1ต.ค.61-ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.  กล่าวในการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายและการบริหารงานกระทรวงสาธารณสุข ในการเข้ารับตำแหน่งปลัดสธ.เป็นวันแรก ว่า จากนโยบายนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มองว่าสธ.จำเป็นต้องปัดกวาดบ้านให้สะอาดก่อน ซึ่งตนมั่นใจว่าคน สธ. เองก็ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน หากเราเห็นการทุจริตในกระทรวงฯ หรืออะไรก็ตามที่มีปัญหาก็ขอให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์และเป็นเจ้าหน้าที่ของสธ. แจ้งมาที่ตนโดยตรง เพื่อจัดการโดยเด็ดขาด สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสตนจะประเมินให้ได้ความดีความชอบสูงสุด คือ 6 %  (ขึ้น 2 ขั้นระบบราชการ) โดยอาศัยอำนาจของปลัดสธ.  ซึ่งเป็นไปตามระเบียบราชการ เพราะหากได้ยา ได้เครื่องมือไม่มีคุณภาพ ก็ส่งผลต่อประชาชนได้

“ดังนั้น หากหน่วยงานในสาธารณสุข หน่วยงานใดทุจริต มีการติดต่อกับบริษัทยา เครื่องมือแพทย์ หรือส่อทุจริตใดๆ ให้มาแจ้งที่ผมได้โดยตรง หากไม่แจ้งก็มีความผิดด้วย เพราะถือว่าละเว้นหน้าที่ ขอให้พวกเราอย่ากลัว เราเป็นราชการ เราเป็นบุคลากรสาธารณสุข เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เราไม่สามารถยอมรับเรื่องทุจริตได้ มาแจ้งผมได้เลย ผมพร้อมจะปกป้อง ขอให้ยึดมั่นซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าของส่วนตัว” ปลัดสธ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าขณะนี้ใน สธ. มีการทุจริตหรือ นพ.สุขุม กล่าวว่า ยังไม่มี แต่เราต้องเน้นเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นในกระทรวงนี้ ว่าบุคลากรเรา ไม่มีชื่อเสียงเสียหายด้านนี้ ทุกคนทำเพื่อประโยชน์พี่น้องทุกคน

เมื่อถามว่าจะมีการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับแต่ละวิชาชีพอย่างไร นพ.สุขุม กล่าวว่า ทุกวิชาชีพมีความสำคัญที่ต้องร่วมกันทำงาน ไม่สามารถที่จะอยู่วิชาชีพโดดๆได้ พวกเราต้องทำงานเป็นทีม เป็นพี่น้องกัน ทุกคนมีศักดิ์ศรีในการเป็นวิชาชีพเหมือนกัน เหมือนมือมีนิ้วแตกต่างกัน แต่ก็ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนเหมือนกัน โดยเราจะต้องทำให้เกิดศักดิ์ศรีในวิชาชีพ คุณค่าในการเป็นบุคลากรที่ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น พวกเราเป็นลูกของพระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เราทำงานเพื่อประชาชน

“ นอกจากนี้ ในเรื่องความปลอดภัยของบุคลากร บ้านพักต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ จะต้องมีการพัฒนาตรงจุดนี้ เพื่อให้พวกเขามีความสุข จะส่งผลต่อการบริการที่ดี ซึ่งปีนี้งบประมาณที่เสนอก็พยายามปรับปรุงที่อยู่บ้านพักด้วย ส่วนเรื่องการลดความแออัดในโรงพยาบาลก็มีการจัดบริการเป็นเครือข่ายการบริการ เพื่อย้ายจากโรงพยาบาลที่แน่น ไปยังโรงพยาบาลที่แน่นน้อยกว่า ซึ่งก็มีต้นแบบที่โรงพยาบาลอุบลราชธานี ที่สำคัญเราต้องดูแลเรื่องค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเราจำเป็นต้องมีการพัฒนาโดยใช้ข้อมูลวิชาการสนับสนุน” นพ.สุขุม กล่าว.