ส่อง'เทพโจ๊ก'เหลืออีก 3 ขั้นสู่เก้าอี้'ผู้นำสีกากี'


เพิ่มเพื่อน    

ขอบคุณภาพ:FB สุรเชษฐ์ หักพาล

            
          ใช้ฤกษ์งามยามดี 1 ต.ค.61 "เทพโจ๊ก"พล.ต.ต.สุรเขษฐ์ หักพาล รักษาการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รรท.ผบช.สตม.) เดินทางเข้าซอยสวนพลู ทำพิธีสักการะบูชา”หลวงพ่อเข้าเมือง”สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อความเป็นศิริมงคล ภายหลังพิธีเข้ารับตำแหน่งใหม่ป้ายแดง

          ขึ้นเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” ติดยศ"พล.ต.ท."!!!

          พร้อมกับรับมอบหน้าที่ "ผบช.สตม." ต่อจาก"บิ๊กบัว"พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น  ผบช.สตม. ที่โยกไปเป็น รักษาการแทน ผบช.น. 

          ไฮไลท์การรับมอบตำแหน่ง "ผบช.สตม."ครั้งนี้ นอกจาก "เทพโจ๊ก"จะโชว์ความฟิต โชว์ศักยภาพในการทำงาน ด้วยการประกาศกวาดล้างนายหน้าที่มีพฤติกรรมในการเรียกเก็บเงินค่าส่วนต่างกับกลุ่มทัวร์ต่างๆ นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมผ่านแดนหรือวีซ่า และนำกฎหมายตามพ.ร.บ.ฟอกเงินมายึดทรัพย์อย่างจริงจังแล้ว

          การเดินทางมาของรุ่นพี่ 2 อดีตผบช.สตม. ทั้งพล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล และพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร นำแจกันดอกไม้มามอบให้พล.ต.ต.สุรเชษฐ ถึงห้องทำงาน แสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่งใหม่ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะมีไม่บ่อยนักที่"รุ่นพี่" เป็นถึงอดีตผบช.สตม. จะมาแสดงความยินดีกับน้องถึงห้องทำงาน ทว่านี่มาถึง 2 อดีตผบช.สตม. ตอกย้ำฉายา"เทพโจ๊ก"ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ได้มาจากฝีมือล้วนๆ

          ใครจะไปคิดว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ จะมาผงาดในยุคนี้ ยุคที่คณะคสช. ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเป็นรัฐบาลไม้เบื่อไม้เบากับตระกูลชินวัตร  เพราะตามประวัติ "เทพโจ๊ก" เป็นลูกชายของตำรวจชั้นประทวนที่ขับรถให้พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ พ่อของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. และ “คุณหญิงอ้อ”คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกว่าเกิดและเติบโตมาจากบ้านดามาพงศ์ก็คงไม่ผิด

           แต่ชีวิตก็ไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ ด้วยบุคคลิกและมนุษย์สัมพันธ์ของพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ จนได้ฉายา "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" จากการนำชื่อเล่นมาผสมกับบุคคลิก ก็ช่วยส่งให้ผู้หลักผู้ใหญ่ชื่นชอบ จนเข้าไปใกล้ชิดครอบครัว"วงษ์สุวรรณ" และนำมาซึ่งความไว้ใจและชื่นชอบในตัว"เทพโจ๊ก"ของ"บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

           จากนั้นเส้นทางในแวดวงสีกากีของ"บิ๊กโจ๊ก"ก็เหมือนติดปีก ขยับติดยศ พล.ต.ต. เป็น ผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ประสานงานนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย) ซึ่งถือเป็นนายพลที่อายุน้อย เพราะพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ จบนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.47) เพียงปีเดียวก็โยกมาเป็น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) พร้อมกับได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร รับผิดชอบงานพิเศษมากมาย ทำให้ชื่อเสียง "บิ๊กโจ๊ก"ติดหูชาวบ้าน เดิรนสายจับกุมคดีต่างๆมากมาย โดยเฉพาะแก๊งคลอเซ็นเตอร์ ก่อนที่จะโยกมากเป็น ผู้บังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ(ผบก.สปพ.) หรือ ผู้การฯ 191 

           หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่การแต่งตั้งวาระประจำปี ก.ตร. ก็ไฟเขียวให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขึ้น รองผบช.น. แต่ขั้นตอนต่างๆยังไม่เสร็จสิ้น เพียงไม่กี่วันกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) ถูกตั้งขึ้นมา โดย "บิ๊กโจ๊ก" ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน บช.นี้ขึ้นมา ก.ตร.ก็มีการแต่งตั้งอีกครั้ง ปรากฎว่าในการแต่งตั้งลง บช.ทท. ก็ปรากฎชื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ไปขึ้นเป็น รองผบช.ทท. เรียกว่า มีชื่อผ่าน ก.ตร. เป็น รองผบช.น. เพียงไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง ก็โยกย้ายได้ตามใจชอบ จนได้รับการขนานนามว่า "หล่อเลือกได้"

            นั่งทำงานในตำแหน่ง รองผบช.ทท. เพียง 1 ปี แต่ก้โชว์ผลงานจับโน้นจับนี้ จนถูกกระแนะกระแหนว่านึกว่าเป็น ผบ.ตร. เพราะไม่ว่าคดีอะไรเป็นต้อง "โจ๊ก" ร่วมเอี่ยวทุกงาน กระทั่งมาถึงการแต่งตั้งนายพล วาระประจำปี 2561 ที่ผ่านมา ชื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ก็ถูกคาดเดาไปนั่งเก้าอี้เป็น "ผบช." หน่วยใหญ่ๆทั้ง กองบัญชากรตำรวจนครบาล(บช.น.) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) 

            สุดท้ายเจ้าของฉายา "หล่อเลือกได้" ก็ขยับติดยศ พล.ต.ท. ขึ้นเป็น ผบช.สตม.  หน่วยงานระดับพรีเมียมแห่งหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังยึดครองตำแหน่ง "ผบช."ที่หนุ่มสุดในวงการสีกากี ด้วยวัย 48 ปี เพราะเกิดวันที่ 29 ตุลาคม 2513  เหลืออายุอีก 12 ปี ถึงจะเกษียณอายุราชการ

            โดยเส้นทางสีกากีเหลืออีกเพียง 2-3 ขั้น คือ ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผบ.ตร. ก็จะสามารถคว้าเก้าอี้ "ผู้นำสีกากี" ได้แบบไม่ไกลเกินเอื้อม

            อย่างนี้ถ้าไม่เรียก "เทพโจ๊ก" ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"