เพลิงไหม้ร้านค้าส่งในตัวเมืองแม่สอด แสงไฟโชนฉานลามอาคารพาณิชย์ 4 ห้อง ต้องระดมรถดับเพลิงนับสิบคันฉีดน้ำสกัด ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายกว่า 30 ล้าน นับเป็นเหตุรุนแรงสุดในรอบ 15 ปี สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ
    เมื่อเวลา 01.00 น.เศษ วันที่ 30 กันยายนนี้ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์กลางตลาดสดพาเจริญ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งสินค้าที่มีชื่อเสียงติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา กลางเมืองแม่สอด จึงสั่งการฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด วิทยุประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอด และเขตท้องที่ข้างเคียง พร้อมกำลังตำรวจ สภ.แม่สอด, เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.แม่สอด และหน่วยกู้ภัยเดินทางไปสกัดเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่สูง 3 ชั้นครึ่งรวม 4 คูหา โดยบริเวณใกล้เคียงเป็นบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าสร้างอยู่ติดกันตลอดแนวถนนกลางเมืองแม่สอด ต้นเพลิงเป็นร้านวินัยมาร์เก็ตจำกัด เปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารแห้ง ถุงพลาสติก และกล่องโฟม เก็บสต๊อกสินค้าไว้ภายในตัวอาคารจนเต็มร้าน แต่ไม่มีใครพักอาศัย
    เพลิงได้ลุกโหมจากภายในอาคารอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำเข้าสกัด จนเกือบควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่จู่ๆ ก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นหนึ่งครั้ง จากนั้นเปลวเพลิงกลับมาปะทุอย่างรุนแรงอีก จนหน่วยดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟภายในตัวอาคารต่างต้องรีบหนีออกมาจากตัวอาคารกันจ้าละหวั่น ขณะที่เพลิงได้โหมไหม้ลุกลามไปยังอาคารร้านค้าข้างเคียงอย่างรวดเร็ว จนอาคารร้านค้าทั้งสี่คูหากลายเป็นทะเลเพลิง ทำให้เจ้าของอาคารข้างเคียงต้องรีบขนข้าวของหนีไฟกันอลหม่าน
    เจ้าหน้าที่ได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยดับเพลิงท้องที่ข้างเคียงให้ระดมรถดับเพลิงกว่า 15 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลามไปยังอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกัน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นที่เก็บสินค้านานาชนิด จนเวลาผ่านไปนานกว่า 5 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบว่าร้านค้าส่งสินค้าทั้ง 4 คูหาเสียหายทั้งหมด และตัวอาคารน่าจะอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัย เนื่องจากถูกเพลิงไหม้นานหลายชั่วโมง และเจ้าหน้าที่ก็ยังต้องฉีดน้ำต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีก พร้อมสั่งปิดกั้นพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุให้เป็นจุดอันตรายห้ามเข้าเด็ดขาด 
    จากการสอบสวนพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านค้าจำหน่ายสินค้าในตลาดสดแม่สอด เบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในร้านต้นเพลิง และได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรภายในร้าน จากนั้นก็เกิดเพลิงไหม้ไปทั่วตัวอาคาร และลุกลามไปยังอาคารข้างเคียง
    เหตุเพลิงภายในตลาดสดแม่สอดครั้งนี้ ถือเป็นเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 15 ปี ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังต้องรอตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.