อินโดนีเซียดิ้นรนค้นหาผู้ที่อาจติดใต้ซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวเมื่อเย็นวันศุกร์ ขณะยอดสังเวยแผ่นดินไหวและสึนามิเพิ่มอย่างน้อย 832 ศพแล้ว รองประธานาธิบดีอินโดนีเซียหวั่นจำนวนอาจพุ่งถึงหลายพัน เจ้าหน้าที่เริ่มฝังศพในหลุมรวมป้องกันเชื้อโรคแพร่ระบาด เร่งอพยพ 32 ชีวิตคนไทย
       สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างคำแถลงของซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 ว่าจำนวนผู้สังเวยชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.5 และสึนามิที่พัดถล่มเมืองชายฝั่งของเกาะสุลาเวสีเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเพิ่มจากยอดเดิม 420 ศพอีกเท่าตัว เป็นอย่างน้อย 832 แล้วในช่วงค่ำวันอาทิตย์ และเจ้าหน้าที่ได้เริ่มฝังศพหมู่รวมกันในหลุมขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค 
       เจ้าหน้าที่กู้ภัยบนเกาะสุลาเวสีกำลังทำงานแข่งกับเวลาและอุปสรรคจากความไม่พร้อมด้านเครื่องมือ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม คาดกันว่าเฉพาะที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองปาลูอาจมีคนติดอยู่ใต้ซากอาคารถึง 60 คน กู้ภัยกล่าวกันว่า พวกเขาได้ยินเสียงคนและเสียงร้องของเด็กดังจากใต้ซากปรักหักพังด้วย
       ผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตต้องพักแรมกลางแจ้งเป็นคืนที่ 3 แล้ว พวกที่สิ้นหวังบางคนปล้นสะดมร้านค้าเพื่อหาอาหาร, น้ำ และเชื้อเพลิง โดยตำรวจได้แต่ยืนมอง อาจเพราะไม่สามารถหรือไม่ประสงค์จะเข้าขัดขวาง รัฐบาลอินโดนีเซียได้แต่เพียงประกาศว่าจะชดเชยแก่เจ้าของร้านค้าที่ถูกปล้นสะดม วิรันโต รัฐมนตรีความมั่นคง แนะนำให้เจ้าของร้านบันทึกรายการสินค้าที่ถูกขโมยไป แล้วรัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้
       หลายคนที่รอดชีวิตได้ออกค้นหาญาติมิตรที่โดนคลื่นยักษ์ซัดสูญหาย บางคนไปเฝ้าอยู่ที่สถานเก็บศพกลางแจ้งที่ศพถูกวางตากแดดร้อนระอุเพื่อรอคอยชี้ศพ
       ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ลงพื้นที่ประสบภัยช่วงบ่ายวันอาทิตย์ และเรียกร้องให้พยายามค้นหากู้ชีพตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม นูโกรโฮยอมรับว่า ปฏิบัติการมีอุปสรรคทั้งจากการติดต่อสื่อสารที่จำกัดและมีเครื่องจักรกลไม่เพียงพอสำหรับการรื้อค้นอาคารที่พังถล่มจำนวนมาก
       รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา กล่าวเตือนว่า จำนวนสรุปผู้เสียชีวิตในเมืองทางเหนือของเกาะสุลาเวสีที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวและโดนคลื่นยักษ์ถล่มนั้น อาจมากถึง "หลายพันศพ" เพราะยังมีอีกหลายเขตที่กู้ภัยยังเข้าไม่ถึง
       สถานีเมโทรทีวีของอินโดนีเซียได้แพร่ภาพถ่ายทางอากาศจากเมืองดองกาลาที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 7.5 เผยให้เห็นบ้านหลายหลังริมชายฝั่งโดนทำลายราบ แต่ชายคนหนึ่งกล่าวว่า พวกชาวบ้านส่วนใหญ่พากันหนีขึ้นที่สูงหลังแผ่นดินไหว 
       สำนักงานจัดการภัยพิบัติกล่าวด้วยว่า ชาวต่างชาติในเมืองปาลูที่คาดว่ามี 71 คนนั้น ส่วนใหญ่ปลอดภัย  แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของชาวฝรั่งเศส 3 คน และเกาหลีใต้ 1 คนที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคารโรงแรม
       เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รายงานอัพเดตสถานการณ์แผ่นดินไหวเมืองปาลู เกาะสุลาเวสี โดยเฉพาะในส่วนของคนไทยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยได้มีหนังสือถึงทางการอินโดนีเซียขอให้อพยพคนไทย 32 คนตามรายชื่อออกมาในโอกาสแรก โดยเครื่องบินทหาร C-130 ที่ทางการอินโดฯ นำเข้าไปพื้นที่ ซึ่งได้ประสานแจ้งไปยังรัฐมนตรีท่องเที่ยวอินโดนีเซียและทหารอากาศที่รับผิดชอบในพื้นที่ โดยคาดว่านักศึกษาและคนไทยจะเดินทางออกจากเมืองปาลูอย่างเร็วในวันที่ 30 ก.ย. และอย่างช้าในวันที่ 1 ต.ค. 
       ล่าสุด เฟซบุ๊กสถานทูตไทยรายงานว่า นักศึกษาและพนักงานชาวไทยจำนวน 15 คน เดินทางถึงท่าอากาศยาน Mutiara Sis Al Jufri เมืองปาลูแล้ว คาดว่าจะเดินทางออกจากเมืองปาลูได้ในวันที่ 1 ต.ค.
       พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับความสูญเสียของประชาชนชาวอินโดนีเซียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมืองปาลู และได้สั่งให้ทุกเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ เตรียมความพร้อมสนับสนุนและให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ โดยให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด.