ศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวกลุ่มเดินมิตรภาพ ห้ามตำรวจขัดขวางการใช้เสรีภาพการชุมนุมในที่สาธารณะ และให้อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยผู้ร่วมชุมนุมจนถึงวันที่ 17 ก.พ. เว้นมีการทำผิดกฎหมาย ม็อบงอกที่สกายวอล์กปทุมวัน ซัดรัฐบาล คสช.ทำประเทศไร้อนาคต นัดชุมนุมทุกเสาร์จนถึง 22 พ.ค. 

    หลังจากเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนคำร้องขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ในคดีที่เครือข่าย People Go Network Forum ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีคุกคามปิดกั้นเสรีภาพการชุมนุม ในกิจกรรม “We Walk เดินมิตรภาพ” เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองกิจกรรมดังกล่าว
    ล่าสุด เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 27 ม.ค. ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 154/2561 ระหว่างนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ฟ้องคดี กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ผู้ถูกฟ้องคดี
     คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ร่วมจัดการชุมนุมในนามเครือข่ายประชาชน People Go Network ได้ร่วมจัดกิจกรรม “We Walk เดินมิตรภาพ” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มุ่งหน้าสู่จังหวัดขอนแก่น เพื่อยืนยันสิทธิหลักประกันสุขภาพ สิทธิมนุษยชนตามกฎหมาย สิทธิชุมชน และนโยบายที่ไม่ทำลายความมั่นคงทางอาหาร โดยผู้ฟ้องคดีได้แจ้งการชุมนุมต่อผู้ถูกฟ้องคดีตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 แล้ว แต่กลับได้รับการขัดขวางจากผู้ถูกฟ้องคดี  
    จึงขอให้ศาลพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเจ็ดยุติการขัดขวางการชุมนุม ให้ดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ โดยผู้ฟ้องคดีทั้งสี่มีคำขอวิธีการชั่วคราวก่อน การพิพากษา ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเจ็ดยุติการขัดขวางการชุมนุม และให้ดูแลความปลอดภัยในการชุมนุมจนกว่าจะสิ้นสุดการชุมนุมตามที่แจ้งไว้แก่เจ้าหน้าที่
     ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะเริ่มการชุมนุมเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2516          เจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีได้สั่งการให้ผู้ฟ้องคดีกับพวกรื้อค้นเสบียง เสื้อผ้า สัมภาระ มีการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน และสอบสวนผู้ฟ้องคดีกับพวก 
คุ้มครองชั่วคราว
    จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีในฐานะเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย และอาจมีการปิดกั้น ขัดขวางเสรีภาพในการชุมนุมของผู้ฟ้องคดีทั้งสี่และผู้ร่วมชุมนุม
    และน่าเชื่อว่าจะมีการปิดกั้น ขัดขวาง อันเป็นการกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปในเหตุที่มีการฟ้องร้อง ซึ่งทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่และผู้ร่วมชุมนุมได้รับความเสียหายต่อไปได้ และการมีคำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวของศาลก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคแก่การบริหารงานของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเจ็ดแต่อย่างใด 
    ศาลจึงมีคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีกระทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางการใช้เสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะของผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ และผู้ร่วมชุมนุมภายในขอบเขตตามกฎหมาย 
    ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเจ็ดอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่และผู้ร่วมชุมนุมจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 อันเป็นวันสิ้นสุดการชุมนุม 
    แต่หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่และผู้ร่วมชุมนุมกระทำการใดในการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะพิจารณากำหนดเงื่อนไข หรือมีคำสั่ง หรือประกาศให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม หรือแก้ไข หรือร้องขอต่อศาล ให้มีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม หรือดำเนินการอื่นใดตามอำนาจหน้าที่เพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะหรือกฎหมายอื่นได้
    ขณะที่เครือข่ายประชาชน และนักวิชาการ ที่ได้ทำกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ ออกเดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายปลายทางอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเชื่อมร้อยประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ร่วมกันแสดงความคิดเห็นสะท้อนปัญหาผลกระทบจากนโยบายรัฐใน 4 ประเด็นหลัก คือ รัฐสวัสดิการความมั่นคงทางอาหาร ทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิชุมชน และเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งล่าสุดขณะนี้ทั้งหมดได้เดินทางถึงจังหวัดนครราชสีมาแล้ว และได้จัดกิจกรรมเสวนาเรื่อง บัตรทองสิทธิขั้นพื้นฐาน เบิกทางสู่รัฐสวัสดิการ ขึ้นที่บ้านมลฤดี ถนนมิตรภาพซอย 8 เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีเครือข่ายประชาชนเข้าร่วมรับฟังการเสวนาครั้งนี้จำนวนมาก
    นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นสิทธิ  ศาลปกครองมีคำสั่ง สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดการปิดกั้นการเดิน และให้อำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเรามีสิทธิเสรีภาพในการเดินทำกิจกรรมภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
ชุมนุมสกายวอล์ก
    สำหรับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รัฐบาลต้องพัฒนาหลักประกันสุขภาพให้มีความเสมอภาค และเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะมาตรา 9 และมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำในหลายๆ กองทุน ให้เหลือเพียงกองทุนเดียว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ หรือการแก้ไขเรื่องของการแยกเงินเดือนออกจากการจ้างเหมาจ่ายรายหัว 
    ซึ่งกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ เราได้จัดขึ้นเพื่ออยากให้ประชาชนทุกคนได้เรียนรู้รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ว่ารองรับสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้จริงหรือไม่ และการเดินมิตรภาพในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับประชาชนที่มีข้อข้องใจ หรือมีประเด็นคำถามที่อยากรู้ ก็ให้ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็น และพูดคุยร่วมกัน
    วันเดียวกันนี้ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยนัดชุมนุมแสดงพลังต่อต้าน คสช. นัดประชาชนอยากเลือกตั้ง บริเวณลานสกายวอล์ก เขตปทุมวัน พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว ก็คงติดตามความเคลื่อนไหวเพื่อดูแลสถานการณ์ให้มีความสงบเรียบร้อย 
    เขาเชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่ก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยและความรุนแรง เพราะเราจะใช้มาตรการพูดคุยทำความเข้าใจ การตักเตือน และขอความร่วมมือ แต่ถ้าอะไรที่ทำผิดกฎหมายเราก็ต้องขอร้องกัน เพราะคสช.ไม่อยากบังคับใช้กฎหมายแบบเข้มข้นและรุนแรง และเราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นเช่นนั้น
         เมื่อถามว่า การนัดแนะแบบนี้จะเข้าข่ายผิดคำสั่งคสช.เรื่องการชุมนุมเกิน 5 คน และ พ.ร.บ.การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ.2558 หรือไม่ จะทำความเข้าใจอย่างไร โฆษก คสช.ตอบว่า เราก็ต้องพยายามอธิบายให้กลุ่มดังกล่าวเข้าใจว่าถ้าทำอะไรแล้วผิดกฎหมายก็อย่าทำ เพราะมันจะผิดกฎหมาย และจะไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นด้วย สุดท้ายจะเป็นตัวอย่างในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งว่า คสช.ขอความร่วมมือให้งดเว้นเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
      “เจตนาประสงค์ของพวกเขาก็อยากจะให้มีภาพที่ปรากฏออกไปว่ามีการชุมนุม มีความไม่เรียบร้อย เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่สาธารณะ ทุกคนก็รู้กันดีทั้งนั้น แต่บรรยากาศแบบนี้ สิ่งที่เราต้องการคือความผาสุกของบ้านเมือง ก็ขอร้องว่าอย่าทำอะไรที่เกินกรอบกฎหมาย ถ้าทุกคนเคารพกฎหมาย บ้านเมืองก็จะเดินต่อไปได้” 
นัดชุมนุมทุกวันเสาร์
       ผบ.มทบ.11 กล่าวอีกว่า แต่ถ้าอะไรที่ไม่พึงพอใจในการปฏิบัติอะไรต่างๆ พวกท่านก็สามารถส่งหนังสือร้องเรียนมาได้ เพราะจะมีหน่วยงานเกี่ยวข้องรับเรื่องราวร้องเรียนอยู่แล้ว มากกว่าการที่จะไปชุมนุม เพราะจะไม่เหมาะในเวลานี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็น ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิวส์ แกนนำกลุ่ม กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล คสช. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พรากสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้ง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชน แต่ในวันนี้กลับผิดคำสัญญา ซึ่งทุกคนมีแต่ความทุกข์ พล.อ.ประยุทธ์ทำสำเร็จแค่สิ่งเดียว คือการรัฐประหาร โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง 
    เชื่อว่าในวันนี้อีก 5-10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยก็จะไม่มีอนาคตถ้ารัฐบาล คสช.ยังอยู่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ดีพอสำหรับประเทศนี้ ถ้านายกฯ รักประเทศจริงๆ ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แม้แต่คำสัญญาที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย วันพรุ่งนี้จะไม่มาถึง ถ้าประชาชนไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ซึ่งวันนี้ที่เรามาชุมนุมกัน เรามาโดยสันติไม่มีความรุนแรง เพราะเรามาเพื่ออนาคตของประเทศ
    ทั้งนี้ ทางกลุ่มยังได้จัดแถลงการณ์ประณาม คสช.ในการตั้งข้อหาดำเนินการทางกฎหมาย 8 แกนนำ ที่ได้ทำการรณรงค์เดินเพื่อมิตรภาพ สื่อสารประเด็นสาธารณะจากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น โดยอ้างว่าผิดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป การกระทำเช่นนี้ของรัฐบาล คสช. แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเลยเถิด ทำให้ คสช.มีอำนาจเหนือพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ โดยปราศจากความละอาย ดังนั้นในฐานะประชาชน ขอประณามการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
    ท้ายที่สุด ขอเรียกร้องให้ คสช.หยุดการตั้งข้อหาและดำเนินคดีประชาชนและนักเคลื่อนไหวที่แสดงออกทางการเมืองทุกกรณี ทั้งนี้ จะนัดมาชุมนุมทุกวันเสาร์ จนถึงวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบในการรัฐประหาร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย กระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย โดยรอบพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างไร ด้านเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ (บีทีเอส) ได้เข้าเจรจาให้ยุติการชุมนุมในเวลา 20.00 น.