันธ์ทางการเมืองและกลุ่มทุนคิงเพาเวอร์   

      แต่อีกด้านก็ไม่ได้ตัดขาดกับ นายทักษิณ อย่างชัดเจน และเป็นที่รับรู้กันในพรรคภูมิใจไทยว่า “ครูใหญ่” ยอมให้เด็กเก่าบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งไม่ใช่เลือดแท้ยุคกลุ่มเพื่อนเนวิน “ทำงานในพรรคในขณะนี้”

      เมื่อ “บิ๊กเน” ต้องการรู้ความเคลื่อนไหวในระบอบทักษิณและพรรคเพื่อไทย มีหรือจะไม่ทราบ ในทางกลับกัน หากนายทักษิณอยากทราบเรื่องภายในพรรคภูมิใจไทย มีหรือจะไม่รู้... ท่าทีเช่นนี้สะท้อนให้นัยทางการเมืองบางอย่างใช่หรือไม่

      นอกจากนี้ “เสี่ยหนู” ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนายทักษิณก็พร้อมจะเป็นกาวใจโซ่ข้อคล้องประสานให้ “ครูใหญ่เนวิน” และ “คนแดนไกล” กลับมาสวมกอดกันอีกครั้งหากสถานการณ์ข้างหน้าเอื้ออำนวย  

      คสช.และทหารซื่อๆ เดิมอาจคิดว่าค่ายสีน้ำเงินเป็นของตาย แต่ดูแล้วอาจไม่ทันเหลี่ยมเซียนเหยียบเมฆคนภูมิใจไทย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"