ขี้ยากระอัก!ขึ้นภาษี2บ. บุหรี่นอกพรวด30/ซอง


เพิ่มเพื่อน    

     ขี้ยากระอัก! คลังไฟเขียวเพิ่มภาษีบุหรี่ซองละ 2 บาท อุดหนุนกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เล็งชง ครม. 2 ต.ค. “ยสท.” ลั่นผลักภาระผู้บริโภคแน่ บุหรี่นอกโวยปรับเพิ่มไม่ต่ำกว่า 50% ขยับ 30 บาท!
     แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า  กระทรวงการคลังได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยงานบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งมีสาระสำคัญให้เก็บเงินจากผลิตภัณฑ์บุหรี่อีกซองละ 2 บาท เพื่อให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นเงินปีละประมาณ 3 พันล้านบาท เนื่องจากเงินที่ได้สนับสนุนจากงบประมาณปีละกว่า 1 แสนล้านบาทไม่เพียงพอ จึงต้องหาแหล่งเงินเพิ่มเติม กระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุขจึงยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว
     แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุด สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และส่งความเห็นกลับมาภายในวันที่ 1 ต.ค.2561 คาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันอังคารที่ 2 ต.ค.2561
     “ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ทำประชาพิจารณ์ พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งมีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นให้เก็บเงินสมทบจากสินค้าบุหรี่ 2 บาทเข้ากองทุนเพียงประเภทเดียว ไม่รวมสินค้าบาปอื่นๆ  อาทิ สุรา เบียร์ และยาเส้น เหมือนกองทุนอื่นที่ตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ ที่จะใช้ภาษีบาปทั้งกลุ่ม” แหล่งข่าวกล่าวและว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยันให้เก็บเงินแต่ภาษีบุหรี่เพียงประเภทเดียว เพราะกระทรวงการคลังเห็นชอบ
     ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตชี้ว่า หากเก็บเงินเข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพ ควรเก็บภาษีบาปทั้งหมด แต่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นผู้ยกร่างกฎหมายให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะกระทบกับผู้ประกอบการบุหรี่อย่างรุนแรง เพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกซองละ 2 บาททันที โดยเฉพาะการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่หลังจากเริ่มใช้อัตราภาษีบุหรี่ใหม่ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2560 ทำให้ยอดขายลดจาก 80% เหลือ 60% จากที่เคยกำไรซองละ 7 บาท เหลือกำไรซองละไม่ถึง 1 บาท หากมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกซองละ 2 บาท จะทำให้ขาดทุนจากการจำหน่ายบุหรี่จำนวนมาก
     “ที่ผ่านมา ยสท.เคยทำกำไรในปี 2560 ได้ 9 พันล้านบาท คาดว่าจะเหลือไม่ถึง 1 พันล้านบาทในปี 2561 และจะขาดทุนในปี 2562 แน่นอน ซึ่งจะกระทบถึงชาวไร่ยาสูบ เพราะที่ผ่านมา ยสท.ลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบฤดูกาลล่าสุดเหลือ 50% แล้ว หากต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกจะทำให้ยอดขายลด ก็จะกระทบกับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่เพิ่ม”
     น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการ ยสท. ยอมรับว่า หาก ครม.เห็นชอบกฎหมายดังกล่าว ยสท.จะผลักภาระส่วนนี้ไปให้ผู้บริโภคทั้งหมด คือ ขึ้นราคาบุหรี่อีกซองละไม่ต่ำกว่า 2 บาท เนื่องจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ ทำให้ยาสูบมีกำไรจากการขายบุหรี่แค่ซองละ 10 สตางค์เท่านั้น ถ้าไม่ปรับราคาขึ้น โรงงานยาสูบก็จะขาดทุน และขายบุหรี่ไม่ได้
     แหล่งข่าวจาก ยสท.กล่าวว่า ปัจจุบันภาษีบุหรี่เก็บตามมูลค่ามวนละ 1.20 บาท และตามราคา 20% สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาท และ 40% สำหรับบุหรี่ที่เกิน 60 บาท โดยในวันที่ 1 ต.ค.2562 จะเก็บอัตรา 40% ทุกราคา ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังแจ้งอย่างไม่เป็นทางการให้ ยสท.รับทราบ จะเลื่อนการปรับขึ้นออกไปอีก 2 ปี หรือในวันที่ 1 ต.ค.2564 แต่หากเก็บภาษีเข้ากองทุนประกันสุขภาพอีกซองละ 2 บาท ผลกระทบก็ไม่ได้ต่างอะไรกับขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% ทุกราคา ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบุหรี่ตั้งต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
    ด้านรายงานข่าวจากบริษัทนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศระบุว่า หากปรับภาษีบุหรี่ คงไม่สามารถเก็บเพิ่มแค่ 2 บาทได้ เนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างภาษีบุหรี่กำหนดให้บุหรี่ที่ราคาไม่เกิน 60 บาท คิดภาษี 20% และมากกว่า 60 บาท คิดภาษี 40% โดยราคาบุหรี่ที่ 60 บาท หากเก็บเพิ่ม 2 บาท จะทำให้ต้องเสียภาษี 40% ทันที ทำให้ราคาบุหรี่เดิมที่ 60 บาท ขยับเป็นไม่ต่ำกว่า 90 บาทต่อซองหรือเพิ่มขึ้นกว่า 50%.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"