ปชป.เปิดหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค 1-5 พ.ย.  ผ่านแอป-จุดลงคะแนน ก่อนชงที่ประชุมใหญ่ 11 พ.ย.เคาะ กก.บริหารชุดใหม่ "หมอวรงค์" ลุยขอเสียงคนสงขลา ขายฝันชาวสวนยางชีวิตดีเท่าเกษตรกรญี่ปุ่น
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค, นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ผู้เข้าแข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ นพ.วรงค์ติดภารกิจลงพื้นที่หาเสียงเลือกหัวหน้าพรรคที่จ.สงขลา จึงได้มอบหมายให้นายสัญญา จันทรัตน์ คนใกล้ชิดนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรค เข้ามาเป็นตัวแทนการประชุม
          จากนั้นเวลา 16.00 น. หลังประชุมนานกว่า 6 ชั่วโมง นายจุรินทร์แถลงผลการประชุมว่า บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยดี โดยทั้งนายอภิสิทธิ์ นายอลงกรณ์ และตัวแทนของ นพ.วรงค์ ต่างยืนยันว่า หากกรรมการบริหารพรรคมีความเห็นและมีมติออกมาเป็นอย่างไรพร้อมที่จะปฏิบัติตามมติทุกประการ เพียงแต่นายอลงกรณ์มีความเห็นเพิ่มขึ้นมา 1 ข้อ คือ จะตัดสินใจลงสมัครหรือไม่ ขอดูเงื่อนไขและผลการประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า 1.ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าการเลือกหัวหน้าพรรคจะใช้วิธีการหยั่งเสียง 2.ผู้สมัครที่เป็นคนใน ต้องมีเสียงรับรองจากอดีต ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย และอดีต ส.ส.ครั้งก่อน แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่จำนวน 20 เสียง ซึ่งในข้อนี้นายอลงกรณ์เสนอว่าให้มีผู้สนับสนุนเพียง 10 เสียง แต่ที่ประชุมให้ยืนที่ 20 เสียง หรือให้สมาชิกรับรองภาคละ 500 คน ส่วนคนนอกที่จะสมัครจะให้เพิ่มจำนวนผู้รับรองเป็น 1 เท่าของคนใน
          3.ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนหยั่งเสียงต้องมีคุณสมบัติคือเป็นสมาชิก 81,000 คนโดยประมาณ ที่มายืนยันตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย.61 และสมาชิกที่จะมาสมัครใหม่ในอนาคตจนถึงวันที่ 15 ต.ค.61 รวมถึงสมาชิกเดิมที่ยังไม่ได้มายืนยัน แต่ไม่เป็นสมาชิกพรรคอื่น 2.5 ล้านคน 4.ใช้วิธีการลงคะแนนเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก หรือผู้ที่ไม่สามารถลงคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ พรรคจะจัดให้มีหน่วยลงคะแนนอย่างน้อยจังหวัดละ 1 หน่วย ในทุกจังหวัดที่มีสมาชิกพรรคอยู่ 5.ให้ผู้สมัครหัวหน้าพรรคตกลงเลือก กกต.ของพรรคจำนวน 5 คน เพื่อมาดูแลทำหน้าที่การหยั่งเสียง และ 6.กำหนดวันที่จะทำการหยั่งเสียง โดยที่ประชุมกำหนดไว้ 5 วัน ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย.นี้
    "ที่ประชุมกำหนดกรอบเวลาในการเลือกหัวหน้าพรรค เริ่มจากการเปิดรับสมัครผู้สนใจเป็นหัวหน้าพรรคเริ่มต้นวันที่ 8 ต.ค. จากนั้น วันที่ 9 ต.ค. จะทำการพิจารณาแต่งตั้ง กกต.พรรคทันที และวันที่ 1-5 พ.ย. เป็นการลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เพื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งในวันดังกล่าวจะได้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะทำให้กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าสิ้นสุดวาระลงทันที"  นายจุรินทร์ระบุ
    ด้านนายอลงกรณ์กล่าวว่า มีแนวโน้มจะตัดสินใจกลับมาพรรคประชาธิปัตย์และลงสมัครชิงหัวหน้าพรรค แต่วันนี้ต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะยังไม่สามารถสมัครสมาชิกพรรคได้ พร้อมยินดีปฏิบัติตามกฎกติกาทุกอย่าง เบื้องต้นนายอภิสิทธิ์เห็นด้วยกับแนวทางที่จะให้สมาชิกและอดีตสมาชิก 2.5 ล้านคนมีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงทั้งหมด รวมถึงแนวทางการดีเบตระหว่างผู้เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค และแนวทางการเสนอชื่อบุคคลที่ได้คะแนนหยั่งเสียงเป็นลำดับที่ 1 ให้ที่ประชุมใหญ่เห็นชอบเพียงชื่อเดียว ส่วนลำดับที่ 2 และ 3 ให้ถอนตัวจากการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ ทั้งนี้ ต้องช่วยกันสร้างสรรค์การเลือกตั้งครั้งแรกในประเทศไทยในระบบไพรมารีฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ให้ถือเป็นที่สุด
     ขณะที่ นพ.วรงค์ พร้อมคณะ "กล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน" นำโดยนายถาวร และอดีต ส.ส.อีกหลายจังหวัด ลงพื้นที่ จ.สงขลา โดยจุดแรกได้เดินทางพบปะสมาชิกพรรคที่บ้านพักของนายถาวร ในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ได้รับการต้อนรับอย่างคับคั่งจากสมาชิกพรรค มีทั้งพวงมาลัยดอกดาวเรืองและดอกกุหลาบ ก่อนจะชี้แจงการท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปลี่ยนแปลงพรรคและประเทศชาติในอนาคต
    ต่อมาเวลา 14.00 น. ได้ลงพื้นที่ที่หมู่ 4 บ้านทอนไม้ไผ่ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง พบปะสมาชิกพรรคที่เป็นชาวสวนยางพารา โดย นพ.วรงค์กล่าวกับชาวสวนยางว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นบทพิสูจน์ว่าประชาธิปัตย์เป็นของประชาชน แต่ถ้าพรรคการเมืองไหนมาจากนายทุนเขาจะทำงานเพื่อนายทุนอย่างเต็มที่ ถ้าพี่น้องอยากเห็นคนมีฝีมือ มีความกล้า ให้คอยดูว่าวันที่เราได้บริหารพรรค จะได้เห็นความกล้าของหมอวรงค์และทีมงานเพื่อนหมอวรงค์ในทุกๆ อย่าง ซึ่งอยากเห็นพี่น้องชาวสวนยาง ชาวนา มีคุณภาพที่ดีแบบประเทศญี่ปุ่นที่เขามีรายได้ที่ดี 
          “ถ้าผมได้รับเลือกตั้งให้นั่งหัวหน้าพรรคและมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายถาวรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล จะได้ดูแลประชาชนทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะปัญหายางพาราจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และเราฝันว่าอีกไม่เกิน 10 ปี ชีวิตของเกษตรกรไทยจะต้องดีขึ้น โดยใน 4 ปีแรก จะเคลียร์เรื่องหนี้เกษตรกรทั้งประเทศลืมตาอ้าปาก และ 4 ปีต่อไปพี่น้องจะเกษตรกรจะยืนได้อย่างมั่นคง หลังจาก 10 ปีแล้ว เกษตรกรจะเข้มแข็งขึ้น ผมบอกเลยว่า ถ้าพี่น้องได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงภายในพรรควันนี้ คุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในอนาคตด้วย” นพ.วรงค์ระบุ
    นายถาวรกล่าวว่า นพ.วรงค์เหมาะสม และที่ผ่านมาทำงานช่วยเหลือประชาชนมานาน ผลงานเด่นคือการเปิดโปงโครงการจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และหากประชาชนเชื่อว่าการเมืองจะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจะได้เข้ามาเลือกหัวหน้าพรรคด้วยตัวเอง.