เครื่องบินขับไล่ล่องหนเอฟ-35 รุ่นก้าวหน้าที่สุดของกองทัพสหรัฐ ประสบเหตุตกขณะฝึกบินที่เซาท์แคโรไลนาเมื่อวันศุกร์ เครื่องบินพังพินาศอย่างสิ้นเชิง แต่นักบินดีดตัวออกมาได้ก่อน

แฟ้มภาพจากกองทัพเรือสหรัฐ เครื่องบินเอฟ-35 บี ไลต์นิง 2 ทะยานขึ้นจากดาดฟ้าของเรือยูเอสเอส เอสเสกซ์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 / AFP / US Navy

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2561 อ้างคำแถลงของกองบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐ ว่าเครื่องบินเอฟ-35 ลำนี้ตกด้านนอกฐานทัพโบฟอร์ตของกองกำลังนาวิกโยธินแห่งกองทัพสหรัฐในรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อเวลา 11.45 น.ของวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2561 (23.15 น.วันเดียวกันของไทย) เหตุการณ์นี้เป็นการสูญเสียเครื่องบินรุ่นนี้ลำแรกในโครงการเอฟ-35 ที่เป็นเครื่องบินขับไล่ราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยว่า เครื่องบินเสียหายอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกคนจากสำนักงานนายอำเภอโบฟอร์ตเคาน์ตีกล่าวว่า นักบินสามารถดีดตัวออกมาได้ และกำลังได้รับการประเมินอาการบาดเจ็บ

เครื่องบินลำนี้เป็นเอฟ-35 บี ที่ใช้สำหรับกองกำลังนาวิกโยธิน สามารถบินขึ้นจากรันเวย์ระยะสั้นและลงจอดในแนวดิ่งได้ ขณะที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือนั้นมีเครื่องบินเอฟ-35 ในโมเดลของกองทัพนั้นๆ รายงานกล่าวว่า มูลค่าการผลิตของแต่ละชนิดนั้นไม่เท่ากัน แต่ราคาขั้นต่ำนั้นตกลำละประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ (รายว 3,240 ล้านบาท) คาดว่าเอฟ-35 เอส ที่จะผลิตต่อไปในอนาคตนั้นจะถูกลงเล็กน้อย

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากกองทัพสหรัฐนำเครื่องบินเอฟ-35 ออกปฏิบัติการในสมรภูมิจริงเป็นครั้งแรก ในภารกิจโจมตีเป้าหมายของพวกตอลิบันในอัฟกานิสถานเมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลเคยใช้เครื่องบินเอฟ-35 เอ ออกปฏิบัติการโจมตีในสมรภูมิจริงมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อ 4 เดือนก่อนหน้านั้น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มักอวดสรรพคุณของเครื่องบินขับไล่ก้าวหน้ารุ่นนี้ว่า ข้าศึกศัตรูจะ "มองไม่เห็น" มัน ขณะที่บริษัทล็อกฮีดมาร์ติน ผู้ผลิตกล่าวว่า เครื่องบินล่องหนรุ่นก้าวหน้านี้สามารถหลบหลีกเรดาร์ได้

โครงการมูลค่ามหาศาลนี้เริ่มเมื่อต้นทศวรรษ 1990 แต่ประสบกับปัญหารุมเร้ามาโดยตลอด ทั้งการผลิตล่าช้าและต้นทุนการผลิตที่บานปลาย กลายเป็นโครงการอาวุธที่ใช้ต้นทุนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ประเมินว่าใช้เงินถึง 400,000 ล้านดอลลาร์ ถึงขณะนี้สหรัฐเพิ่งส่งมอบเอฟ-35 ได้ 245 ลำ ส่วนใหญ่เป็นของกองทัพอากาศ โดยมีเป้าหมายผลิตเครื่องบิน 2,500 ลำในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า.